ธุรกิจท่องเที่ยวแนวผจญภัย–กลางแจ้งของไทยเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มกิจกรรมดำน้ำ ซึ่ง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์ว่าปี 2568 จะมีมูลค่าตลาดสูงถึง 8,500 ล้านบาท โตเฉลี่ย 12% ต่อปี ด้านภาคเอกชนโดย บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด (NCC) จับมือภาครัฐและพันธมิตร จัดงาน “THAILAND GOLF & DIVE EXPO plus OUTDOOR FEST 2025” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 21 ระหว่างวันที่ 22–25 พฤษภาคม 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
นายสุรพล อุทินทุ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า เรามองเห็นการเติบโตอย่างต่อเนื่องของการท่องเที่ยวเชิงกีฬากอล์ฟ ดำน้ำ และกิจกรรมกลางแจ้ง จนกลายเป็นหนึ่งในสาขาการท่องเที่ยวที่สร้างรายได้มหาศาลให้กับประเทศ และยกระดับไทยเป็นจุดหมายปลายทางด้านไลฟ์สไตล์ระดับโลก
ปีที่ผ่านมา งานดังกล่าวมีผู้เข้าชมกว่า 55,000 คน เพิ่มขึ้นกว่า 10% จากปีก่อนหน้า คาดว่าในปี 2568 นี้จะมีผู้ร่วมงานเพิ่มขึ้นอีก 10% และมูลค่าการซื้อขายภายในงานรวมกว่า 200 ล้านบาท
ภายในงานพบกับ กว่า 590 คูหา จากผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศ ครอบคลุมสินค้าและบริการด้านสนามกอล์ฟ อุปกรณ์ดำน้ำ ทริปท่องเที่ยวแนวอนุรักษ์ ไปจนถึงกิจกรรมเดินป่า ถ่ายภาพ และกีฬาเอาท์ดอร์ พร้อมกิจกรรมเสริมความรู้และสร้างจิตสำนึกต่อสิ่งแวดล้อม เช่น
- การเสวนาด้านการท่องเที่ยวและการอนุรักษ์ทะเลไทย
- เวิร์กช็อปเทคนิคถ่ายภาพใต้น้ำ
- กิจกรรม “TDEX You Give.. We Share” ครั้งที่ 4 เชิญชวนบริจาคชุดดำน้ำมือสองให้มูลนิธิเพื่อใช้ในกิจกรรมสาธารณประโยชน์
ไฮไลต์ที่คนรักการถ่ายภาพไม่ควรพลาด ได้แก่
- ประกวดภาพถ่ายใต้น้ำ “18th TDEX Underwater Photo Contest” มีผู้ส่งภาพ 889 ภาพ จาก 164 คน
- ประกวดคลิปวิดีโอใต้น้ำ “TDEX Underwater Moment Video Contest” ครั้งที่ 2 มีผู้ส่งเข้าร่วม 117 คลิป ชิงรางวัลรวมกว่า 400,000 บาท โดยจะประกาศผลวันที่ 22 พ.ค. 2568
นายขจรฤทธิ์ ขวัญมงคล ผู้อำนวยการกองตลาดภาคใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า
“ปีนี้ไทยคาดว่าจะสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวดำน้ำมากกว่า 8,500 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ยปีละ 12% โดยกลุ่มหลักคือคนรุ่นใหม่วัย 20-40 ปี”
ไทยยังคงเป็นผู้นำในแหล่งดำน้ำระดับโลก เช่น หมู่เกาะสิมิลัน, เกาะพีพี, เกาะเต่า ฯลฯ รองรับกิจกรรมตั้งแต่ Snorkeling ไปจนถึง Freediving และ Dive Course
นอกจากนี้ ททท. ยังสนับสนุนการจัดงานร่วมกับสำนักงานท้องถิ่น 4 พื้นที่ ได้แก่ ชุมพร, เกาะสมุย, กระบี่ และพังงา พร้อมตั้งเป้าให้มีการซื้อแพ็กเกจท่องเที่ยวกว่า 20,000 แพ็กเกจ ตลอดงาน
ข้อมูลจาก Grand View Research ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวดำน้ำของประเทศไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2023 มีรายได้อยู่ที่ประมาณ 192.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 430.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2030 ซึ่งคิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 12.2% . ในปี 2025 คาดว่ารายได้จากการท่องเที่ยวดำน้ำของไทยจะสูงถึง 8,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2023 ถึงเกือบ 2,000 ล้านบาท
เมื่อเปรียบเทียบกับตลาดโลก อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวดำน้ำทั่วโลกในปี 2023 มีมูลค่าประมาณ 4,552.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่าจะเติบโตเป็น 8,831.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2030 ด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีที่ 9.9% . ประเทศไทยมีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 4.2% ของตลาดโลกในปี 2023 การเติบโตของอุตสาหกรรมดำน้ำในประเทศไทยได้รับแรงหนุนจากความหลากหลายของแหล่งดำน้ำที่มีความสวยงาม เช่น หมู่เกาะสิมิลัน เกาะพีพี และเกาะเต่า รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานที่เข้มแข็ง เช่น ศูนย์ฝึกดำน้ำมาตรฐานสากล เรือ Liveaboard คุณภาพสูง และระบบจองออนไลน์ที่ทันสมัย
ด้าน นางสาวณิชาภา อุรุวงศ์ ผู้เชี่ยวชาญจาก ISMED เผยว่า
“ปัจจุบันไทยมี SME ในธุรกิจท่องเที่ยวกว่า 471,706 ราย มูลค่ารวมกว่า 835,832 ล้านบาท การผลักดันธุรกิจเหล่านี้คือการยกระดับเศรษฐกิจไทยโดยตรง และบริการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวอีกกว่า 10,000 ราย ดังนั้น หากภาครัฐ และเอกชนร่วมกันผลักดันเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจท่องเที่ยว ก็จะช่วยยกระดับรายได้ให้กับประเทศไทยได้อีกมหาศาล และยังเป็นส่วนสำคัญในการพยุงเศรษฐกิจของไทยให้ผ่านพ้นวิกฤตสงครามการค้าในปีนี้ไปได้”
สำหรับงาน THAILAND GOLF & DIVE EXPO plus OUTDOOR FEST 2025 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 – 25 พฤษภาคม 2568 เวลา 11.00-20.00 น. ณ ฮอลล์ 5-6 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนชมงานล่วงหน้าและติดตามรายละเอียดได้ทาง Facebook และเว็บไซต์ของแต่ละกิจกรรม (Thailand Dive Expo, Thailand Golf Expo, Traveler & Outdoor Expo)


