ในปีนี้เชื่อว่าอากาศในประเทศไทย โดยเฉพาะเดือนมีนาคม-พฤษภาคมจะร้อนที่สุดในรอบ 55ปี ด้วยอุณหภูมิสูงสุด 44 องศาเซลเซียส และส่งให้ ตลาดเครื่องปรับอากาศ ในปีนี้เติบโตกว่าปีที่ผ่านมา 6.2-10.4% ด้วยยอดจำหน่าย 1.71 – 1.77 ล้านเครื่อง มูลค่า 24,840 – 25,720 ล้านบาท
และการเติบโตของตลาดเครื่องปรับอากาศในปีนี้ยังมีความน่าสนใจในเรื่องของเทคโนโลยีประหยัดพลังงานหรือ อินเวอร์เตอร์ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่เย็นเร็วและประหยัดพลังงานสูงสุดถึง 40% พร้อมการทำงานที่เงียบกว่าเครื่องปรับอากาศแบบเดิมๆ
ตลาดเครื่องปรับอากาศ
อินเวอร์เตอร์เทคโนโลยีประหยัดพลังงาน
ปฏิเสธไม่ได้ว่าเครื่องปรับอากาศอินเวอร์เตอร์คือเทคโนโลยีประหยัดพลังงานที่มีคุณสมบัติโดยเด่นด้านการทำความเย็นที่เร็วกว่า และเย็นฉ่ำกว่าเครื่องปรับอากาศทั่วๆ ไป ที่มีความเร็วรอบของคอมเพรสเซอร์คงที่ และควบคุมอุณหภูมิด้วยการตัดต่อการทำงานเมื่ออุณหภูมิห้องได้ตามต้องการ ซึ่งทำให้ช่วงเริ่มต้นการทำงานจะใช้พลังงานที่สูงในการทำความเย็น ส่วนเครื่องปรับอากาศอินเวอร์เตอร์คอมเพรสเซอร์จะใช้ความเร็วรอบที่สูงเพื่อสร้างความเย็นและลดความเร็วรอบลงเพื่อรักษาอุณหภูมิตามต้องการ สามารถทำความเย็นได้เร็วมีความเย็นสบายและเงียบกว่า
คุณสมบัติเด่นของเครื่องปรับอากาศอินเวอร์เตอร์ จึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมให้การตอบรับเป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าตัวเครื่องปรับอากาศอินเวอร์เตอร์จะมีราคาเฉลี่ยสูงกว่าเครื่องปรับอากาศทั่วๆ ไปประมาณ 10-50% แล้วแต่รุ่น แต่เมื่อแลกกับค่าไฟที่ประหยัดลงแล้ว เชื่อว่าเพียงระยะเวลาปีครึ่งถึง 2 ปี ค่าไฟที่ประหยัดได้นั้นจะเท่ากับส่วนต่างราคาเครื่อง ซึ่งหมายความว่าระยะยาวเครื่องปรับอากาศอินเวอร์เตอร์จะคุ้มค่ากว่าในทุกๆ ด้านสำหรับผู้ที่มองหาเครื่องปรับอากาศเครื่องใหม่ในหน้าร้อนนี้
อินเวอร์เตอร์ที่ดีต้องมาพร้อมกับR32
ในปัจจุบันเครื่องปรับอากาศอินเวอร์เตอร์มีให้เลือกหลากหลายรุ่นหลากหลายคุณสมบัติ แต่เครื่องปรับอากาศอินเวอร์เตอร์ที่ประหยัดพลังงานสูงสุด และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสูงสุดคงหนีไม่พ้นเครื่องปรับอากาศอินเวอร์เตอร์ที่มาพร้อมกับสารทำความเย็นอาร์ 32 ที่มีคุณสมบัติเด่นที่น่าสนใจ 3 ประการได้แก่
หนึ่ง-ประสิทธิภาพทำความเย็นที่ดีกว่าสารทำความเย็นเดิม R22 ซึ่งใช้กันมากในปัจจุบันถึง 60% สอง-ประหยัดพลังงาน และสาม-เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไม่ทำลายโอโซน (Ozone) ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อนน้อยกว่า 3 เท่าเมื่อเทียบกับสารทำความเย็นอย่าง R410Aที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน จึงส่งผลให้เครื่องปรับอากาศเย็นเร็ว เย็นจัดพร้อมประหยัดพลังงาน
ในประเทศญี่ปุ่นได้นำสารทำความเย็น R32มาใช้กับเครื่องปรับอากาศเพื่อที่อยู่อาศัยมาตั้งแต่ปี 2555 โดยไดกิ้นเป็นผู้ริเริ่มเป็นรายแรกและในปัจจุบันเครื่องปรับอากาศในประเทศญี่ปุ่น 70% ใช้สารทำความเย็น R32 ทดแทนสารทำความเย็น R22 ที่มีส่วนประกอบของ HCFC สารอันตรายที่เรียกร้องให้มีการเลิกใช้ในปี 2563 สำหรับประเทศอุตสาหกรรม และในปี 2573 สำหรับประเทศกำลังพัฒนาเพราะมีส่วนในการทำลายชั้นโอโซน เฉกเช่นเดียวกับสารทำความเย็นCFCที่เคยถูกเรียกร้องให้ให้เลิกใช้ก่อนหน้านี้
ทำไมต้องไดกิ้น อินเวอร์เตอร์ R32
จากทดสอบประสิทธิภาพการประหยัดพลังงานหรือ SEER/EER จากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย โดยเครื่องปรับอากาศฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ที่นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยประหยัดไฟสูงสูง 11 อันดับแรก เป็นเครื่องปรับอากาศไดกิ้นที่ใช้สารทำความเย็น R32 และเป็นระบบอินเวอร์เตอร์ทั้งสิ้น และเป็นเครื่องพิสูจน์ได้อย่างดีถึงประสิทธิภาพการประหยัดไฟที่แท้จริง
และด้วยประสบการณ์คร่ำหวอดมากกว่า 90 ปีในประเทศญี่ปุ่น ในฐานะบริษัทเดียวที่ผลิตและให้บริการเครื่องปรับอากาศครบวงจร ทั้งเครื่องปรับอากาศเพื่อที่อยู่อาศัย เชิงพาณิชย์ และสารทำความเย็นในเครื่องปรับอากาศ ที่มีส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 ในประเทศญี่ปุ่น จึงเป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าเครื่องปรับอากาศไดกิ้นมีคุณภาพมาตรฐานและการบริการเพียงใด
สำหรับประเทศไทยการนำสารทำความเย็น R32 มาใช้ในเครื่องปรับอากาศเพื่อที่อยู่อาศัย ยังคงไม่แพร่หลายนัก โดยผู้ผลิตเครื่องปรับอากาศในประเทศไทย 11 ราย ได้รับการช่วยเหลือเงินสนับสนุนจากธนาคารโลกให้เลิกผลิตเครื่องปรับอากาศที่ใช้สารทำความเย็น R22
ไดกิ้นถือเป็นรายแรกที่ใช้สารทำความเย็น R32 กับเครื่องปรับอากาศเพื่อที่อยู่อาศัยในประเทศไทย และได้มีพิธีลงนามระหว่างธนาคารออมสินและ ไดกิ้น อินดัสทรีส์ ในโครงการลดและเลิกใช้สารไฮโดรคลอโรฟลูออโรคาร์บอน ที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมจัดขึ้น ซึ่งไดกิ้นเป็นผู้สนับสนุนด้านเทคนิค วิชาการต่างๆ ในการเปลี่ยนจากสารทำความเย็นที่ใช้อยู่ในปัจจุบันเป็นสารทำความเย็น R32 เพื่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
Daikin Ekira เครื่องปรับอากาศรุ่นใหม่จากไดกิ้น
Daikin Ekira คือเครื่องปรับอากาศอินเวอร์เตอร์ที่ใส้สารทำความเย็น R32 รุ่นล่าสุดที่ไดกิ้น แนะนำสู่ตลาดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ที่มาพร้อมกับรางวัลการออกแบบจาก Reddot Design Award 2014 บนแนวคิดเครื่องปรับอากาศคือเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหนึ่งในบ้านที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
ตัวเครื่อง Daikin Ekira จึงมาพร้อมหน้ากากโค้งมน แปลกตากว่าเครื่องปรับอากาศทั่วไป บานสวิงจะยกตัวขึ้นอย่างราบเรียบในยามที่เปิดเครื่อง และดวงไฟส่องสว่าง ณ ฐานตัวเครื่อง เปลี่ยนสีสันตามสถานะการทำงานที่เปลี่ยนไปตามการใช้งานที่แตกต่าง ทำงานเงียบสนิทเพียง 19 เดซิเบลด้วยเทคโนโลยีคอมเพรสเซอร์แบบสวิง ลิขสิทธิ์เฉพาะของไดกิ้น รวมถึงการพัฒนาใบพัดแบบ Skew-angled Random-pitched Blades ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนได้ดียิ่งขึ้น ช่วยให้เครื่องทำงานเงียบสนิทเพียง 19 เดซิเบล เทียบเท่าเสียงกระซิบ มอบความเย็นสบายต่อเนื่อง ปราศจากเสียงรบกวนในยามพักผ่อน
พร้อมกับฟีเจอร์อัจฉริยะควบคุมการเปิด-ปิดเครื่องปรับอากาศผ่านสมาร์ทโฟนทั้งระบบ iOS และ Android สะดวกสบายแม้ไม่อยู่ในบ้านก็สามารถควบคุมการทำงานของเครื่องปรับอากาศได้ดั่งใจ ตามคอนเซปท์ Always in Control และระบบ Intelligent Eye เซ็นเซอร์อัจฉริยะ ตรวจจับการเคลื่อนไหวภายในห้อง หากไม่มีการเคลื่อนไหว 20 นาที เครื่องปรับอากาศจะปรับอุณหภูมิเพิ่มขึ้น 2 องศาเพื่อประหยัดพลังงาน และจะปรับกลับที่อุณหภูมิเดิมเองอัตโนมัติเมื่อกลับเข้ามาในห้อง ทั้งยังสามารถตั้งค่าให้เครื่องปรับอากาศส่งลมตรงมายังทิศทางที่คนอยู่ได้อีกด้วย
จากความใสใจสิ่งแวดล้อม ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี และนวัตกรรมที่ใส่ใจผู้บริโภค จึงไม่แปลกเลยที่ไดกิ้น จะชนะใจผู้บริโภครุ่นใหม่ในทุกๆ ด้าน
Website : Marketeeronline.co /
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline
