ในงาน Marketeer Talk Ep. T-Beauty อยากเกิดต้องเปิดยังไง คุณชินตา ศรีจินตอังกูร Thailand Site Leader บริษัท นีลเส็นไอคิว (ประเทศไทย) จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านวิจัยตลาด เปิดเผยข้อมูลภาพรวมตลาดความงามและเทรนด์ผู้บริโภคจากรายงาน Beauty Market Landscape for Marketeer Talk

ตลาดความงามโลกเติบโตแรง

จากข้อมูลการวิเคราะห์ของ Worlddata Lab พบว่าตลาดความงามทั่วโลกกำลังจะเติบโตขึ้นอีก 700 ล้านเหรียญสหรัฐในอีก 9 ปีข้างหน้า (23 ล้านล้านบาท) โดยการเติบโตครั้งนี้ 70% จะมาจากผลิตภัณฑ์ความงาม

ขณะที่ส่วนที่เหลือจะมาจากบริการด้านความงาม เช่น สปา คลินิกความงาม และบริการดูแลผิวต่างๆ

การเติบโตที่แข็งแกร่งนี้เกิดขึ้นเพราะเริ่มเห็นแบรนด์ใหม่ๆ เกิดขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละประเทศ ทั้งแบรนด์ใหญ่ระดับนานาชาติและแบรนด์ท้องถิ่นที่เข้าใจความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละพื้นที่ รวมถึงการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ได้ดียิ่งขึ้น

ที่น่าสนใจอย่างยิ่งคือ 45% ของการเติบโตทั้งหมดนี้จะมาจากทวีปเอเชีย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าภูมิภาคเอเชียกำลังกลายเป็นแหล่งกำเนิดแนวโน้มความงามใหม่ๆ และอาจจะเป็นผู้นำในการกำหนดทิศทางของตลาดความงามโลก

นอกจากนี้ ผู้บริโภคในเอเชียยังมีพฤติกรรมการใช้ผลิตภัณฑ์ความงามที่หลากหลายและมากกว่าผู้บริโภคในภูมิภาคอื่นๆ ทำให้เป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงและน่าจับตามองเป็นอย่างมาก

ผลิตภัณฑ์ความงามทุกหมวดเติบโตแรง โดยเฉพาะสินค้าบำรุงพิเศษ

อัตราการเติบโตที่กล่าวถึงนี้เป็นเพียงตลาดแบบดั้งเดิมหรือออฟไลน์เท่านั้น หากรวมตลาดออนไลน์เข้าด้วยแล้ว อาจจะเห็นการเติบโตที่สูงกว่านี้มากทีเดียว

เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปสู่การซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น รวมถึงการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายมากขึ้น

สินค้า FMCG โดยเฉลี่ยเติบโต 3.5% ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกับการเติบโตของ GDP แต่ตลาดความงามกลับแสดงให้เห็นถึงการเติบโตที่แข็งแกร่งกว่าค่าเฉลี่ยนี้มาก

ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ความงาม ทุกหมวดสินค้าล้วนแสดงการเติบโตที่น่าประทับใจ

โดยผลิตภัณฑ์ดูแลริมฝีปากเติบโตโดดเด่นในกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกาย ส่วนผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าเติบโตเด่นกว่าทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ โดยสินค้าที่เติบโตมากที่สุดคือมาส์กหน้า

ในขณะที่กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมมีครีมนวดผมเติบโตได้ถึง 7% และกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากก็มีไหมขัดฟันที่ผู้คนหันมาใช้มากขึ้น

แนวโน้มเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค ที่เริ่มให้ความสำคัญกับการดูแลตัวเองอย่างละเอียดและครบถ้วนมากขึ้น ไม่ใช่แค่การทำความสะอาดหรือชำระล้างร่างกายตามปกติเท่านั้น แต่เป็นการดูแลเพื่อความสวยงามและสุขภาพที่ดีอย่างเป็นระบบ

ผู้บริโภคไม่ได้มองแค่การใช้ผลิตภัณฑ์พื้นฐาน แต่หันมาสนใจผลิตภัณฑ์บำรุงพิเศษต่างๆ เช่น มาส์กหน้าสำหรับดูแลผิวเป็นพิเศษ ครีมนวดผมเพื่อบำรุงเส้นผมให้แข็งแรงสวยงาม และไหมขัดฟันเพื่อดูแลสุขภาพช่องปากอย่างครอบคลุม

ตลาดนี้จึงน่าสนใจอย่างมากเพราะการเติบโตยังคงเอื้อต่อการทำธุรกิจในระยะยาว

ตลาดยังมีช่องว่างให้เติบโตอีกมาก

เมื่อดูที่อัตราการใช้งานของผลิตภัณฑ์ความงาม พบว่าทุกครัวเรือนจะใช้ผลิตภัณฑ์ในหมวดใดหมวดหนึ่งอยู่แล้ว แต่เมื่อลงลึกไปดูในแต่ละประเภทสินค้าจะพบว่ายังมีพื้นที่ให้เติบโตอีกเยอะมาก

คุณชินตา กล่าวว่า “มอยส์เจอไรเซอร์มีอัตราการใช้งานแค่ 50% หมายความว่าใช้แค่ครึ่งหนึ่งของครัวเรือนเท่านั้น แปลว่ายังมีอีกครึ่งหนึ่งที่เป็นพื้นที่ว่างที่สามารถดึงดูดให้เข้ามาใช้ได้ หากเป็นผู้ประกอบการหรือนักการตลาด สิ่งนี้ไม่ใช่แค่การแย่งชิงส่วนแบ่งตลาด แต่คือการหาวิธีให้ความรู้และชักจูงให้ลูกค้าหันมาใช้มากขึ้น หรือเช่น ครีมล้างหน้าที่คนยังใช้แค่ 40% เนื่องจากบางคนยังคงใช้แค่สบู่ในการล้างหน้าอยู่”

“ข้อมูลเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าตลาดความงามยังมีโอกาสในการขยายฐานลูกค้าใหม่อีกมาก ไม่ใช่เพียงแค่การแข่งขันกันในกลุ่มลูกค้าเดิม แต่เป็นการสร้างความต้องการใหม่ในตลาดที่ยังไม่ได้ใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้”

แบรนด์ไทยกำลังแซงขึ้นมา มีโอกาสเติบโตสูงสุด

เมื่อดูที่ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าของผู้หญิง โดยแยกดูว่าแต่ละครัวเรือนใช้แบรนด์อะไร ว่าเป็นแบรนด์ต่างชาติหรือแบรนด์ในประเทศ พบข้อมูลว่า แบรนด์ต่างชาติยังคงมีส่วนแบ่งการใช้งานอยู่ที่ 16% ขณะที่แบรนด์ในประเทศอยู่ที่ 13% ซึ่งตัวเลขไม่ได้ห่างกันมากนัก

สิ่งที่น่าสนใจกว่าคือแบรนด์ในประเทศมีอัตราการใช้งานที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แปลว่าคนไทยเริ่มเปิดรับและให้ความไว้วางใจแบรนด์ในประเทศมากขึ้น

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคุณภาพ ราคา หรือการตอบโจทย์ความต้องการของคนไทยโดยเฉพาะ ทำให้เห็นความสำเร็จของแบรนด์ในประเทศเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับผู้ประกอบการไทย

อ่านเพิ่มเติม: ถอดรหัสตลาดความงามไทย-โลก ส่องกลยุทธ์พิชิตใจ Gen Z ถึง Baby Boomers


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer