ไม่มีใครอยากติดเครดิตบูโร
จากกรณี Coway เป็นหนึ่งในสมาชิกเครดิตบูโร จนเกิดกรณีสร้างความไม่พอใจให้กับลูกค้า จากข้อมูลลูกค้าค้างชำระส่งไปยังเครดิตบูโร ตามข้อระเบียบของสมาชิก เนื่องจากกรณีค้างชำระมาจากความผิดพลาดในการตัดบัตรเครดิต
สรุปเหตุการณ์ Coway ออกจากเครดิตบูโร จากการตลาด Subscription Model
และในกรณีนี้ Coway แก้ปัญหาด้วยการพาตัวเองลาออกจากเครดิตบูโร ส่งผลให้ลูกค้าของ Coway ไม่มีชื่อในเครดิตบูโรอีกต่อไป จากการลบข้อมูลของ Coway ที่เคยส่งให้เครดิตบูโรหลังลาออกจากสมาชิก นับแต่วันที่ 8 พฤษภาคม 2567
โดยการเก็บข้อมูลของเครดิตบูโร จะเก็บข้อมูลจากสมาชิกส่งรายงานของลูกค้าไว้สองส่วน ได้แก่
1. ข้อมูลที่บ่งชี้ถึงตัวบุคคลที่เป็นลูกค้า
ประกอบด้วย ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ นามสกุล เลขที่บัตรประชาชน วันเดือนปีเกิด
2. ข้อมูลสินเชื่อที่ได้รับอนุมัติ และประวัติการชำระหนี้ โดยจำแนกเป็นรายบัญชีที่มีอยู่ตามสถาบันการเงิน และบริษัทสมาชิก
ซึ่งข้อมูลส่วนนี้จะประกอบด้วย
ข้อมูลสรุปบัญชีสินเชื่อ ประกอบด้วย
– จำนวนบัญชีสินเชื่อทั้งหมดที่มีอยู่
– ประเภทและเลขที่ของบัญชีสินเชื่อ
– ชื่อผู้ให้สินเชื่อ
– วงเงินที่ได้รับอนุมัติ และวงเงินที่ใช้ไป
– สถานะของบัญชี เช่น ปกติ, ปิดบัญชี, พักชำระหนี้, ค้างชำระหนี้
– รายละเอียดการชำระหนี้ ซึ่งจะแสดงประวัติการชำระหนี้ที่ผ่านมา ทั้งชำระตรง ชำระล่าช้า หรือผิดชำระ
– ข้อมูลอื่น ๆ เช่น วันเปิดบัญชี วันที่ชำระหนี้ล่าสุด วันที่ปิดบัญชี วันที่ปรับโครงสร้างนี้
ความสำคัญของข้อมูลในเครดิตบูโร คือ การเป็นข้อมูลกลางที่ให้สถาบันการเงิน และบริษัทต่าง ๆ นำไปประกอบในการพิจารณาสินเชื่อ เพื่อสะท้อนภาระหนี้ และการชำระหนี้ของบุคคลคนนั้นที่มีอยู่ในปัจจุบัน
และผู้ที่มีประวัติการชำระหนี้ที่ดี จากข้อมูลในเครดิตบูโรจะมีโอกาสได้รับสินเชื่อที่เหมาะสม หรือไม่ถูกปฏิเสธสินเชื่อจะมีมากขึ้นตามมา
ซึ่งสมาชิกในเครดิตบูโรจะสามารถเรียกดูข้อมูลจากเครดิตบูโรได้ เพื่อนำไปประกอบการพิจารณากับข้อมูลอื่น ๆ ในการอนุมัติสินเชื่อ และอื่น ๆ
และผู้ถูกปฏิเสธสินเชื่อสามารถยื่นขอตรวจเครดิตบูโรของตัวเองได้เช่นกัน รวมถึงสามารถแจ้งข้อมูลที่ไม่ถูกต้องในเครดิตบูโรไปยังสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ได้เช่นกัน
อย่างไรก็ สำหรับเครดิตบูโร หรือ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด เป็นบริษัทที่เป็นตัวกลางในการเก็บข้อมูลประวัติด้านสินเชื่อให้กับธนาคารพาณิชย์และบริษัทสมาชิก มีรายได้จากการให้บริการกับสถาบันการเงิน บริษัทสมาชิก ตรวจเช็กเครดิตด้านสินเชื่อของบุคคลทั่วไปเพื่อประกอบการอนุมัติสินเชื่อ หรือบริการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการให้เครดิตทางการเงิน และอื่น ๆ
รวมถึงให้บริการกับประชาชนทั่วไปในการตรวจสอบเครดิตของตัวเองในการชำระหนี้อีกด้วย
โดยรายได้ของเครดิตบูโรจะแปรผันตามจำนวนผู้มาขอสินเชื่อและอื่น ๆ ที่ต้องตรวจสอบกับเครดิตบูโรในแต่ละปี
ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาเครดิตบูโรมีรายได้รายงานกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ดังนี้
2561 รายได้รวม 610.25 ล้านบาท กำไร 206.17 ล้านบาท
2562 รายได้รวม 666.87 ล้านบาท กำไร 211.08 ล้านบาท
2563 รายได้รวม 717.52 ล้านบาท กำไร 277.57 ล้านบาท
2564 รายได้รวม 912.21 ล้านบาท กำไร 329.75 ล้านบาท
2565 รายได้รวม 1,110.11 ล้านบาท กำไร 424.25 ล้านบาท
Marketeer FYI
เครดิตบูโรเป็นหน่วยงานกลางที่ตั้งขึ้นมาหลังวิกฤตทางการเงินต้มยำกุ้งในประเทศไทย จากกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทยต่างฝ่ายต่างผลักดันโครงการศูนย์กลางข้อมูลเครดิตของตัวเอง เพื่อเป็นศูนย์กลางรวบรวมข้อมูลลูกค้าสินเชื่อ ช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มประสิทธิภาพการให้สินเชื่อ เพื่อป้องกันปัญหาหนี้เสียในระบบเศรษฐกิจ หรือหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้
ทำให้ศูนย์ข้อมูลเครดิตกลางเกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกันถึง 2 บริษัท
ได้แก่
บริษัท ข้อมูลเครดิตไทย จำกัด
เป็นบริษัทที่ก่อตั้งโดยกระทรวงการคลังที่มอบหมายให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์เป็นหน่วยงานหลักในการจัดตั้งศูนย์ข้อมูลเครดิต เนื่องจากในเวลานั้น ดร.พิสิฐ ลี้อาธรรม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นผู้รับผิดชอบดูแลธนาคารอาคารสงเคราะห์อยู่
หน้าที่หลักของ บริษัท ข้อมูลเครดิตไทย จำกัด ทำหน้าที่รวมข้อมูลเพื่อประโยชน์ในการวิเคราะห์สินเชื่อและลดภาระหนี้เสียของสถาบันการเงินต่าง ๆ ที่เป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนของสถาบันการเงินในประเทศอยู่ในขณะนั้น
และบริษัท ระบบข้อมูลกลาง จำกัด
เป็นบริษัทที่จัดตั้งโดยธนาคารแห่งประเทศไทยและสมาคมธนาคารไทย มีธนาคารพาณิชย์ไทย 13 แห่งที่เป็นสมาชิกสมาคมธนาคารไทยเป็นผู้ถือหุ้น ก่อนเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ข้อมูลเครดิตกลาง จำกัด ในปี 2543 จากการมีพันธมิตรที่เพิ่มขึ้น
จนในปี 2548 บริษัท ข้อมูลเครดิตกลาง จำกัด มีการควบรวมกับบริษัท ข้อมูลเครดิตไทย จำกัด และเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด
ทำให้ศูนย์ข้อมูลเครดิตกลาง หรือเครดิตบูโร เหลือให้บริการเพียงหนึ่งเดียวในปัจจุบัน
–
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ