ในสมรภูมิธุรกิจโบรกเกอร์ประกันภัยที่การแข่งขันดุเดือด ส่วนใหญ่แบรนด์มักโฟกัสที่โปรโมชันและการปิดการขาย แต่ “Pain Point” ที่แท้จริงของผู้บริโภค กลับไม่ได้อยู่ที่ตอนซื้อ แต่อยู่ที่ “วินาทีที่เกิดเหตุ”
Marketeer พาไปเจาะลึกเคสที่น่าจับตามอง เมื่อ “ประกันติดโล่” แบรนด์โบรกเกอร์ภายใต้ บมจ. เงินติดล้อ เลือกที่จะฉีกกฎการสื่อสารแบบเดิมๆ ด้วยการหยิบคำที่ Real ที่สุดบนท้องถนนอย่างคำว่า “ซวย” มาเป็นแกนหลักในการสร้างแบรนด์ เพื่อเน้นย้ำจุดยืน พร้อมท้าทายตลาดว่า ประกันติดโล่ไม่ใช่แค่นายหน้าขายประกัน แต่คือ “Service Broker” ที่พร้อมอยู่เคียงข้างในวันที่คุณต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด
จาก Real Pain Point สู่ Big Idea เมื่อความ “ซวย” คือโอกาสของแบรนด์

Insight ที่ทรงพลังที่สุดมักมาจากความจริงที่คนไม่อยากเจอ สำหรับคนใช้รถ คำว่า “ซวย” คือคำอุทานสั้นๆ ที่สรุปทุกสถานการณ์ไม่คาดฝัน ตั้งแต่รถชน ยางแตก สตาร์ตไม่ติด ฯลฯ
แต่ความซวยขั้นกว่า คือประสบการณ์ “ซวยซ้ำซวยซ้อน” หลังจากเกิดเหตุ เพราะภาพจำของโบรกเกอร์ประกันในหัวผู้บริโภคคือ “ขายแล้วจบ” พอถึงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน กลับติดต่อยาก ไม่รู้ขั้นตอน ประสานงานล่าช้า หรือถูกทิ้งให้เคว้งอยู่กลางทาง
ความเจ็บปวดตรงนี้เองที่ประกันติดโล่นำมาตีโจทย์ใหม่ ต่อยอดจาก Insight เรื่อง “ความซวย” มาเป็นโซลูชัน สำหรับคนมีประกัน
Strategic Shift พลิกจาก “After Sales” สู่ “After ซวย Service”
ความเฉียบคมของแคมเปญนี้คือการ Twist คำที่คุ้นหูอย่าง After Sales Service มาเป็น “After ซวย Service”
นี่ไม่ใช่แค่การเล่นคำเพื่อความสนุก แต่เป็นการประกาศเจตนารมณ์ที่ชัดเจนว่า บริการที่แท้จริงของประกันติดโล่ ไม่ใช่แค่แนะนำในตอนซื้อ แต่ยังตามไปดูแลในวันที่ลูกค้าเจอเรื่องซวย โดยมีหัวใจสำคัญที่จับต้องได้คือ Call Center 1501 ที่ให้บริการแบบ 24 ชั่วโมง ไม่ใช่แค่รับเรื่อง แต่คือการ “ตามให้ยันจบเคลม”
การเคลื่อนไหวครั้งนี้ทำให้แบรนด์ “ประกันติดโล่” ดูมีความเป็นมนุษย์ เข้าใจผู้บริโภคอย่างลึกซึ้ง และที่สำคัญคือ สื่อสารได้ตรงกับสถานการณ์จริงที่ลูกค้าต้องเจอ แตกต่างจากโฆษณาประกันทั่วไปที่มักใช้คำทางการจนดูห่างเหิน
Creative Execution สื่อสารความ “ซวย” ให้โดนใจคนเมือง
เพื่อให้กลยุทธ์นี้เข้าถึงคนในวงกว้าง ประกันติดโล่ได้ออกแบบการสื่อสารที่เล่นกับความซวยได้อย่างมีชั้นเชิง:
- สร้างกระแสบน Social (Online Focus) ต้นปีที่ผ่านมา แบรนด์เลือกสื่อสารว่า “ความซวยป้องกันไม่ได้ แต่บรรเทาได้” ผ่านไอเดียที่จิกกัดความเชื่อคนไทย ด้วย “แผ่นบรรเทาซวย” ล้อเลียนแผ่นแปะแก้ปวด และ “ป้ายทะเบียนซวย” ที่โชว์ให้เห็นว่าต่อให้เลขมงคลแค่ไหน ก็ห้ามอุบัติเหตุไม่ได้ เพื่อชี้ให้เห็นว่า สิ่งที่ช่วยคุณได้จริงๆ คือประกันและโบรกเกอร์ที่ดูแลดีต่างหาก
- ดักเจอในจุดที่ใช่ (On-Ground Focus) ล่าสุด แบรนด์รุกหนักด้วยสื่อ OOH ที่บุกไปอยู่ใน “จุดเสี่ยงซวย” ในชีวิตจริง ไม่ว่าจะเป็นทางด่วนที่รถชอบเสีย, สี่แยกที่ชนกันบ่อย, หรือบนสถานี BTS ในชั่วโมงเร่งด่วน เพื่อย้ำเตือนว่าความซวยเกิดขึ้นได้ทุกที่และทุกเวลา และเมื่อมันเกิดขึ้น แค่โทรเบอร์ 1501 ประกันติดโล่พร้อมช่วยเหลือตลอด 24 ชม.
สู่การเป็น “Service Broker” ที่พร้อมมอบความสบายใจให้กับลูกค้า
แคมเปญนี้ไม่ใช่แค่สร้างสีสัน แต่คือการตอกย้ำ Brand Positioning ใหม่ และความตั้งใจของประกันติดโล่ ในฐานะ “Service Broker” หรือนายหน้าประกันภัยที่ทำหน้าที่เหมือนผู้ช่วยที่เชี่ยวชาญ อยู่เคียงข้างและพึ่งพาได้จริง
ผลลัพธ์ที่ได้คือภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งขึ้น แท็กไลน์ “สบายใจตั้งแต่ซื้อยันเคลม” กลายเป็นคำสัญญาที่จับต้องได้ผ่านบริการ After ซวย Service เพราะท้ายที่สุดแล้ว ในวันที่โชคร้ายที่สุด ลูกค้าไม่ได้ต้องการคำปลอบใจที่สวยหรู แต่ต้องการใครสักคนที่ “ช่วยจัดการปัญหาตรงหน้าให้จบ” จริงๆ
และนั่นคือสิ่งที่ประกันติดโล่กำลังพิสูจน์ให้เห็น


#ประกันติดโล่ #โทร1501 #AfterซวยService #สบายใจตั้งแต่ซื้อยันเคลม #MarketeerOnline
