Digital Music เติบโตแค่ไหนในวันที่ เฮียฮ้อ ขายหุ้นในบริษัท RS UMG ทั้งหมดออกไป

ในปีที่ผ่านมา เฮียฮ้อ สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ได้นำ RS ร่วมทุนกับ UMG (Universal Music Group) เพื่อจัดตั้งบริษัท อาร์เอส ยูเอ็มจี จำกัด โดยมีสัดส่วนการถือหุ้น UMG 70% และ RS 30%

ความร่วมมือนี้ถือเป็นแนวทางของ RS ในการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ UMG มีความเชี่ยวชาญ มาช่วยเสริมศักยภาพในการสร้างการรับรู้ในเพลงของ RS Music ให้แพร่หลายไปทั่วโลก พร้อมกับสร้างรายได้ใหม่ ๆ จากช่องทางออนไลน์ เช่น YouTube, Apple Music, Meta, Spotify, TikTok และ Joox ซึ่งการขับเคลื่อนธุรกิจสินทรัพย์ลิขสิทธิ์เพลงของ RS ผ่านช่องทาง Digital Music มีความสำคัญอย่างมากในปัจจุบัน

การดำเนินธุรกิจของบริษัท อาร์เอส ยูเอ็มจี จำกัด ในปีที่ผ่านมามีรายได้ 35.37 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 12.02 ล้านบาท ตามที่รายงานต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า

เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2567 เฮียฮ้อได้ขายหุ้นสามัญทั้งหมด 30% ในบริษัท อาร์เอส ยูเอ็มจี จำกัด มูลค่ารวม 605.10 ล้านบาท ให้กับ UMG ด้วยเหตุผลเพื่อให้การบริหารลิขสิทธิ์เพลงของ RS มีความคล่องตัวมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม การทำงานร่วมกันระหว่าง RS และ UMG ยังคงมีความใกล้ชิด โดย RS ได้นำเงิน 605.10 ล้านบาทที่ได้จากการขายหุ้น ไปใช้ในการต่อยอดการเติบโตของธุรกิจเพลง เช่น การพัฒนาเพลงและคอนเทนต์รูปแบบใหม่ ๆ เพื่อสร้างมูลค่าจากทรัพย์สินทางปัญญาในระยะยาว นอกจากนี้ ยังใช้เป็นแหล่งเงินทุนในการขยายธุรกิจของบริษัทฯ ไปสู่ธุรกิจที่มีศักยภาพในอนาคต โดยเตรียมความพร้อมในการพา RS Music เข้าตลาดหลักทรัพย์ในปี 2570

แม้ว่า RS จะไม่มีหุ้นในบริษัท อาร์เอส ยูเอ็มจี จำกัด อีกต่อไป แต่การที่ UMG เข้ามาดูแลธุรกิจสินทรัพย์ลิขสิทธิ์เพลงของ RS ทั้งหมด อาจจะเป็นหนึ่งในแนวทางที่ช่วยสร้างการเติบโตให้กับเพลงของ RS ในตลาดโลก โดยเฉพาะในตลาด Digital Music ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี

อ้างอิงข้อมูลจาก Statista พบว่าตลาด Digital Music โลกมีมูลค่าในแต่ละปีดังนี้:

– ปี 2565: มูลค่า 32,490 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.08 ล้านล้านบาท)

– ปี 2566: มูลค่า 36,310 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.21 ล้านล้านบาท)

– คาดการณ์ปี 2567: มูลค่า 41,090 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.37 ล้านล้านบาท)

– คาดการณ์ปี 2568: มูลค่า 43,690 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.45 ล้านล้านบาท)

 

โดยในปีที่ผ่านมา มูลค่า Digital Music ในกลุ่ม Music Streaming (ทั้งแบบมีโฆษณาและไม่มีโฆษณา) รวมกันถึง 31,450 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.05 ล้านล้านบาท) ซึ่งเติบโตจากปี 2565 ที่มีมูลค่า 28,240 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 0.94 ล้านล้านบาท)

จากการเติบโตของผู้บริโภคทั่วโลกที่ใช้เวลาเฉลี่ย 20.7 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ในการฟังเพลงในปีที่ผ่านมา ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2565 ที่ผู้บริโภคใช้เวลาเฉลี่ย 20.1 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ อ้างอิงจาก IFPI

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline

 

 

 


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer