Moshi Moshi สินค้าไลฟ์สไตล์ของไทยที่แบรนด์ญี่ปุ่นและจีนฆ่าไม่ตาย (วิเคราะห์)
หลายปีก่อน Moshi Moshi แบรนด์โลคัลจากสำเพ็ง เคยถูกห้างสรรพสินค้าชื่อดังในประเทศไทยปฏิเสธ แต่พร้อมที่จะอ้าแขนรับให้แบรนด์ต่างชาติเข้ามา
แต่วันนี้ตัวเลขรายได้ที่เกิดขึ้นย้ำให้เห็นว่าMoshi Moshiได้รับความนิยมแซงแบรนด์ดังอย่าง Daiso จากญี่ปุ่นหรือ MINISO คู่แข่งจากจีน ไปเรียบร้อยแล้ว
หลังเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ในเดือนธันวาคม ปี 2565 จากรายได้ 1,895 ล้านบาท กำไร 253 ล้านบาท ปี 2566 ก้าวกระโดดเป็น 2,543 ล้านบาท กำไร 402 ล้านบาท
ส่วนไตรมาส 4 ปี 2567 ทุบสถิติทำ SSSG (QTD) พุ่งทะยานกว่า 20%
ส่วน Daiso ปีที่ผ่านมาทำรายได้ 853 ล้านบาท กำไร 25 ล้านบาท MINISO ทำรายได้ที่ 1,158 ล้านบาท กำไร 35 ล้านบาท

สิ่งที่ทำให้Moshi Moshiสามารถเติบโตได้ดีในตลาดที่มีการแข่งขันสูงคือกลยุทธ์การตลาดที่ชัดเจน โดยมุ่งเน้นการออกแบบสินค้าที่ทันสมัยและมีคุณภาพในราคาที่เข้าถึงได้ การขยายสาขาอย่างรวดเร็ว ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2567 มีสาขารวมทั้งสิ้น 158 สาขา ครอบคลุมพื้นที่ 60 จังหวัดทั่วประเทศไทย
รวมทั้งความหลากหลายของสินค้าปีที่ผ่านมาได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่กว่า 15,000 รายการ (SKUs) ถือว่ามากที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา
อีกเรื่องที่ทำให้Moshi Moshiสามารถแซงหน้าคู่แข่งคือความคล่องตัวในการปรับตัวรับมือกับพฤติกรรมผู้บริโภคในเมืองไทย
สง่า บุญสงเคราะห์ เจ้าของMoshi Moshiเคยให้สัมภาษณ์กับ Marketeer ว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือ การเป็นโลคัลแบรนด์ ทำให้สามารถปรับตัวได้เร็ว สินค้าหลายอย่างเราใช้เวลาในการตัดสินใจและการผลิตที่เร็วมากไม่เกิน 2 เดือน สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็วและครอบคลุม ในขณะที่แบรนด์จากต่างประเทศอาจจะยังอยู่ในระหว่างรวบรวมข้อมูล
สำหรับลูกค้าเป้าหมายของโมชิโมชิ อายุ 18-25 ปี กลุ่มนักศึกษาและคนทำงาน รองลงมาอายุ 13-17 ปี ระดับมัธยมต้น-มัธยมปลาย และวัยทำงานอายุ 26-34 ปี
ในช่วงไตรมาส 3/2567 ยังมีการปรับ product mix ควบคู่กับการเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ผ่านการนำเสนอสินค้าลิขสิทธิ์ใหม่ ๆ โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าลิขสิทธิ์ K-POP และผลิตภัณฑ์ประเภทกล่องสุ่มที่ได้รับความนิยมอย่างมาก
บริษัทฯ ยังได้พัฒนา Collection Collaboration Project ออกผลิตภัณฑ์ K-POP Merchandise คาแรกเตอร์ NCT Dream คอลเลกชัน Moshi x NCT DREAM DREAM( )SCAPE และ คาแรกเตอร์ TEN ในคอลเลกชัน “Moshi Moshi x TEN & CANELE” ซึ่งช่วยสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับกลุ่มลูกค้าและเชื่อมโยงกลุ่มเป้าหมายให้ได้รู้สึกใกล้ชิดกับไอดอลที่ตัวเองชื่นชอบมากยิ่งขึ้น
อย่าลืมว่า แฟนคลับวงเกาหลีกำลังซื้อมีสูงจริง
การกลับมาของนักท่องเที่ยวจีนที่มีจำนวนสูงถึง 5.25 ล้านคน ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าสำคัญของMoshiและนักท่องเที่ยวมาเลเซีย 3.74 ล้านคน ที่ช่วยสร้างยอดขายในพื้นที่ภาคใต้
รวมทั้งแรงหนุนจากมาตรการเงินช่วยเหลือ 10,000 บาทของภาครัฐในช่วงปลายเดือนกันยายน ส่งผลให้บริษัทฯ มียอดขายที่เติบโต
ปี 2568 ผู้บริหารMoshi Moshiมีแผนปรับขนาดร้านใหญ่ขึ้น รวมถึงการเปิดสาขาเชิงรุกปี 2025 เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 40 แห่ง
ถึงจะได้เปรียบคู่แข่ง แต่ถ้าวิ่งได้ Moshi Moshi ก็พร้อมจะวิ่ง เพราะปีหน้านอกจากแบรนด์เก่าที่กำลังปรับตัว ยังมีแบรนด์ใหม่อย่างเช่น KKV จากประเทศจีนที่เพิ่งเข้ามาก็ประมาทไม่ได้
ที่สำคัญหากจีนถูกจำกัดการส่งออกไปยังประเทศตะวันตก สินค้าไลฟ์สไตล์จีนที่พร้อมบุกไทยก็คือความท้าทายของแบรนด์Moshi Moshiเช่นกัน
–
Website : Marketeeronline.co /
