AOT กำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหม่ เมื่อคิงเพาเวอร์ดิวตี้ฟรีขาดสภาพคล่อง

แม้วันนี้สนามบินที่บริหารโดย AOT บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ สุวรรณภูมิ, ดอนเมือง, เชียงใหม่, หาดใหญ่, ภูเก็ต และแม่ฟ้าหลวง เชียงราย จะคลาคล่ำด้วยนักท่องเที่ยว และผู้เดินทางจำนวนมากจากสายการบินต่าง ๆ ที่บินจอดรับส่งผู้โดยสารไม่ว่างเว้น ด้วยเที่ยวบินระหว่างประเทศ 437,129 เที่ยวบิน และเที่ยวบินภายในประเทศ 321,901 เที่ยวบินตลอดทั้งปี 2567 (มกราคม-ธันวาคม 2567)

และถ้ามองที่รายได้ของ AOT พบว่า ในปีปฏิทิน 2567 (สิงหาคม 2566-กันยายน 2567) พบว่า AOTมีรายได้จากการประกอบธุรกิจมากถึง 67,827.79  ล้านบาท เติบโต 40.01% กำไรสุทธิ 19,182.39 ล้านบาท เติบโต 118.21% จากช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา

แบ่งเป็น

รายได้จากกิจการการบิน (ค่าบริการสนามบิน, ค่าบริการผู้โดยสารขาออก และค่าเครื่องอำนวยความสะดวก) 31,000.47 ล้านบาท เติบโต 39.23%

รายได้ที่ไม่เกี่ยวกับกิจการการบิน (ค่าเช่าสำนักงาน อสังหาริมทรัพย์, รายได้เกี่ยวกับบริการ และส่วนแบ่งผลประโยชน์) 36,120.83 ล้านบาท เติบโต 39.60%

รายได้อื่น ๆ (รายได้ดอกเบี้ย, กำไรจากการจำหน่ายสินทรัพย์, กำไรจากตราสารอนุพันธ์ และอื่น ๆ) 706.49% เติบโต 131.96%

 

ไตรมาส 1/2568 (ตุลาคม-ธันวาคม 2567) รายได้รวม 17,906 ล้านบาท เติบโต 13.41% กำไร 5,344.30 ล้านบาท เติบโต 17.12%

แบ่งเป็น

รายได้จากกิจการการบิน 8,804.42 ล้านบาท เติบโต 24.41%

รายได้ที่ไม่เกี่ยวกับกิจการการบิน 8,859.49 ล้านบาท เติบโต 2.65%

รายได้อื่น ๆ 242.10 ล้านบาท เติบโต 196.22%

 

เมื่อดูจากการเติบโตของรายได้และกำไรของAOTแม้จะยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่เป็นการเติบโตบนความท้าทายจากสัดส่วนรายได้ที่ไม่เกี่ยวกับกิจการการบินที่ลดลงในไตรมาส 1/2568 เหลือเพียง 50%

จากปี 2567 AOT มีสัดส่วนรายได้ที่ไม่เกี่ยวกับกิจการการบิน 54%

การลดลงของรายได้ไม่เกี่ยวกับกิจการการบิน เกิดจากในปี 2567 ผู้ประกอบการมากกว่า 70 ราย ประสบปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน จนขอเลื่อนชำระ ผ่อนชำระ ขอยกเลิกประกอบกิจการ ขอลดขนาดพื้นที่

รวมถึงผู้ประกอบการรายใหญ่อย่าง บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด ที่ยื่นหนังสือลงวันที่ 26 สิงหาคม 2567 เพื่อขอเลื่อนชำระค่าผลประโยชน์ตอบแทนจากการประกอบกิจการ จำหน่ายสินค้าปลอดภาษีใน 5 ท่าอากาศยานที่ได้รับสัมปทาน ได้แก่ สุวรรณภูมิ, ดอนเมือง, เชียงใหม่, หาดใหญ่ และภูเก็ต

โดยในการชำระค่าผลประโยชน์ที่คิงเพาเวอร์ ดิวตี้ฟรีให้กับAOTถือเป็นจำนวนเงินที่สร้างรายได้อย่างน่าสนใจให้กับAOTในแต่ละปี

การขอเลื่อนชำระค่าผลประโยชน์ตอบแทนของคิงเพาเวอร์ ทำให้รายได้ของAOTในปีนี้อาจลดลง จากรายได้สัมปทานที่คิงเพาเวอร์ดิวตี้ฟรีต้องจ่ายให้กับAOTมีสัดส่วนมากถึง 33% ของรายได้รวมที่AOTคาดการณ์ว่าจะได้รับในปีปฏิทิน 2568

และAOTต้องหันมาพึ่งรายได้จากกิจการทางการบิน ที่มีการเติบโตของจำนวนเที่ยวบินและผู้โดยสารเป็นหลักแทน

สิ่งที่เกิดขึ้นนี้จึงถือเป็นความท้าทายของAOTทั้งสิ้น

จากการวิเคราะห์ของเกวลี ทองสมอางค์ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ หลักทรัพย์บัวหลวง พบว่าการผ่อนชำระหนี้ของคิงเพาเวอร์ดิวตี้ฟรี ออกไป 18 เดือน คิดดอกเบี้ย 18% ต่อปี

จากการขาดสภาพคล่องในครั้งนี้อาจทำให้ AOT ได้รับผลกระทบทางลบจากการไม่ได้ตั้งค่าเผื่อหนี้สูญ เนื่องจากคิงเพาเวอร์มีหลักประกัน Bank Guarantee วางไว้ และอาจจะมีความกังวลต่อภาระหนี้ที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นจากความสามารถในการจ่ายชำระหนี้ซึ่งอาจส่งผลการตั้งสำรองหนี้สูญเป็นค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม หรือการได้รายได้ที่ลดลง ที่ต้องติดตามต่อไปในอนาคต

 

อย่างไรก็ดี ในช่วงที่ผ่านมา ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า บริษัท คิงเพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด มีผลประกอบการที่ขาดทุนสลับกำไรมาอย่างต่อเนื่อง

ปี 2564 รายได้รวม 1,608.30 ล้านบาท ขาดทุน 2,814.49 ล้านบาท

ปี 2565 รายได้รวม 17,748.19 ล้านบาท กำไร 3,751.83 ล้านบาท

และปี 2564 รายได้รวม 33,592.16 ล้านบาท ขาดทุน 651.51 ล้านบาท

อัปเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
WebsiteMarketeeronline.co /Facebookwww.facebook.com/marketeeronline


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer