วอลโว่ ประเทศไทย ไม่ฝืน ชะลอแผนขายแต่อีวี เสริมรุ่นปลั๊กอินไฮบริดช่วยเร่งเครื่อง

วอลโว่ ประเทศไทย เปิดแผนงานปี 2025 ไม่ฝืน ชะลอแผนขายแต่รถยนต์อีวี รับภาพรวมตลาดอีวีหดตัว วางการเติบโตบนทางเลือกทั้งอีวีและปลั๊กอินไฮบริด ตั้งเป้ายอดขายขยายตัว 5% หลังประเมินตลาดรถยนต์ในไทย ปีนี้ คันเร่งแผ่วต่อเนื่องจากปี 2024  

คุณคริส เวลส์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย และประเทศมาเลเซีย กล่าวว่า “วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย ในปี 2024 มียอดขายรถยนต์ใหม่ เติบโต 1% มาร์เก็ตแชร์อยู่อันดับ 4 ของตลาดกลุ่มแบรนด์พรีเมียมในไทย แบ่งสัดส่วนการจำหน่ายเป็น อีวี 80% ประกอบด้วย EX30 40%, EX40 กับ EC40 อีกรุ่นละ 20% ส่วนที่เหลือเป็นกลุ่มปลั๊กอินไฮบริด 20% นำโดยรุ่น XC60 7.8% และไม่มีการจำหน่ายกลุ่มเครื่องยนต์สันดาปล้วน”  

โดยจากทิศทางของ ‘ตลาดรถยนต์อีวีในไทย’ ปี 2022-2023 ซึ่งขยายตัวแตะเลขสามหลัก ทั้งจากคาดการณ์ว่าปี 2024 ยอดจดทะเบียนใหม่จะอยู่ที่ประมาณ 100,000 คัน สรุปยอดทั้งปีอยู่ที่ 70,173 คัน หดตัว -8.05% คิดเป็น 14.0% ของยอดจดทะเบียนรถยนต์ รย. 1 ทั่วประเทศ 502,077 คัน    

ซึ่งจะพบว่าอัตราการเติบโตของรถยนต์อีวี เริ่มชะลอตัวลงอย่างชัดเจนมาตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคม – ตุลาคม 2024 โดยเติบโตอยู่ที่ 2.16% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ขณะที่รถยนต์ไฮบริด เติบโตอยู่ที่ 68.6% กลายเป็นเซกเมนต์ที่มีการเติบโตสูงสุดในตลาดรถยนต์นั่ง

ทิศทางตลาดรถยนต์ไฟฟ้าข้างต้น สอดคล้องกับการปรับแผนการดำเนินงานปี 2025 ของวอลโว่ คาร์ ประเทศไทย

คุณคริส เวลส์ ยังกล่าวว่า “ปี 2025 จะยังเป็นปีที่ตลาดรถยนต์ในไทยอยู่ในความท้าทาย ต่อเนื่องจากปี 2024 โดยช่วงครึ่งแรกของปีที่แล้ว ภาพรวมตลาดยังมีแนวโน้มเชิงบวก แต่ในช่วงครึ่งปีหลัง ตลาดชะลอตัวลงอย่างชัดเจน”

“จากเดิม วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย วางแพลนยุติการจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้ากลุ่มปลั๊กอินไฮบริด และมุ่งสู่รถยนต์อีวีทั้งหมด ตั้งแต่ปี 2025 เร็วกว่าที่บริษัทแม่กำหนดไว้ที่ปี 2030 แต่สุดท้ายบริษัทในประเทศไทยได้เลื่อนเป้าหมายดังกล่าวออกไปก่อน”

“บริษัทพบว่าความต้องการของรถยนต์ไฟฟ้ากลุ่มปลั๊กอินไฮบริดยังมีอยู่ และบริษัทต้องการตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้า โดยจะยังไม่ได้ข้ามไปใช้การทำตลาดด้วยรถยนต์อีวีล้วนในเวลานี้”

“ปี 2025 บริษัทยังวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์รถยนต์อีวีอยู่ในกลุ่มเอสยูวีเป็นหลัก แม้รถยนต์อีวีแบบอเนกประสงค์ (เอ็มพีวี – MPV) ตั้งแต่ 7 ถึง 11 ที่นั่ง กำลังเป็นที่นิยม” 

“บริษัทตั้งเป้ายอดขายรถยนต์ใหม่ ปี 2025 เติบโต 5% โดยเตรียมขยายพอร์ตรถยนต์อีวีใหม่อีก 2 รุ่น นำโดย Volvo EX90 เอสยูวีไฟฟ้า 100% ขนาด 7 ที่นั่ง ภายในไตรมาส 1/2025 รวมถึงการเปิดตัวรถยนต์อีวีกับปลั๊กอินไฮบริดอื่น ๆ เช่นกัน”

“นอกจากแผนงานกลุ่มรถยนต์ใหม่ เรายังได้ประกาศการเติบโตของรถวอลโว่มือสองไมล์น้อยคุณภาพดี อย่าง Volvo Selekt Approved Used Cars ว่ามียอดจำหน่ายปี 2024 เติบโตขึ้น 9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน”

“เรายังมีแผนเปิดโชว์รูม และศูนย์บริการซ่อมตัวถังและสีมาตรฐาน Volvo Certified Damage Repair Centre (VCDR) รวมถึงขยายบริการ Volvo Mobile Service ที่ให้ลูกค้ารับบริการตรวจเช็กและซ่อมบำรุงจากที่บ้านหรือสถานที่นัดหมาย ลดภาระในการเดินทางไปศูนย์บริการ”

“เนื่องด้วยความเข้าใจในสภาวะของตลาด และเศรษฐกิจที่ผู้บริโภคกำลังเผชิญ วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย เตรียมเปิดศูนย์ซ่อม และรีไซเคิลแบตเตอรี่ที่ล่าช้ามาจากแผนเดิมที่ต้องเปิดให้บริการในปี 2024 ควบคู่กับ SMART Repair Service การซ่อมแซมความเสียหายขนาดเล็ก และขนาดกลางแทนที่การเปลี่ยนอะไหล่ทั้งชุด ลดระยะเวลาการซ่อมและลดค่าใช้จ่ายให้กับลูกค้า”

ปัจจุบัน วอลโว่ (Volvo) บริษัทรถยนต์สัญชาติสวีเดน อยู่ภายใต้ชายคาของ จีลี่ โฮลดิ้ง กรุ๊ป (Geely Holding Group) บริษัทยานยนต์ข้ามชาติจากจีน ที่เข้ามาซื้อกิจการในปี 2010 

โดยส่วนของ วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย ยุติการจำหน่ายรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปเท่านั้นในการส่งกำลังมาตั้งแต่ปี 2019 และมีแต่รถยนต์อีวีกับปลั๊กอินไฮบริดจำหน่าย รวมถึงยังเป็นแบรนด์รถยนต์พรีเมียมกลุ่มแรก ๆ ที่ทำตลาดรถยนต์อีวีอย่างจริงจัง 

ยอดจดทะเบียนรถยนต์ใหม่ (ป้ายแดง) ของวอลโว่ เดือน ม.ค. – ธ.ค. 2024 อยู่ที่ 3,833 คัน ยอดจดทะเบียนสะสม ณ วันที่ 31 มกราคม 2025 อยู่ที่ 53,293 คัน  

อ่านเพิ่มเติม: วอลโว่ ไทย เปิดตัว Volvo C40 – XC40

อ่านเพิ่มเติม: วอลโว่ ทุ่มหลักร้อยล้าน ตั้งศูนย์ซ่อมแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า

–

---