“เมื่อ 18 ปีก่อน ยังไม่มีใครรู้จักชื่อของมันเลย แต่ตอนนี้มันอยู่ทุกที่” นี่คือคำตอบของ กิล ซา-ฮยอน วัย 58 ปี เจ้าของร้านสมุนไพรที่ย่านยังนยองชี ตลาดสมุนไพรใหญ่สุดในกรุงโซล เกาหลีใต้เมื่อถูกถามถึง ฮ็อดแก สมุนไพรที่เป็นส่วนผสมหลักของ ยาแก้แฮงก์สูตรเกาหลี

เขากล่าวพร้อมชูช่อก้านไม้แห้งสีน้ำตาลในมือ โดยนี่เป็นเพียงหลักฐานที่สะท้อนว่า ยาแก้แฮงก์ ขายดีแค่ไหน เพราะปัจจุบันสมุนไพรชนิดนี้ถูกนำไปผสมกับสมุนไพรชนิดอื่นๆ เพื่อผลิตสินค้าในตลาดเดียวกัน ซึ่งมีให้เลือกมากมาย จนเป็นตลาดใหญ่มูลค่ามหาศาล และที่สำคัญยังโตแบบสวนกระแสอีกด้วย

ชาวเกาหลีใต้จริงจังกับอาการเมาค้างมาก โดยในอดีต พวกเขามักไปกินซุปร้อนๆ ที่เรียกว่า แฮจังกุก ซึ่งมักทำจากผักกาดขาว ปลาพอลแล็กแห้ง หรือแม้กระทั่งเลือดวัวก้อน ตอนเช้าหากคืนไหนดื่มหนัก ซึ่งพัฒนาไปเป็นธุรกิจ ร้านอาหารที่เปิดตั้งแต่เช้ามืดเพื่อรองรับลูกค้าที่ดื่มหนักมาโดยเฉพาะ

แต่ในปัจจุบัน การแก้แฮงก์ได้กลายเป็นธุรกิจเต็มตัว โดยเมื่อเดินเข้าไปในร้านสะดวกซื้อของเกาหลีใต้ คุณจะพบชั้นวางสินค้าที่อุทิศให้กับผลิตภัณฑ์แก้แฮงก์โดยเฉพาะ

ที่มีตั้งแต่เครื่องดื่มสมุนไพรแบบดั้งเดิม ไปจนถึงเยลลี่และยาเม็ดรูปแบบใหม่ๆ เพื่อลดความทุกข์ทรมานในเช้าวันถัดไป โดยผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะมีสารสกัดจากฮ็อดแกเป็นส่วนประกอบหลัก

ท่ามกลางการประเมินของ NielsenIQ บริษัทสำรวจและที่ปรึกษาทางการตลาดชื่อดังประจำเกาหลีใต้ที่ว่าตลาดผลิตภัณฑ์แก้แฮงก์ประเทศนี้มีมูลค่าสูงถึง 350,000 ล้านวอน (ประมาณ 9,900 ล้านบาท) โดยในปี 2024 เพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อนหน้า

ความน่าสนใจของเรื่องนี้ ไม่ได้หยุดลงตรงที่การเติบโตอย่างต่อเนื่องเท่านั้น เพราะยังเป็นการโตแบบสวนทางกับพฤติกรรมการดื่มของคนเกาหลีใต้กลุ่ม Gen Z ที่ลดลงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2015 หลังบริษัทต่างๆ ลดการบังคับพนักงานไปดื่มสังสรรค์หลังเลิกงาน ไปจนถึงคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพมากขึ้น

นอกจากนี้พวกเขาก็ไม่อยากภาพตัวเองเมามายไปขึ้นสื่อโซเชียลให้ต้องอับอาย ซึ่งก็เป็นไปตามพฤติกรรมของ Gen Z ทั่วโลกด้วย

ศาสตราจารย์จู ยอง-ฮา ผู้เชี่ยวชาญด้านวัฒนธรรมอาหารจาก Academy of Korean Studies อธิบายว่า สำหรับชาวเกาหลีใต้รุ่นใหม่ ผลิตภัณฑ์แก้แฮงก์มีความหมายทางสังคมพอๆ กับการใช้งานจริง เพราะพวกเขามักจะซื้อเผื่อเพื่อนๆ แล้วมอบให้กันระหว่างดื่ม จนกล่าวได้ว่าการกันอาการแฮงก์กลายเป็นส่วนหนึ่งของมารยาทบนโต๊ะสังสรรค์ยุคนี้ไปแล้ว

ด้านแทยอง ฮวัง นักวิเคราะห์ของบริษัท Mintel กล่าวว่า ในขณะที่ตลาดผลิตภัณฑ์แก้แฮงก์ทั่วโลกยังเป็นตลาดเฉพาะกลุ่ม แต่ในเอเชียตะวันออก โดยเฉพาะเกาหลีใต้ ถือเป็นข้อยกเว้น เพราะเป็นตลาดที่โตมาก และเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมการดื่ม

นอกจากนี้ยังมีข้อมูลอีกด้วยว่า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เกาหลีใต้เป็นประเทศที่มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์แก้แฮงก์มากที่สุดในโลก โดยเมื่อนำไปเชื่อมโยงกับสินค้าต่างๆของเกาหลีใต้ ยังช่วยขยายตลาดไปเอเชียประเทศอื่นๆ เช่น เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม แม้ฮ็อดแกจะถูกโปรโมตว่าเป็นสมุนไพรเก่าแก่ของเกาหลี แต่ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าอาจเป็นการกล่าวอ้างที่เกินจริงไปบ้าง ทั้งในเรื่องความเก่าแก่และสรรพคุณ

ดร. ชเว โกยา จากสถาบันการแพทย์แผนตะวันออกของเกาหลี ระบุว่า ความสนใจในฮ็อดแกเพื่อบรรเทาอาการเมาค้างเพิ่งเริ่มต้นในช่วงต้นทศวรรษ 1990 นี่เอง

ขณะที่งานวิจัยพบว่าสารสกัดจากผลฮ็อดแกช่วยลดความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ในเลือดของหนูทดลอง และอาจช่วยปกป้องตับจากความเสียหายที่เกี่ยวข้องกับแอลกอฮอล์ได้ แต่ในเมื่อส่วนใหญ่เป็นการทดลองในสัตว์ และยังขาดการทดลองทางคลินิกในมนุษย์ที่มีคุณภาพสูง จึงถือเป็นข้อจำกัดและเกิดเป็นความกังวลในเรื่องสรรพคุณ

ด้วยเหตุนี้ เมื่อเดือนมกราคม 2025 ที่ผ่านมา หน่วยงานกำกับดูแลของเกาหลีจึงได้ออกกฎใหม่ที่กำหนดให้บริษัทต่างๆ ต้องทำการทดลองในมนุษย์เพื่อพิสูจน์สรรพคุณของผลิตภัณฑ์ ซึ่งบริษัทที่ไม่สามารถทำตามข้อกำหนดได้จะถูกสั่งห้ามโฆษณา และเลิกขาย

ดังนั้นท้ายที่สุดแล้ว สำหรับผู้บริโภคส่วนใหญ่ผลิตภัณฑ์เหล่านี้อาจเกี่ยวกับความสบายใจ เป็นการแสดงถึงความใส่ใจคนในกลุ่ม และมารยาทในการเข้าสังคม มากกว่าสรรพคุณทางการแพทย์ไปแล้ว เพราะเป็นสินค้าราคาถูกและหาซื้อได้ทั่วไป

อี โซ-ยอง พนักงานออฟฟิศวัย 26 ปี สะท้อนถึงผลิตภัณฑ์แก้แฮงก์ของเกาหลีใต้ไว้ว่า ไม่รู้ว่ามันได้ผลจริงไหม แต่มันราคาไม่แพง และบางครั้งเมื่อกินเข้าไปหลังดื่มก็รู้สึกดีขึ้นจริงๆ แค่นั้นก็พอแล้ว / theguardain


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer