MIU MIU กลับมาเป็นแบรนด์ที่ฮอตที่สุดของโลกได้เพราะอิทธิพลคนดัง
ในเวลานี้ลุคที่หันไปทางไหนก็เจอ คือกระเป๋าหนังกลับสีน้ำตาล กระโปรงกีฬาสั้น เสื้อคาร์ดิแกนสวมทับหลวม ๆ โปโลคอปกเหมือนเตรียมออกไปเล่นกีฬา เชิ้ตฟ้าตัดขาวดำหรือน้ำตาล ล้วนเป็นอัตลักษณ์คู่สีของ Miu Miu
การกลับมาครองอันดับหนึ่งของแบรนด์แฟชั่นฮอตของโลกในไตรมาสที่ 4 ปี 2024 จากที่เคยครองตำแหน่งนี้ในไตรมาสที่ 3 และ 1 มาแล้ว ทำให้ Miu Miu กลายเป็นแบรนด์ที่ฮอตที่สุดประจำปี 2024
ทำไม Miu Miu ถึงกลับมาครองตำแหน่งแบรนด์ที่ฮอตที่สุดในโลกอีกครั้ง
ท่ามกลางการแย่งชิงพื้นที่ในตู้เสื้อผ้าของแบรนด์ระดับไฮเอนด์ ความนิยมของ Miu Miu เริ่มมีกระแสมาตั้งแต่ปี 2021 ด้วยการเปิดตัวกระโปรงไมโครมินิรุ่น SS22 ที่กลายเป็นกระแสไวรัลทั่วโลก เหล่าคนดังใส่ขึ้นหน้าปกนิตยสาร และพบเจอได้บน TikTok จากนั้นยอดขายกระโปรงรุ่นนี้ก็พุ่งกระฉูด
อีกทั้งแบรนด์ยังเรียกกระแสได้จากการขยายโครงการ Upcycled ของบริษัท ซึ่งนำชิ้นงานวินเทจมาทำใหม่ ทำให้ไม่เพียงแค่ไตรมาสสี่ แต่ตามดัชนี Lyst ในไตรมาสที่ 3 Miu Miu ก็รั้งอันดับหนึ่งเช่นกัน การค้นหาMiu Miuเพิ่มขึ้น 30% ในช่วงกลางปีที่ผ่านมา และกระเป๋า Arcadie ราคา 3,050 ดอลลาร์ของแบรนด์นี้ ก็ติดอยู่ในอันดับสินค้าฮอตด้วย
ยอดขาย Miu Miu พุ่งกว่า 90% ในช่วงครึ่งปีแรก
เป็นกำลังหลักสำคัญในการผลักดันรายได้ให้ Prada Group เพิ่มขึ้น คิดเป็นสัดส่วนรายได้มากกว่าหนึ่งในสี่ของกลุ่ม
รายได้สุทธิของ Prada Group ในช่วงครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบกับปีก่อนอยู่ที่ 2.8 พันล้านดอลลาร์ โดยมีMiu Miuทำยอดขายปลีกได้เติบโตสูงถึง 93% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะเดียวกัน Prada เติบโตขึ้นเพียง 6% ในช่วงครึ่งปีแรก
บริษัทระบุว่ายอดขายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเพิ่มขึ้น 8% ในช่วงครึ่งปีแรก ยอดขายเติบโตขึ้น 17% ซึ่งมาจากการใช้จ่ายของคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยว ในทวีปอเมริกาเพิ่มขึ้น 7% ในตะวันออกกลางเพิ่มขึ้น 20%
แต่ความท้าทายสำหรับแบรนด์แฟชั่นคือรักษาความนิยมให้คงที่ตลอดไปได้ยาก 
3 กลยุทธ์ที่ Miu Miu พาตัวเองกลับมาฮอตได้
1. youthful spirit sell
Miu Miuเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุด โดยเฉพาะผู้บริโภคชาวจีนรุ่นใหม่ เป็นที่ทราบกันดีว่าในวงการแฟชั่นหากจุดติดการบริโภคภายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกได้ จะสร้างการเปลี่ยนแปลงทิศทางครั้งใหญ่ให้แบรนด์ เมื่อได้รับการสนับสนุนจากคนในภูมิภาคนี้ จึงช่วยผลักดันให้แบรนด์เติบโตอย่างก้าวกระโดด
แบรนด์ยังได้แต่งตั้งดาราเกาหลีชื่อดัง อย่าง Momo, Wonyoung และ Minnie เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์เอาใจคนเอเชียโดยเฉพาะ อีกทั้งแบรนด์มักจะจัดหาเสื้อผ้าให้กับนักดนตรีและนักแสดงชาวจีนที่กำลังมาแรง เช่น Lexie Liu และ Zhao Jinmai ให้พวกเธอสวมใส่ออกงาน
2. ขายแบบ Complete Look
พยายามทำให้ความเป็นMiuMiuมีตั้งแต่หัวจรดเท้า ทุกอย่างต้องโชว์จิตวิญญาณของแบรนด์ที่สัมพันธ์กันทั้งเซต ไล่ไปตั้งแต่เครื่องประดับบนผม เสื้อ เข็มขัด กระโปรง ถุงเท้า กระเป๋า รองเท้า balletcore เป็นเซตที่ให้ลุคสมบูรณ์แบบ แต่กลยุทธ์นี้ต้องระวังเพราะหากทำได้ไม่ดี จะทำให้ผู้บริโภครู้สึกถูกบีบบังคับ
3. ใช้ไมโครเทรนด์
Miu Miu เข้าถึงกลุ่ม Gen Z ได้ในแบบที่แบรนด์หรูอื่น ๆ ทำไม่ได้ แบรนด์สามารถเข้าถึงผู้บริโภครุ่นเยาว์ทางออนไลน์ผ่านการใช้อินฟลูเอนเซอร์และโซเชียลมีเดียอย่างมีประสิทธิภาพ
สะท้อนจากเทรนด์การแต่งกายด้วยรองเท้าส้นแบนแบบรัดข้อ balletcore ไปจนถึงเสื้อคาร์ดิแกนสไตล์เรียบร้อย librarian chic ล้วนเป็นไอเทมแฟชั่นที่ผู้บริโภคตามหา

ในด้านของ 10 อันดับ แบรนด์แฟชั่นสุดฮอตไตรมาสส่งท้ายปีนั้น อันดับรองลงมาจากMiuMiu คือ Saint Laurent ที่ตามมาติด ๆ แบรนด์นี้ไต่อันดับขึ้นมาสองอันดับในไตรมาสที่ 4 และยังเป็นแบรนด์ที่เป็นผู้สร้าง และออกแบบเครื่องแต่งกายให้กับภาพยนตร์ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์มากที่สุดในปี 2025 อีกด้วย แซงหน้า Loewe ที่เคยฮอตไปเรียบร้อย
ขณะที่ Coach ก็เป็นแบรนด์ที่น่าสนใจซึ่งขยับขึ้นมาถึง 10 อันดับ มาอยู่ในอันดับห้าของลิสต์ได้ เพราะการลดราคาสินค้าบ่อยครั้ง ช่วยให้บริษัทได้รับความนิยม เนื่องจากผู้บริโภครุ่นเยาว์เข้าถึงสินค้าสไตล์ที่กำลังเป็นเทรนด์ได้มากขึ้น
ส่วนน้องใหม่มาแรงแห่งแบรนด์แฟชั่น คงต้องจับตา Ugg ที่เพิ่งเข้ามาอยู่ในอันดับที่ 10 เป็นแบรนด์แฟชั่นมาแรงเพราะได้กระแสจากเทรนด์รองเท้าบู๊ตขนเฟอร์ที่กำลังเป็นเทรนด์อยู่ในขณะนี้ พบว่า มีการค้นหารองเท้าบู๊ตขนฟูที่เป็นเอกลักษณ์ของบริษัทเพิ่มขึ้นกว่า 358% ในไตรมาสที่ 4 และเพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบเป็นรายปี
ในกลุ่มแบรนด์ฟาสต์แฟชั่นดังอย่าง H&M Group ก็มี Cos ที่ติดเข้ามาในอันดับที่ 17 พบว่ามีความต้องการสินค้าแบรนด์นี้เพิ่มขึ้น 16% และส่วนใหญ่มาจากความต้องการเสื้อสเวตเตอร์แคชเมียร์บริสุทธิ์ที่ลอกเลียนดีไซน์ของแบรนด์ดังอย่าง The Row มา
ทั้งนี้ นักออกแบบหน้าใหม่ในวงการแฟชั่นที่น่าจับตามองก็มีจำนวนไม่น้อย ที่มีอัตราการเติบโตที่โดดเด่น อาทิ Charlotte Simone มีอัตราการค้นหาเพิ่มถึง 242% หลังจากที่ Taylor Swift เลือกสวมเสื้อโค้ตสไตล์วินเทจของเธอหลายครั้ง หรือจะเป็นแบรนด์อินดี้ที่กำลังมาแรงอื่น ๆ ในไตรมาสที่ 4 เช่น แบรนด์เสื้อผ้าสำเร็จรูปจากสตอกโฮล์มอย่าง Our Legacy มีอัตราการค้นหาเพิ่ม 22%, แบรนด์กระเป๋าถือร่วมสมัยอย่าง Demellier มีอัตราการค้นหาเพิ่ม 119% และแบรนด์เสื้อผ้าจากญี่ปุ่นอย่าง Auralee ก็มีอัตราการค้นหาเพิ่ม 114%
สรุป 10 อันดับแบรนด์แฟชั่นสุดฮอตประจำไตรมาส 4 ปี 2024 ตามรายงานของ Lyst
- Miu Miu (คงที่)
- Saint Laurent (ขึ้นมา 2 อันดับ)
- Prada (คงที่)
- Loewe (ตกลง 2 อันดับ)
- Coach (ขึ้นมา 10 อันดับ)
- Bottega Veneta (คงที่)
- Alaïa (ตกลง 2 อันดับ)
- Moncler (ขึ้นมา 5 อันดับ)
- The Row (คงที่)
- UGG (ติดเข้ามาใหม่)
–
Website : Marketeeronline.co /
