ปี 2025 ครึ่งปีหลังต่อจากนี้ ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจที่ท้าทาย ผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่าย มองหาความคุ้มค่า ตอบโจทย์ โลกของการทำการตลาดจึงต้องไม่ใช่แค่เอาตัวรอด แต่ต้องเข้าใจ และปรับตัวไปพร้อมกับผู้บริโภค ซึ่งแบรนด์และนักการตลาดควรทำอย่างไร

สปีกเกอร์ คุณโศรดา ศรประสิทธิ์ CEO ปับลิซิส กรุ๊ป ประเทศไทย และ คุณภัทรา ภัทรสุวรรณ Associate Marketing Director KFC Thailand มาร่วมแบ่งปันมุมมองในงาน SUPALAI Presents Creative Talk Conference 2025 เซกชั่น Half Year Trends: Marketing
1.รู้ใจ ไม่รุกล้ำ
เทคโนโลยีปัจจุบัน เอื้ออำนวยให้แบรนด์สามารถทำการตลาดแบบ Personalization ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งผู้บริโภคก็ยินดีเปิดเผยข้อมูล แต่ก็ตามมาด้วยการคาดหวังประโยชน์ที่เขาจะได้กลับคืน
นักการตลาดและแบรนด์จึงต้องเข้าใจความต้องการส่วนบุคคลอย่างลึกซึ้ง ใช้ข้อมูลอย่างมีจริยธรรม และส่งมอบสิ่งที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคได้อย่างแนบเนียน โดยไม่ก้าวล่วงความเป็นส่วนตัว ไม่รบกวน และสร้างประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์
2.ไม่ใช่ไม่มีใจ แค่เลือกไวขึ้น
โลกที่เต็มไปด้วยข้อมูลคอนเทนต์ การเข้าถึงเทคโนโลยีและโซเชียลมีเดียที่สะดวกแค่ปลายนิ้วปัด แต่ผู้บริโภคก็ไม่ได้สูญเสียความสนใจอย่างรวดเร็ว พวกเขากำลัง ‘กรองข้อมูลเร็วขึ้น’ จากความเคยชินของการไถปัด แบรนด์จึงต้องสร้างสรรค์เนื้อหาที่โดดเด่นและดึงดูดตั้งแต่แรกเห็น
ถึงแม้จะเป็นคอนเทนต์ที่ผู้บริโภคดูนาน ดูบ่อย ก็ไม่ได้แปลว่าจะจำได้ การทำให้เนื้อหาเข้าถึงง่าย สร้างความรู้สึกร่วม ถึงจะเกิดประสิทธิภาพ
Case study แคมเปญหนังไก่ KFC ซึ่งดึงดูดผู้บริโภคด้วยกระแสความต้องการของตนเอง ผ่านแคมเปญบนเฟซบุ๊กที่ชวนมากด ‘หัวใจ’ ให้ครบ 10,000 ดวง เพื่อขายหนังไก่ตามที่ต้องการ สามารถสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้บริโภคแบบไม่ต้องใช้งบการตลาดสูง
3.จ่ายต้องคุ้ม คุณค่าต้องชัด เน้นสร้างประสบการณ์มากกว่าการทำราคา
ผลกระทบของเศรษฐกิจที่อยู่ในความท้าทาย ผู้บริโภคใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง และเลือกตัดอย่างน้อยหนึ่งอย่าง การนำเสนอความคุ้มค่าจึงต้องไม่ใช่แค่เรื่องราคาอย่างเดียว เพราะก็เป็นการทำเหมือนส่วนใหญ่
นักการตลาดและแบรนด์ต้องนำเสนอความคุ้มค่าที่ยังรักษามูลค่าของแบรนด์ไว้ได้ มอบประสบการณ์การบริการที่น่าประทับใจ สินค้าคุณภาพตามที่คาดหวัง ไปจนถึงแคมเปญซึ่งสร้างความรู้สึกดี ๆ ก็ล้วนเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้บริโภครู้สึก ‘คุ้มค่า’ ได้ทั้งนั้น
4.พร้อมภักดี ถ้ารู้ว่าแบรนด์ใส่ใจ
จากการทำการตลาดและแคมเปญที่เน้นความเสนอคุ้มค่า ทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกที่หลากหลาย นำมาสู่ความภักดีที่สั่นคลอน ความคาดหวังที่มากขึ้น อย่างไรก็ตาม โลกยุคปัจจุบัน อำนวยความสะดวกให้แบรนด์เข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภคมากกว่าที่เคย
โดยผู้บริโภครักเราแต่เขาก็รักคนอื่นด้วย ซึ่งแบรนด์สามารถสร้างการทดลองและเรียนรู้ เพื่อออกแบบการตลาดให้เหมาะสม แต่ก็ต้องระมัดระวังในการใช้ข้อมูล และไม่เปลี่ยนจนสูญเสียตัวตน ต้องใส่ใจ จริงใจ และยังคงชัดเจนในจุดยืนที่ดึงดูดให้ผู้บริโภคกลับมาหาเราอยู่เสมอ
5.หั่นงบได้ แต่หัวใจห้ามเปลี่ยน
ท่ามกลางโลกที่นักการตลาดและแบรนด์ต้องเผชิญทั้งงบที่ลดลงจากภาวะเศรษฐกิจที่ท้าทาย ยอดขายยังต้องตามเป้า ตนเองต้องไม่ลืมระยะเวลาและหัวใจของแบรนด์ที่ทุ่มเทสร้างมา
แน่นอนว่านักการตลาดและแบรนด์ต้องปรับตัวให้รวดเร็ว ยืดหยุ่น และพร้อมทำอะไรใหม่ ๆ แต่ก็ยังต้องรักษาสิ่งที่ทำให้แบรนด์มีความหมาย ไม่ทิ้งแก่นแท้ของแบรนด์ มองผลกระทบระยะยาวมากกว่าผลตอบแทนระยะสั้น
ตั้งแต่การใช้ข้อมูล การทำ Personalization สิ่งสำคัญที่สุดของนักการตลาดและแบรนด์คือการทำให้ผู้บริโภคสะดวกที่สุด ทั้งในแง่ไลฟ์สไตล์และเงินในกระเป๋า และอย่าตัดการสร้างแบรนด์โดยเด็ดขาด มันคือการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะเมื่อวันที่เศรษฐกิจและกำลังซื้อของผู้บริโภคกลับมาแข็งแรง แบรนด์จะได้ไม่ต้องมาเริ่มนับหนึ่งใหม่หลังจากสูญเสียลูกค้าไป
