“Propoliz” จากผู้อยู่เบื้องหลังเสียงของคนไทย สู่แบรนด์สเปรย์พ่นคอเบอร์หนึ่งในใจผู้บริโภค

Propoliz จากผู้อยู่เบื้องหลังเสียงของคนไทย สู่แบรนด์สเปรย์พ่นคอเบอร์หนึ่งในใจผู้บริโภค

หากเสียงคือเครื่องมือในการใช้ชีวิต “Propoliz” (โพรโพลิซ) คือพาร์ตเนอร์ที่ช่วยให้เสียงของผู้คนก้องชัดอยู่เสมอ

ในวันที่ผู้บริโภคจดจำชื่อ “Propoliz” ในฐานะแบรนด์ผู้นำสเปรย์พ่นคอยอดขายอันดับหนึ่งในตลาดประเทศไทย ตลอด 3-4 ปีที่ผ่านมา ต่อยอดสู่การคว้ารางวัล Marketeer No.1 Brand Thailand ในหมวดสเปรย์พ่นคอ ซึ่งเพิ่งมีการสำรวจในปีนี้เป็นครั้งแรก

ความสำเร็จในวันนี้อาจดูเหมือนเกิดขึ้นอย่างง่ายดาย แต่อันที่จริง ทุกย่างก้าวของ Propoliz เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นนับสิบปี ตลอดจน ความเชื่อมั่นในพลังของนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ของไทย และความเข้าใจอย่างลึกซึ้งต่อ Pain Point ของผู้ใช้ทุกกลุ่ม

เมื่อเสียงไม่ใช่แค่เรื่องเจ็บคอ แต่คือชีวิตประจำวันของผู้คน

ในอดีต สเปรย์พ่นคออาจถูกมองว่าเป็นเพียง “ยาใช้เมื่อป่วย” แต่ Propoliz คิดต่าง แบรนด์เลือกที่จะขยาย “ความหมาย” ของผลิตภัณฑ์ให้กว้างกว่าการรักษา แล้วพา “เสียง” ไปอยู่ในบริบทของชีวิตจริง

“ถ้าคุณคือครู นักร้อง พนักงานคอลเซนเตอร์ แม่ค้า MC ยูทูบเบอร์ หรืออาชีพใดที่เสียงคือหัวใจสำคัญ Propoliz คือตัวช่วยที่เข้าใจ”

คุณประพล ฐานะโชติพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ที.แมน ฟาร์มาซูติคอล จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงแนวคิดในการทำตลาดของ Propoliz ที่กลายเป็นแกนหลักของการสื่อสารใหม่ พลิกมุมมองจาก “ยา” ไปสู่ “เครื่องมือคู่ใจ” ที่ช่วยให้ผู้คนทำหน้าที่ในชีวิตประจำวันได้อย่างเต็มศักยภาพ

เบื้องหลังความสำเร็จที่ไม่ใช่แค่จังหวะของโควิด

แม้ Propoliz จะถือกำเนิดมากว่าทศวรรษ แต่หนึ่งในช่วงเวลาที่ผู้บริโภคจำนวนมากเริ่มรู้จักคือในช่วงวิกฤตโควิด-19 ซึ่งเป็นจังหวะที่คนทั้งประเทศเริ่มหันมาใส่ใจสุขภาพช่องคอและการใช้เสียงมากขึ้น

“แต่สำหรับเรา โควิดไม่ใช่จุดเริ่มต้นมันเป็นเพียงช่วงเวลาที่ทำให้ ‘สิ่งที่เราทำมาตลอด’ ถูกมองเห็นอย่างกว้างขวางมากขึ้นเท่านั้นเพราะก่อนหน้านั้น เราใช้เวลากว่า 10 ปีในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อดูแล ‘เสียง’ อย่างจริงจังเราเชื่อว่า เสียงไม่ใช่แค่อวัยวะหนึ่งในร่างกายแต่คือพลังสำคัญในการทำงาน การสื่อสาร และการแสดงตัวตนของแต่ละคน”

กรณีศึกษาที่น่าสนใจคือ Propolizไม่ใช่เพียงแค่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะหน้า แต่ยังเดินหน้าสร้าง “แบรนด์ที่ยั่งยืน” และ “คุณค่าที่แท้จริง” ให้ผู้บริโภครู้สึกถึงความใส่ใจทุกครั้งที่หยิบขึ้นมาใช้

“Propolizไม่ได้ถือกำเนิดขึ้นในช่วงที่ตลาดเฟื่องฟู และแม้ช่วงโควิด-19 จะเป็นจังหวะที่ทำให้ผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพช่องคอมากขึ้น แต่สำหรับเรา สิ่งที่เราทำมาตลอด คือการมุ่งมั่นเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลเสียงอย่างแท้จริง

เราไม่ใช่แบรนด์ที่เข้ามาเพื่อตอบโจทย์เฉพาะกิจ แต่คือผู้เล่นที่ยืนหยัดอยู่ในตลาดนี้ด้วยความเข้าใจลึกซึ้งในความต้องการของผู้ใช้จริง ไม่ว่าจะเสียงแหบ เจ็บคอ หรือไม่มีเสียง เราอยากเป็นชื่อแรกที่ผู้บริโภคนึกถึงเมื่อเสียงเริ่มส่งสัญญาณ

การเป็นแบรนด์อันดับ 1 อย่างต่อเนื่องในวันนี้ ไม่ได้เกิดจากกระแสหรือช่วงเวลาใดเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากการพัฒนาที่ไม่หยุดนิ่งและการยืนหยัดในจุดยืนของตัวเองอย่างชัดเจน เราไม่ใช่แค่แบรนด์เพื่อการรักษา แต่คือแบรนด์ที่พร้อมช่วยให้ทุกคน ‘กลับมาใช้เสียงได้อย่างมั่นใจ’ ในทุกวันของชีวิต”

กลยุทธ์ที่ไม่แย่งซีนฮีโร่ แต่คือผู้ช่วยที่ทำให้ผู้ใช้ไปถึงเป้าหมาย

เบื้องหลังความสำเร็จของPropolizมาจากแนวคิดหลักขององค์กรที่ผสานพลังธรรมชาติเข้ากับเทคโนโลยีการผลิตยาระดับสูง หรือที่เรียกว่า “Natureceuticals” ภายใต้มาตรฐานระดับโลก

นวัตกรรมการผลิตที่ยึดหลักการใช้สารสกัดสมุนไพรในรูปแบบที่มีมาตรฐานเทียบเท่ายาแผนปัจจุบัน โดยนำระบบการผลิตที่ได้มาตรฐาน GMP PIC/S ซึ่งเป็นเกณฑ์สูงสุดระดับยุโรป มาปรับใช้กับทุกไลน์ผลิต เพื่อให้ได้สินค้าที่ปลอดภัย มีคุณภาพสูง และสร้างความเชื่อมั่นในระยะยาว ผลลัพธ์คือการเติบโตแบบ Organic ที่เกิดจากการบอกต่อของผู้ใช้จริง

นอกจากนี้ รวมถึง “แนวคิดการตลาด” ที่กลับไปสู่พื้นฐานสำคัญ คือ “การเข้าใจผู้บริโภคอย่างแท้จริง และเข้าถึงกับทุก Gen”

หัวใจสำคัญของกลยุทธ์ไม่ใช่การชูสินค้าให้เป็นพระเอกของเรื่องราว แต่เป็นการยืนข้างผู้ใช้ในฐานะ “ผู้ช่วย” ที่ช่วยให้ไปถึงเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็น Gen ไหนก็ตาม

อีกหนึ่งในกรณีศึกษาที่สะท้อนแนวคิด Empathy-driven Innovation ได้อย่างชัดเจน คือการเปิดตัวPropoliz Kid Spray ผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากประสบการณ์ของคุณประพลในฐานะ “พ่อคนหนึ่ง” ที่ตั้งคำถามง่าย ๆ ว่า “ทำไมเด็กไม่มีสเปรย์พ่นคอเหมือนผู้ใหญ่?”

จากความรู้สึกเล็ก ๆ กลายเป็น Insight ใหญ่ที่ไม่มีใครพูดถึงมาก่อน แต่ผู้ปกครองทุกคนเข้าใจดี และผลิตภัณฑ์นี้ก็ตอบรับ Emotional Need นั้นได้อย่างแม่นยำและตรงใจ

“เราเป็นสินค้าที่ไม่ชูตัวเอง แต่สะท้อนความเข้าใจ ว่าคุณมี Pain Point อะไร แล้วเราจะช่วยแก้ได้อย่างไร อย่างPropoliz Kid Spray มาจาก Inner ส่วนตัวที่ไม่อยากให้ลูกต้องได้รับยาเคมีโดยไม่จำเป็น ผลิตภัณฑ์นี้ไม่ได้เกิดจากอินไซต์เชิงสถิติ แต่มาจากประสบการณ์ชีวิตจริง ที่สะท้อนถึงความเข้าอกเข้าใจระดับลึก และกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ได้อย่างตรงจุด เพราะบางความต้องการ ผู้บริโภคอาจไม่พูด แต่เราต้องมองให้ออกในฐานะที่เราเข้าใจเขา”

จากผู้ใช้จริง สู่เสียงจริง สร้าง Community Marketing ที่มีชีวิต

คุณประพลยังเล่าถึงสถานการณ์ในตลาดว่า วันนี้ไม่เพียงต้องรับมือกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงเร็วขึ้นในยุค Digital Disruption เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงความท้าทายจากความต้องการของผู้บริโภคที่มีความเฉพาะเจาะจง แตกต่าง เป็นรายบุคคลมากขึ้น ทีมงานจึงต้อง Tailor สินค้าให้ตอบโจทย์หลาย Segment อย่างชาญฉลาด ทั้งในแง่ Functional และ Emotional

ในขณะเดียวกัน คู่แข่งในตลาดก็ตื่นตัวอย่างสูง ทั้งแบรนด์เก่าและใหม่ ต่างมีการปรับตัว สร้าง Talk of the Town ผ่านพรีเซนเตอร์และกลยุทธ์ที่เร้าใจ แต่Propolizเลือกยืนอยู่บนสิ่งที่ตนถนัด “ความเข้าใจจริง ความจริงใจ และสินค้าที่พิสูจน์คุณค่าได้ด้วยตัวเอง”

แคมเปญการตลาดในปีนี้ Propolizไม่ได้เริ่มต้นจากการเลือกพรีเซนเตอร์แต่เริ่มต้นจาก การฟังเสียงของผู้คนจริง ๆ เสียงของครูที่พูดทั้งวัน เสียงของนักแสดงที่ต้องใช้คอในทุกบท เสียงของคนธรรมดาที่ใช้เสียงในทุกวัน

Propolizเชื่อว่า เรื่องจริงที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันเหล่านี้ คือ “เสียงที่มีความหมาย” และเมื่อถูกร้อยเรียงเข้าด้วยกัน จึงกลายเป็นพลังของ Community ที่มีชีวิต ผู้คนที่ไม่ได้แค่ใช้แบรนด์ แต่ร่วมกัน “ส่งต่อสิ่งที่ใช้แล้วเห็นผล”

เพราะสำหรับPropoliz การสื่อสารที่ทรงพลังที่สุด…ไม่จำเป็นต้องมาจากคนที่ดังที่สุด แต่ต้องมาจาก ผู้คนที่ใช้จริง และพูดจากประสบการณ์จริงและเมื่อ “เสียงจริง” เหล่านั้นรวมกันก็จะกลายเป็นพลังของแบรนด์ที่มีชีวิต ไม่ใช่แค่แคมเปญชั่วคราว

“เราไม่ได้จ้างดาราดังมาเป็นพรีเซนเตอร์ แต่เราให้พื้นที่คนที่ใช้จริงได้เล่าเรื่องของตัวเอง นั่นคือพลังของความจริงใจ ที่ส่งเสียงจริงจากผู้ใช้ไปยังผู้ใช้คนอื่น และก่อให้เกิดการเติบโตที่มีความหมายยิ่งกว่าแค่การโฆษณา”

Collaboration สื่อสารตัวตนผ่านมุมมองที่ลึกกว่า ตอกย้ำการสร้างคุณค่าและเติบโตอย่างรับผิดชอบ

นอกจากเดินหน้ากลยุทธ์ “จากผู้ใช้จริง สู่เสียงจริง” ในการสร้างการยอมรับอย่างแท้จริงจากผู้ใช้แล้ว Propolizยังให้ความสำคัญกับการสื่อสาร “ตัวตนของแบรนด์” ผ่านมุมมองที่ลึกกว่าเดิม โดยเฉพาะการต่อยอดสู่การตลาดแบบใหม่อย่างการ Collaboration กับวงการอื่นนอกเหนือจาก Healthcare เพื่อขยายขอบเขตของแบรนด์สู่จักรวาลใหม่ เช่น การจับมือกับแบรนด์แฟชั่นเพื่อสร้างภาพลักษณ์ใหม่ที่ทันสมัย

รวมไปถึงการ Collaboration กับพาร์ตเนอร์ที่มี “จุดยืนด้านความยั่งยืน” (ESG) เพื่อขยายขอบเขตของPropolizให้ไม่ใช่แค่แบรนด์ในจักรวาล Healthcare แต่เป็น “แบรนด์ที่สะท้อนคุณค่าของโลกยุคใหม่”

ที่ผ่านมา Propolizได้เดินหน้าด้าน ESG มาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนวัสดุบรรจุภัณฑ์จากขวดแก้วมาเป็นขวดพลาสติกรีไซเคิล ซึ่งในเชิงการใช้พลังงานแล้ว กลับมีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่า แต่ที่ผ่านมายังไม่เคยถูกสื่อสารอย่างเป็นรูปธรรม

การจับมือกับแบรนด์หรือองค์กรที่ขับเคลื่อน ESG จึงไม่ใช่เพียงการขยายฐานผู้บริโภครุ่นใหม่ แต่คือการเปิดเผยอีกมิติหนึ่งของแบรนด์ที่พร้อมจะ “เติบโตอย่างรับผิดชอบ” และส่งต่อความเปลี่ยนแปลงที่ดีสู่สังคมในระยะยาว

และความร่วมมือนี้ อาจไม่จำกัดอยู่แค่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ แต่รวมไปถึงรูปแบบบริการ โมเดลธุรกิจ หรือกิจกรรมที่เชื่อมต่อกับผู้บริโภคในระดับคุณค่าร่วม (Shared Value) ที่ลึกกว่าการซื้อขาย ทั้งในแง่ไลฟ์สไตล์และคุณค่าทางจิตใจ

ต่อยอดการดูแลเสียงคนไทย สู่ Global Brand ในเวทีโลก

“ขอบคุณจากใจสำหรับความไว้วางใจที่มีให้Propolizมาโดยตลอด ความสำเร็จในวันนี้เกิดขึ้นได้จากทุกแรงสนับสนุน ทั้งผู้บริโภค ทีมงาน คุณหมอ โรงพยาบาล คู่ค้า พันธมิตรในทุกช่องทาง และทุกคนที่เป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางนี้ ที่ร่วมกันผลักดันให้เราเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในใจของคนไทย”

คุณประพล ฝากคำขอบคุณผ่าน Marketeer ไปยังทุกท่านที่มีส่วนร่วมผลักดันให้แบรนด์ประสบความสำเร็จในวันนี้ พร้อมเปิดเผยถึงหมุดหมายของPropolizที่ไม่จบแค่การเป็นเบอร์หนึ่งในไทย แต่กำลังเดินหน้าอย่างจริงจังสู่ตลาดต่างประเทศทั่วโลก

โดยชูจุดขายความ “แบรนด์ไทย” และ “สมุนไพรที่มีเทคโนโลยีและนวัตกรรม” พร้อมสื่อสารความล้ำสมัยในมุมที่ตลาดโลกต้องจับตา ด้วยคุณภาพที่ได้รับการยอมรับในหลายภูมิภาค ไม่ว่าจะเอเชีย ยุโรป อเมริกา หรือออสเตรเลีย ล้วนสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของแบรนด์ในเวทีโลก

“นี่เป็นจังหวะสำคัญที่เราจะเดินหน้าเต็มกำลัง สู่เป้าหมายการเป็น Global Brand
เริ่มจากการสร้างฐานที่แข็งแรงในระดับภูมิภาค ขยายประเทศใหม่ เพิ่มความลึกในตลาดเดิม และสร้างการรับรู้ให้กลายเป็น Top of Mind ในแต่ละพื้นที่ เป้าหมายไม่ใช่แค่การขยายพื้นที่ขาย แต่คือการสร้างแบรนด์ไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนในระดับโลก บนจุดแข็งของธรรมชาติ เทคโนโลยี และความเข้าใจในผู้บริโภค

เราภูมิใจนี่คือนวัตกรรมของคนไทยที่ได้รับการยอมรับจากคนไทย และเราจะเอาความภาคภูมิใจนี้ ไปสร้างชื่อเสียงให้ประเทศในระดับนานาชาติ ภูมิใจที่ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ไทยในรูปแบบที่ทันสมัย มีนวัตกรรม และได้มาตรฐานระดับสากล พร้อมเดินหน้าขยายสู่ตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง

ปัจจุบัน Propoliz วางจำหน่ายแล้วใน 7 ประเทศ และเราตั้งเป้าขยายให้ครอบคลุมกว่า 10 ประเทศในอนาคตอันใกล้ นี่คือภารกิจที่เรามุ่งมั่น ไม่เพียงเพื่อการเติบโตของแบรนด์ แต่เพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับนวัตกรรมไทยในเวทีโลกอย่างแท้จริง”

 

---