Work /2024 ถือเป็นปีที่วงการหนังและซีรีส์ญี่ปุ่นคึกคักขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หลักฐานคือที่สถานีโทรทัศน์ญี่ปุ่นพากันส่งซีรีส์ลงแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งระดับโลก ไล่ตั้งเรื่องเก่าที่ผู้คนยังจดจำได้ในยุค 90 อย่าง Beach Boys มาจนถึงเรื่องใหม่ ๆ ที่เพิ่งออกอากาศไปในปี 2024
Talentless Takano เป็นซีรีส์ในกลุ่มหลัง และอยู่ในประเภทซีรีส์ที่ญี่ปุ่นทำได้ดีและเป็นเสน่ห์ของซีรีส์ประเทศนี้อีกด้วย คือ แนวอาชีพและสังคมการทำงาน
สำหรับเนื้อเรื่อง เล่าถึงตัวละครเอก 2 คนที่ต่างกันสุดขั้ว นั่นคือ มิชิโกะ ฮิวาดะ (แสดงโดย อากิฮิซะ ชิโอโนะ) หนุ่มนักศึกษาจบใหม่ที่เก่งเรื่องข้อมูล แต่พูดไม่เก่ง และไม่มั่นใจในตัวเองเอาเสียเลย
กับ สึเมโกะ ทาคาโนะ (แสดงโดย อาราอิ นานาโอะ) สาวพนักงานใหม่ที่มั่นใจในตัวเองแบบสุดโต่ง มองโลกในแง่ดีมาก มนุษยสัมพันธ์เป็นเลิศ แต่ทักษะการทำงานแทบจะเป็นศูนย์ อันเป็นที่มาของชื่อเรื่อง Talentless Takano ในภาษาอังกฤษ ซึ่งสอดคล้องกับชื่อไทยที่ว่า สาวหน้ามั่นปั่นออฟฟิศ

ความสนุกชวนติดตามของซีรีส์เรื่องนี้ที่เคยเป็นมังงะมาก่อนคือ การลุ้นว่าน้องใหม่ในบริษัทที่ต่างกันสุด ๆ คู่นี้ จะทำงานได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่ บริหารความสัมพันธ์กับรุ่นพี่และหัวหน้าซึ่งเป็นตัวแทนของเพื่อนร่วมองค์กรที่เจอได้ทั่วไปอย่างไร
แม้ทั้งหมดมาในแบบเกินจริง เล่นใหญ่และเรียกเสียงฮา จนผู้ชมดูไปยิ้มไป หรือจนถึงขั้นหัวเราะออกมาดัง ๆ แต่ซีรีส์เรื่องนี้ที่ในไทยดูได้ทาง Netflix ก็ไม่เน้นเอาฮาอย่างเดียว เพราะตลอด 8 ตอนผู้ชมจะได้รู้ถึงเคล็ดลับการทำงานให้รอดและรุ่งในโลกการทำงานยุคนี้ด้วย
คิดบวกไว้มีชัยไปกว่าครึ่ง: เคล็ดลับการทำงานข้อแรกจากซีรีส์เรื่องนี้คือ การคิดบวกและยิ้มไว้ก่อนในทุกสถานการณ์ อันจะช่วยให้บรรยากาศรอบตัวดีขึ้น รวมไปถึงช่วยคลายสถานการณ์คับขันด้วย ซึ่งตัวละครที่มีจุดแข็งในเรื่องนี้คือ สึเมโกะ ทาคาโนะ
ฉากหนึ่งในซีรีส์ที่การมองโลกแง่ดีและยิ้มไว้ก่อนกู้สถานการณ์ไว้ได้ คือฉากที่ สึเมโกะ ทาคาโนะ ถูกทิ้งไว้ในห้องกับลูกค้าระหว่างไปพรีเซนต์งาน ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นซีอีโอ เพราะ มิชิโกะ ฮิวาดะ เกิดมาท้องเสียจากความตื่นเต้น

นางเอกสาวหน้ามั่นแก้สถานการณ์ด้วยการชวนลูกค้าคุยอย่างสนุก ๆ จนลูกค้าไม่เครียดระหว่างรอ และเมื่อมิชิโกะ ฮิวาดะ เข้ามาในห้องบรรยากาศก็ลดความตึงเครียดลงไป และสามารถพรีเซนต์งานได้ดี จนที่สุดขายงานได้
หาเวลาดึงสติทบทวนตัวเองบ้าง: เคล็ดลับข้อต่อมาจาก Talentless Takano คือ ผู้บริหารและบริษัทที่ดำเนินกิจการมานาน ๆ ควรหันกลับมามองตัวเองบ้างว่าบกพร่องตรงไหน และลืมตัวจนกลายเป็นเราเคยบอกว่าไม่อยากเป็นหรือไม่
สถานการณ์แรกที่สะท้อนถึงประเด็นนี้ คือ การที่หัวหน้าฝ่ายขายซึ่งเป็นคนวัยใกล้เกษียณต่อว่าลูกน้องว่าไม่เข้าใจตัวเองและยังยืนกรานจะใช้ความคิดของตัวเองที่ตกยุคไปแล้วมาทำแคมเปญ
แต่เมื่อเขาได้ยินลูกน้องกับคนในบ้านพูดถึงตัวเองโดยบังเอิญ ก็กลับมาทบทวนตัวเอง แล้วเปลี่ยนไปใช้สิ่งที่ลูกน้องเสนอ ที่สุดหัวหน้าแผนกก็เปลี่ยนตัวเองให้เป็นน่าคบหาและลูกน้องคุยด้วยได้ง่ายขึ้น ส่วนแคมเปญก็ปรับให้ทันสมัยและประสบความสำเร็จ
อีกสถานการณ์ในเรื่องที่สะท้อนถึงการหันมามองตัวเอง คือ ผู้บริหารหญิงสูงวัยบริษัทขนมเก่าแก่ที่แผนกของสองตัวเอกต้องไปพรีเซนต์งานโกรธจัดจากความผิดพลาดโดยไม่ตั้งใจของ มิชิโกะ ฮิวาดะ ซ้ำร้ายป้ายบริษัทของลูกค้าก็ดันมีข้อความตกหล่นเอาวันเดียวกัน จนทำให้เรื่องราวตึงเครียดขึ้นไปอีก
มิชิโกะ ฮิวาดะ ไปที่บริษัทนี้พร้อมรุ่นพี่ใจดี กับสึเมโกะ ทาคาโนะ เพื่อขออภัยในความผิดพลาด โดยหลังผู้บริหารหญิงสูงวัยระเบิดอารมณ์ใส่มิชิโกะ ฮิวาดะ จนเขาทนไม่ไหวเถียงกลับไปบ้างพร้อมบ่นว่า บริษัทขนมเก่าแก่แห่งนี้อยู่มานานแต่กลับหลงภูมิใจว่าขนมประวัติยาวนาน และผู้บริหารกลับไม่รู้เลยว่า ลูกค้าบ่นเรื่องพนักงานตามร้านในโลกออนไลน์
นี่ทำให้ ผู้บริหารหญิงสูงวัยกลับมามองทั้งตัวเองและองค์กร นำมาสู่การปรับปรุงบริการจนยอดขายกลับมาดีขึ้น โดยเธอก็ไม่ลืมขอบคุณพระเอกกับทีมงานที่ช่วยดึงสติ
เกรงได้แต่อย่ากลัวจนปิดทางก้าวหน้า: ช่วงกลาง ๆ ของซีรีส์ มิชิโกะ ฮิวาดะ กับ สึเมโกะ ทาคาโนะ เริ่มทำงานเก่งจนพี่ในฝ่ายขายไว้ใจให้ไปพรีเซนต์งานลูกค้ากันเอง และหวังว่าจะได้ข่าวดีจากการไปพรีเซนต์งานกับบริษัทขนมขบเคี้ยว
การประเดิมงานแรกของทั้งคู่มีความท้าทายอย่างหนึ่งนั่นคือ บริษัทของลูกค้ารายนี้ขึ้นชื่อเรื่องการพรีเซนต์งานผ่านยาก เพราะผู้บริหารไม่ชอบพรีเซนต์งานออนไลน์และเน้นขายสินค้าในเมืองใกล้ ๆ เพื่อกระชับความสัมพันธ์กับคู่ค้าเดิม
ทว่าข้อจำกัดเหล่านี้ก็มีเหตุผลรองรับที่เข้าใจได้ เพราะผู้บริหารกลัวว่าความผิดพลาดจากการขยายตลาดไปต่างประเทศจะทำให้กิจการนับร้อยปีของตระกูลต้องมาพังลงด้วยมือตน
เมื่อวันพรีเซนต์มาถึงปัญหาก็เกิดขึ้น เริ่มจาก สึเมโกะ ทาคาโนะ พา มิชิโกะ ฮิวาดะ ที่มัวแต่ท่องข้อมูลพรีเซนต์ไปเมืองจำลองแทนที่จะเป็นบริษัทลูกค้า จึงต้องพรีเซนต์แบบออนไลน์จากเมืองจำลอง
ซ้ำร้ายพรีเซนต์ไปได้ไม่นานหนุ่มออฟฟิศน้องใหม่ก็ดันมาท้องเสียต้องเข้าห้องน้ำอีก แต่ภาพแหล่งท่องเที่ยวจำลองดังที่ปรากฏในการพรีเซนต์ออนไลน์ นักท่องเที่ยวต่างชาติที่กินขนมของบริษัทนี้ที่ สึเมโกะ ทาคาโนะ และภาพที่เหมือนคุยกับข้ามประเทศ กลายเป็นส่งผลดี

เพราะทำให้ผู้บริหารเห็นประโยชน์ของการประชุมออนไลน์ และยังกระตุ้นให้เลิกกลัวการขยายตลาดไปต่างประเทศ โดยแม้ทั้งหมดจะเป็นเรื่องบังเอิญ และทำให้ดูตลก แต่ก็เป็นการสะท้อนว่าการกลัวมากเกินไปจะปิดกั้นความก้าวหน้า
ให้คุณค่ากับสิ่งที่มี: เคล็ดลับข้อสุดท้ายในการทำงานต่อเนื่องไปถึงการใช้ชีวิตที่คนดูจะได้จากซีรีส์เรื่องนี้ คือ การให้คุณค่ากับสิ่งที่มีมากกว่าสิ่งที่ยังไกลตัว โดยปรากฏขึ้นในฉาก มิชิโกะ ฮิวาดะ นั่งดูภาพในสื่อโซเชียลแล้วน้อยใจที่ไม่มีรถหรูหรือของใช้แพง ๆ แบบเพื่อนร่วมรุ่น
รุ่นพี่ร่วมออฟฟิศที่เก่งในการแก้ปัญหาเดินมาเห็นพอดี จึงแนะนำว่า เขาก็เคยเป็นเช่นนี้ช่วงทำงานแรก ๆ แต่หลังมุ่งหน้าทำงานไปเรื่อย ๆ ฐานะกับหน้าที่การงานก็ดีขึ้น และระหว่างนั้นก็ได้คนรอบตัวช่วยให้ทำงานกับให้คำแนะนำแบบนี้มาก่อนเช่นกัน
รุ่นพี่ย้ำกับ มิชิโกะ ฮิวาดะ อีกว่า การมองสิ่งดี ๆ ที่มีอยู่แล้วก็จะทำให้ความสุขได้และการเอาแต่น้อยใจที่ยังมีไม่เท่าคนอื่น ๆ แต่ไม่ทำอะไรเลย มีแต่จะยิ่งทำให้อะไร ๆ แย่ลง ซึ่งก็สะท้อนกลับมาที่รุ่นพี่คนนี้ด้วย
เพราะเขากำลังคิดจะไปหางานใหม่ แต่เมื่อมองว่าบริษัทปัจจุบันก็มีข้อดีมากมาย โดยเฉพาะเพื่อนร่วมงานที่เข้ากันได้ช่วยเหลือพึ่งพาได้เสมอ และไม่อยากเหนื่อยกับการผูกสัมพันธ์กับที่ทำงานใหม่ เขาจึงตัดสินใจทำงานอยู่บริษัทนี้ต่อไป
–
