ทีทีบี วิเคราะห์กลยุทธ์สุดลึกในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการให้ตรงใจลูกค้า

หลังจาก “ทีเอ็มบีธนชาต” หรือ “ทีทีบี” เดินหน้า LEAD the CHANGE” รุกปรับโครงสร้างองค์กรส่ง 7 ผู้บริหารระดับสูงรุ่นใหม่ นำทัพขับเคลื่อนกลยุทธ์องค์กร เร่งทรานส์ฟอร์ม เสริมแกร่ง เพื่อมอบประสบการณ์ทางการเงินแบบรอบด้าน

ในช่วง 2-3 ปีมานี้เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงมากมายของทีทีบีที่มีความหมายและเป็นประโยชน์ต่อลูกค้า ผ่านการนำเสนอโซลูชันเพื่อยกระดับชีวิตทางการเงินของลูกค้าทุกกลุ่มในทุกช่วงชีวิตให้ดีขึ้นในทุกมิติ โดยเฉพาะ 4 กลุ่มลูกค้าหลักที่ธนาคารเชี่ยวชาญ ได้แก่ กลุ่มคนมีรถ คนมีบ้าน พนักงานเงินเดือน และลูกค้า Wealth

Marketeer มีโอกาสได้พูดคุยกับ จเร เจียรธนะกานนท์ ประธานกลุ่ม บริหารผลิตภัณฑ์สินเชื่อรายย่อย ทีเอ็มบีธนชาต (Chief Retail Lending Group) และกรรมการผู้จัดการ ttb consumer 1 ใน 7 ผู้บริหารรุ่นใหม่ ผู้นำทีมในการกำหนดกลยุทธ์ การออกผลิตภัณฑ์สินเชื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า สอดรับหลักเกณฑ์การให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม (Responsible Lending) รวมถึงการดูแลคุณภาพสินเชื่อ เพื่อให้ธนาคารสามารถแข่งขันและเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน

เข้าใจทุกปัญหาและความต้องการของลูกค้า
ด้วยประสบการณ์ด้านผลิตภัณฑ์สินเชื่อมากว่า 2 ทศวรรษ

คุณจเรถือว่าเป็นผู้ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการทำงานด้านผลิตภัณฑ์สินเชื่อรายย่อย ทั้งบัตรเครดิต สินเชื่อบุคคล และสินเชื่อบ้านมายาวนานกว่า 20 ปี และเป็นผู้นำในด้านการวางแผน ขับเคลื่อนและสร้างการเติบโตในสินเชื่อรายย่อย รวมทั้งโซลูชันการรวบหนี้ และโซลูชัน Digital Lending อีกด้วย

กับบทบาท ประธานกลุ่มบริหารผลิตภัณฑ์สินเชื่อรายย่อย ในครั้งนี้ คุณจเรกล่าวว่า นับเป็นความท้าทายครั้งสำคัญ จากปัจจัยต่าง ๆ มากมาย โดยเฉพาะการเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้นของเทคโนโลยีที่ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว

“จากการที่อยู่ในธุรกิจนี้มานาน ดูแลเรื่องสินเชื่อธุรกิจ สินเชื่อรายย่อย ตั้งแต่การวางกลยุทธ์ การหาลูกค้า การออกแบบผลิตภัณฑ์ ไปจนถึงการควบคุมบริหารความเสี่ยงต่าง ๆ มามากกว่า 20 ปี เห็นการเปลี่ยนแปลงมากมายในตลาด ได้เรียนรู้และมีประสบการณ์มามากพอสมควร

สภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งเรื่องของเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่เข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น ทำให้พฤติกรรมของลูกค้าเองก็ปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นการทำงานของเราก็จะต้องเปลี่ยนไป ต้องมีความรวดเร็วในการตอบสนองความต้องการของลูกค้ามากขึ้น ขณะเดียวกันก็ต้องเรียนรู้ที่จะนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เต็มประสิทธิภาพ”

คุณจเรเสริมว่า เทคโนโลยีมีส่วนสำคัญอย่างมากในการขับเคลื่อนธุรกิจสินเชื่อรายย่อย เพราะเป็นกลไกหนึ่งที่ทำให้รูปแบบธุรกิจและรูปแบบการทำงานเปลี่ยนไป โดยเฉพาะเรื่องการนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมและเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ลูกค้า

“เทคโนโลยีนำพาการเปลี่ยนแปลงมากมายและยังมาในหลายรูปแบบ นอกจากช่วยให้การทำงานง่ายขึ้นและมอบประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับลูกค้าแล้ว ยังช่วยให้เราใช้ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราได้มีการนำ AI มาวิเคราะห์และบริหาร Data รวมทั้งนำมาทำ Credit Modelling ต่าง ๆ ซึ่งช่วยให้เราสามารถอนุมัติสินเชื่อได้ดียิ่งขึ้น

และยังนำ AI มาพัฒนา Model เพื่อช่วยในการประเมินว่าลูกค้ามีแนวโน้มความต้องการผลิตภัณฑ์ในอนาคตอย่างไร ทำให้ตอนนี้เราสามารถนำเสนอ Personalized Offer ไปที่ลูกค้าได้เร็วขึ้นและดีขึ้นผ่านช่องทาง Mobile Banking ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากขึ้น เท่ากับว่าเทคโนโลยีมีส่วนอย่างมากตั้งแต่หลังบ้านของเราไปตลอดจนถึงการสื่อสารกับลูกค้านั่นเอง”

สานต่อหลักเกณฑ์การให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม
เดินหน้าด้วยพันธกิจ “การสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นให้กับคนไทย”

ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ออกหลักเกณฑ์การให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม ซึ่งบางส่วนได้มีผลบังคับใช้ไปแล้วเพื่อสานต่อการแก้หนี้ครัวเรือน พร้อมยกระดับการบริหารจัดการด้านสินเชื่อให้มีความรับผิดชอบและเป็นธรรมมากยิ่งขึ้น และส่งเสริมให้ลูกค้าที่มีความจำเป็นก่อหนี้ใหม่อย่างมีคุณภาพ รวมทั้งมีวินัยทางการเงินที่ดีขึ้น

“ทีทีบี” ถือว่าเป็นธนาคารแรก ๆ ที่ให้ความสำคัญกับการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรมเพื่อแก้ปัญหาหนี้อย่างยั่งยืน และทำเรื่องนี้มานานแล้ว ซึ่งสอดรับกับหลักเกณฑ์ของ ธปท. โดยแนวคิดการวางกลยุทธ์ปล่อยสินเชื่อของทีทีบีนั้น เป้าหมายในการออกแบบโซลูชันทางการเงินไม่ได้มุ่งหวังเรื่องผลประกอบการแต่เพียงอย่างเดียว หากเป็นการมุ่งช่วยเหลือคนไทยให้มีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น ตามพันธกิจสำคัญของทีทีบี คือ “การช่วยให้คนไทยมีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น”

“นอกเหนือจากการพยายามผลักดันเรื่อง Digital Transformation ที่จะนำไปสู่เรื่องของ Digital Lending แล้ว ทีทีบียังมีพันธกิจสำคัญ คือ การช่วยให้คนไทยมีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น ซึ่งเรื่อง Responsible Lending เป็นเรื่องที่ทีทีบีได้ดำเนินการมาโดยตลอด

และให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ในการมุ่งมั่นพัฒนาบริการทางการเงินใหม่ ๆ เพื่อเป็นโซลูชันให้แก่ลูกค้าที่ต้องการจัดการหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนช่วยให้ลูกค้ามีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการเลือกสินเชื่ออย่างเหมาะสม ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน นำไปสู่การปลดหนี้ได้เร็วขึ้นและมีชีวิตทางการเงินที่ดี (Financial Well-Being) อย่างยั่งยืน

แคมเปญ “พิชิตหนี้” ช่วยพนักงานเงินเดือนปลดหนี้ไวขึ้น

ช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา ทีทีบีเปิดตัวแคมเปญ “พิชิตหนี้” ที่มุ่งช่วยเหลือพนักงานเงินเดือนให้พิชิตหนี้ได้ไวขึ้น ผ่าน 4 โซลูชันทางการเงิน ประกอบด้วย

  1. โปรแกรมตรวจสุขภาพทางการเงิน ทีทีบี (ttb financial health check) เครื่องมือวัดระดับหนี้และตรวจสุขภาพการเงินออนไลน์ที่จะช่วยวางแผนเริ่มต้นพิชิตหนี้ โดยให้ลูกค้าสามารถทราบสถานะทางการเงินที่เหมาะสมกับสภาวะการเงินของแต่ละคน พร้อมคอร์สออนไลน์เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันการเป็นหนี้
  2. รวบหนี้ด้วยบ้านหรือรถ กับทีทีบี โซลูชันรวบหนี้เป็นก้อนเดียว เพียงมีบ้าน หรือมีรถ ก็สามารถผ่อนหนักให้เป็นเบาได้ ช่วยประหยัดดอกเบี้ยให้ถูกลง ค่างวดลดลง มีเงินเหลือใช้เพิ่มขึ้น และไม่คิดภาระหนี้ที่ต้องการรวบ
  3. สินเชื่อสวัสดิการอเนกประสงค์ ทีทีบี แบบไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน (ttb welfare loan) สำหรับพนักงานที่รับเงินเดือนผ่านบัญชีของทีทีบี และกำลังมองหาตัวช่วยลดภาระหนี้ ด้วยอัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 7.99% ต่อปี
  4. บริการโอนยอดหนี้มารวมที่บัตรกดเงินสด ทีทีบี แฟลช โซลูชันสำหรับคนที่มีพฤติกรรมจ่ายหนี้ตรงเวลา โดยโอนยอดหนี้บัตรกดเงินสด สินเชื่อบุคคล และบัตรเครดิตที่มีอยู่กับสถาบันการเงินอื่นมารวมไว้ ดอกเบี้ยลดลง เริ่มต้น 13% ต่อปี

ซึ่งการเปิดตัวแคมเปญพิชิตหนี้ นับเป็นการแสดงจุดยืนพร้อมตอกย้ำพันธกิจของทีทีบีในการสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นให้กับคนไทยอย่างแท้จริง

ทีทีบีเข้าใจ Pain Point ของลูกค้าในเรื่องหนี้เป็นอย่างดี เราจึงให้ความสำคัญกับการแก้หนี้ เพราะเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะช่วยให้ลูกค้าสามารถแบ่งเบาภาระ เพิ่มสภาพคล่อง และมีเงินเหลือเก็บมากขึ้น สิ่งเหล่านี้จะนำพาไปสู่ชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นได้ในอนาคต ซึ่งสอดคล้องกับพันธกิจของธนาคาร

โจทย์ตอนนี้ คือ ทำยังไงให้ลูกค้ามีภาระเรื่องหนี้น้อยลง เข้าถึงดอกเบี้ยที่ถูกลงให้มากที่สุด อย่างไรก็ดีคนไทยเองยังไม่ค่อยทราบว่าตัวเองอยู่ในสถานะทางการเงินไหน สุขภาพหนี้เป็นอย่างไร เพราะฉะนั้นสิ่งแรกที่ธนาคารพยายามทำคือทำตัววัดสถานะทางการเงินสำหรับลูกค้า มีโปรแกรมให้ลูกค้าเป็นแบบทดสอบประเมินออกมาเพื่อดูว่าเขาอยู่ในสถานะหนี้ระดับไหน โอเคหรือไม่อย่างไร

พอเขาทราบแล้วว่าอยู่ในสถานะที่ ‘Need Help’ หรือต้องการตัวช่วย ทีทีบีก็มีโซลูชันต่าง ๆ เพื่อช่วยให้ลูกค้าพิชิตหนี้ ผ่าน 4 โซลูชันทางการเงินที่กล่าวไป ซึ่งเราได้คิดมาเป็นอย่างดีแล้วว่าเป็นตัวช่วยที่จะช่วยสนับสนุนและส่งเสริมให้พนักงานเงินเดือนที่มีความตั้งใจที่จะปลดหนี้ หรือต้องการมีเงินเหลือเก็บมากขึ้น สามารถปลดหนี้ได้อย่างรวดเร็วและยั่งยืน

ที่สำคัญเราใช้วิธีสื่อสารและให้พนักงานเงินเดือนสามารถเข้าถึงตัวช่วยได้เร็วยิ่งขึ้น ผ่านการสแกน QR Code ที่ปรากฏอยู่ในสื่อโฆษณาทุกชิ้นเพื่อเลือกตัวช่วยพิชิตหนี้ หรือโซลูชันทางการเงินที่เหมาะสมแต่ละคน (ttbbank.com/phi-chit-nee)

หลังจากที่เราเปิดตัวแคมเปญพิชิตหนี้ไปประมาณเดือนมีนาคม 2567 ปัจจุบันมีผู้เข้าชมวิดีโอมากกว่า 16,000,000 วิว มีผู้เข้าเว็บไซต์พิชิตหนี้กว่า 800,000 ครั้ง มีผู้เข้าร่วมทำโปรแกรมตรวจสุขภาพทางการเงินเกือบ 30,000 ราย ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีคนให้ความสนใจมาก

ในส่วนของ Product Solution ต่าง ๆ ภายใต้แคมเปญพิชิตหนี้ ทีทีบีได้มีการนำเสนอให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดเมื่อเดือน เม.ย. 67 สามารถช่วยเหลือพนักงานเงินเดือนผ่าน สินเชื่อสวัสดิการอเนกประสงค์ ทีทีบี แบบไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ไปแล้วกว่า 416,000 ราย และสามารถช่วยลูกค้าพิชิตหนี้ผ่านบริการรวบหนี้ด้วยวงเงินรวมเกินกว่า 8,330 ล้านบาท ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง”

เดินหน้าสร้างวินัยทางการเงิน แก้หนี้อย่างยั่งยืนให้ลูกค้า

“ทีทีบี” ตั้งใจจะสร้างวินัยทางการเงินให้กับลูกค้า และพยายามส่งเสริมเรื่องนี้มาโดยตลอด เพื่อทำให้ลูกค้าใส่ใจดูแลคุณภาพสินเชื่อของตัวเอง โดยคุณจเร กล่าวเสริมว่า ทีทีบียังคงมุ่งมั่นขับเคลื่อนธุรกิจภายใต้พันธกิจหลัก คือ “การสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นให้กับคนไทย” อย่างจริงจัง เพื่อให้ทั้งธนาคารและลูกค้าเติบโตอย่างยั่งยืน

“สำหรับ ทีทีบี แล้วการขับเคลื่อนธุรกิจการเงินและธนาคารให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนจะต้องอาศัยการร่วมมือจากหลายภาคส่วน ทั้งธนาคารและลูกค้า ซึ่งล้วนจะส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจไทยทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

เราพยายามส่งเสริมและสร้างวินัยทางการเงินที่ดีให้กับลูกค้า ช่วยให้ลูกค้าสามารถบริหารจัดการหนี้สินของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถลดดอกเบี้ยสินเชื่อของตัวเองได้ เพื่อเพิ่มสภาพคล่อง

โดยโจทย์ของเราคืออยากทำให้คนไทยสามารถเข้าถึงแหล่งเงินที่ดอกเบี้ยต่ำได้ ไม่อยากให้ไปกู้นอกระบบเพราะจะเจอดอกเบี้ยที่แพงมาก ทีทีบีจึงให้ความสำคัญเรื่อง Risk-Based Pricing ที่ลูกค้าจะได้รับดอกเบี้ยถูกลงตามวินัยทางการเงินที่ดีของลูกค้าแต่ละราย และเราอยากผลักดันส่งเสริมเรื่องนี้ให้มันเกิดขึ้นอย่างจริงจังโดยใช้ข้อมูลวินัยทางการเงินของลูกค้ามาวิเคราะห์

ภารกิจสำคัญของเรา คือ เป็นส่วนช่วยในการวางแผนทางการเงินให้กับลูกค้า หากลูกค้าพิชิตหนี้ได้ มีเงินเหลือเก็บ เรามีผลิตภัณฑ์อื่น ๆ อีกมากมายที่จะช่วยในเรื่องการสร้างวินัยทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการออม การลงทุน หรือการปกป้องความเสี่ยงต่าง ๆ อย่างผลิตภัณฑ์ประกัน ตลอดจนการบริหารและจัดการหนี้ สิ่งเหล่านี้ทั้งหมดต้องไปพร้อม ๆ กัน ถึงจะเป็น Financial Well-being อย่างสมบูรณ์”

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer