Trend/วางแผนไปเที่ยวพักผ่อน ช่วยลูกเลี้ยงหลาน หรือผ่อนเกียร์ชีวิตแล้วเตรียมส่งต่อกิจการที่สร้างมาให้ลูกหลานสานต่อ คือเรื่องปกติที่คนวัยใกล้เกษียณทำกัน
เจิ้ง จือหยิง
สำหรับ เจิ้ง จือหยิง มีเรื่องที่สำคัญกว่านั้นให้ทำเพราะเธอได้เป็นตัวแทนบ้านหลังที่สองลงแข่งโอลิมปิกครั้งล่าสุด ในฐานะหนึ่งในนักกีฬาที่อายุมากสุด

เจิ้ง จือหยิง ผ่านการคัดตัวได้เป็นตัวแทนชิลี ในกีฬาเทเบิลเทนนิสของโอลิมปิก 2024 ที่ฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพ โดยก่อนการแข่งขันจะเริ่มขึ้นสื่อต่างพากันรายงานเรื่องราวของเธออันเต็มไปด้วยประเด็นน่าสนใจ
เริ่มจากเส้นทางชีวิต เพราะตามชาติกำเนิดแล้วเธอเป็นชาวจีน โดยเธอเล่าว่า เกิดในเมืองมณฑลกว่างโจวเมื่อปี 1966 และมีแม่เป็นโค้ชเทเบิลเทนนิส จึงคุ้นเคยกับกีฬาประเภทนี้
อยู่ใกล้กับสนามซ้อม เข้าถึงอุปกรณ์ได้ง่ายและแวดล้อมไปด้วยนักเทเบิลเทนนิสแต่เด็ก จนที่สุดได้เล่นระดับอาชีพด้วยเพียง 12 ปี ตามด้วยติดทีมชาติในวัย 16 ปี

ปี 1986 เธอและนักเทเบิลเทนนิสทั่วโลกต่างดีใจหลังรู้ว่าจะได้ลงชิงเหรียญโอลิมปิกเป็นครั้งแรกในโอลิมปิกที่เกาหลีใต้เป็นเจ้าภาพในอีก 2 ปีข้างหน้า
แต่การเปลี่ยนกฎการแข่งที่กระทบสไตล์การเล่นก็ทำให้เธอต้องถอนตัวจากทีมชาติ อย่างน่าเสียดายด้วยอายุเพียง 20 ปี
นี่ทำให้เมื่อโอลิมปิกปี 1988 มาถึงเธอต้องกล้ำกลืนดูนักกีฬาร่วมชาติประเดิมเหรียญทองเทเบิลเทนนิส และผันตัวไปเป็นหนึ่งในทีมโค้ชของทีมชาติแทน
ซึ่งภายหลังเธอจะได้รู้ว่านี่เองจะเปิดประตูบานใหญ่บานใหม่ และตั๋วให้ได้เดินทางไปข้ามโลก โดยปี 1989 ชิลีติดต่อสมาคมเทเบิลเทนนิสจีนไปสอนเด็ก ๆ ที่โรงเรียนในอริก้า เมืองทางเหนือสุดของประเทศ
เมืองอริก้า ในชิลี
สมาคมเทเบิลเทนนิสจีนตอบรับและได้ส่งทีมโค้ชไป ซึ่งในทีมนี้มี เจิ้ง จือหยิง รวมอยู่ด้วย หลังจบงานเธอก็อยู่ต่อที่ชิลีเป็นการถาวร และเปลี่ยนไปทำธุรกิจส่งออกสินค้าจากจีนไปขายในชิลี ร่วมกับชุมชนชาวจีนที่นั่น

ประเด็นต่อมาที่ทำให้เรื่องราวของ เจิ้ง จือหยิง น่าสนใจคือ การตัดจากเทเบิลเทนนิสไม่ขาดและเมื่อลงแข่งก็คว้าแชมป์ได้ตลอด
ปี 2002 เจิ้ง จือหยิง ในวัย 36 ปี ซึ่งอยู่ชิลีมานานจนได้สัญชาติแล้ว กลับมาจับไม้และตีลูกเด้งเพื่อลดอาการติดเกมติดโทรทัศน์ของลูกชาย

ซึ่งนอกจากจะได้ผลแล้วยังจุดไฟให้เธอกลับมาลงแข่งอีกครั้ง โดยปี 2004 และปี 2005 เจิ้ง จือหยิง ไปได้ไกลในวงการเทเบิลเทนนิสของชีลี ด้วยการคว้าแชมป์ระดับประเทศต่อเนื่อง
ทำให้ลูกชายมีกำลังใจในการเล่น และได้ไปแข่งด้วยกัน แต่หลังลูกชายโตพอที่จะไปซ้อม และเดินทางไปแข่งกับโค้ชคนอื่นได้เธอก็เลิกเล่น

เทเบิลเทนนิส หรือที่เรียกกันด้วยภาษาพูดตามเสียงเวลาเล่นว่าปิงปอง กลับมาในชีวิต เจิ้ง จือหยิง เป็นครั้งที่ 3 ซึ่งครั้งนี้ได้ส่งให้เธอได้มาโอลิมปิก
ช่วงโลกติดล็อกดาวน์ เจิ้ง จือหยิง กลับมาเล่นเทเบิลเทนนิส โดยจากแค่การออกกำลังกายเพราะไม่สามารถออกไปไหนได้ พัฒนาสู่การลงแข่งหลังมาตรการล็อกดาวน์พ้นไป

ด้วยฝีมือที่มีติดตัวมาที่สุดเธอก็ติดทีมชาติชิลี และคว้าเหรียญทอง แพน อเมริกัน เกมส์ ปี 2023 ที่ชิลีเป็นเจ้าภาพเหนือคู่แข่งในทีมอเมริกาทั้งหมด

ณ จุดนี้ เธอจึงกลายเป็นคนดังระดับประเทศของชิลี ภายใต้ฉายา “อาม่าปิงปอง” ที่มียอดผู้ติดตามใน Instragram เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
และเป็นขวัญใจคนชิลีทั้งประเทศ ซึ่งหนึ่งในนั้นมีประธานาธิบดี กาเบรียล บอริก รวมอยู่ด้วย
ประธานาธิบดี กาเบรียล บอริก ของชิลี
ด้าน ฆวน ลิซาม่า โค้ชกล่าวว่า แม้เธอจะเล่นเกมรับ แต่ก็พลิกเกมได้ตลอด และชนะคู่แข่งคนอื่น ๆ ได้ง่าย ๆ จึงเป็นคนที่เหมาะสมในการเป็นตัวแทนทีมชาติชิลีในโอลิมปิกปีหน้า
เมื่อโอลิมปิกปี 2024 มาถึง เจิ้ง จือหยิง เข้าแข่งขันในฐานะนักกีฬาถูกจับตามอง เพราะฝันในการลงแข่งโอลิมปิกเป็นจริงด้วยอายุ 58 ปี
และหากย้อนเส้นทางชีวิต นี่คือนักกีฬาที่ใช้เวลาถึง 36 ปีกว่าจะได้มาโอลิมปิก และยังเป็นการลงแข่งให้กับประเทศที่ไม่ใช่บ้านเกิดอีกด้วย

สำหรับผลการแข่งขัน แม้ “อาม่าเซียนปิงปอง” ขวัญใจชาวชิลี จะไม่ผ่านรอบคัดเลือก แต่เธอก็ดีใจที่ได้สานฝันโอลิมปิก และอยากเป็นแรงบันดาลใจให้คนวัยเดียวกันได้ลองทำฝันโดยมองข้ามเรื่องอายุไปก่อน/cnn, theguardian
–
