โมเดลธุรกิจร้านขายขนมหวานของ AFTER YOU ที่โดดเด่นด้วย Product Killer อย่าง ฮั่นนี่โทสต์,คากิโกริ, เวลานี้ราคาหุ้น ตกลงต่อเนื่องจากราคาที่เคยพีคสุดคือ 15 บาท/หุ้น ปัจจุบันเหลือ 7.1 บาท/ หุ้น
ถึงจะมีการวิเคราะห์กันว่านี่คือราคาที่แท้จริงของหุ้น AFTER YOU บวกกับปัญหาเรื่องกำไรที่น้อยลง เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นที่ต้องนำเงินมาลงทุนขยายสาขา
แต่หากมองอีกมุมหนึ่งนับตั้งแต่ AFTER YOU เข้ามาในตลาดหลักทรัพย์ ก็ต้องพบเจอความท้าทาย โดยมีโจทย์การตลาดหลายข้อที่ต้องสอบให้ผ่าน ถึงแม้ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาจะมีรายได้และกำไรเติบโตก็ตาม
ทั้งกำไรและรายได้หากใครเป็นเจ้าของ AFTER YOU คงต้องยืนยิ้มด้วยความภูมิใจ พร้อมกับต้องวางแผนธุรกิจให้มีการเติบโตขึ้นในทุกๆ ปี โดยเฉพาะเมื่อตบเท้าเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ ย่อมหมายถึงความกดดันที่มาจากความคาดหวังของนักลงทุน
แลัววัตถุดิบในการที่จะมาปรุงแต่งความฝันให้อาณาจักรร้านขนมหวาน AFTER YOU เติบโตในอนาคตมีอะไรบ้าง
1.การขยายสาขา 2. สร้าง Sub Brand ใหม่, 3. คิดค้นเมนูของหวานที่ไม่ได้จำกัดตัวเองอยู่แค่ในร้าน
ทั้งหมดคือสิ่งที่ AFTER YOU ต้องปรุงแต่ง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิด
เรื่องแรกสุดคือขยายสาขา
ปัจจุบัน AFTER YOU มี 25 สาขา แต่หากสังเกตสาขาเกือบทั้งหมดกระจุกตัวอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ จับโลเคชั่นลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง
ความท้าทายอยู่ที่ว่า AFTER YOU ขายขนมหวานราคาแพงแต่ละเมนู 100 – 300 บาท/เมนู
ทำให้พื้นที่การเปิดสาขาจะถูกบีบให้แคบลงโดยอัตโนมัติ เหลือเพียงโลเคชั่นที่มีกำลังซื้อสูงอย่างศูนย์การค้า,คอมมูนิตี้มอลล์หรู, ผิดกับธุรกิจเชนร้านอาหาร Mass ที่สามารถไปได้เกือบทุกที่
ยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดเจน หนึ่งในโลเคชั่นที่ AFTER YOU ยังไม่กล้าจะขยายสาขานั้นคือ เทสโก้,โลตัส & บิ๊กซี แต่ร้านอาหาร Mass อย่าง KFC หรือ MK สยายปีกปักหมุดในพื้นที่นี้อย่างครอบคลุมจนมีมากกว่า 600 สาขา ณ ปัจจุบัน
เพราะฉะนั้นการจะขยายสาขาของ AFTER YOU ต่อไปนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายโดยเฉพาะพื้นที่ต่างจังหวัดจะเหลือพื้นที่ลูกค้าไฮโซที่กล้าจะซื้อขนมหวานราคา 100 – 300 บาท/เมนู อยู่เท่าไร
เป็นเรื่องที่ AFTER YOU ต้องประเมินสถานการณ์อย่างหนักเพราะว่าการเปิดสาขาใหม่ 1 สาขาก็ใช้เงินลงทุนอยู่ที่ 4 – 7 ล้านบาทขึ้นอยู่กับขนาดและโลเคชั่น
ถึงแม้ก่อนหน้านี้ AFTER YOU จะเลือกจะใช้วิธีฉลาดๆ ด้วยการคบหากับร้าน “สตาร์บัคส์” นำเมนู signature อย่าง ชิบูยา ฮันนี่ โทสต์ ไปขายในร้าน “สตาร์บัคส์” 2 สาขา (โดยมีแผนจะดีล 8 สาขา) ซึ่งทำให้ไม่ต้องเสียเงินลงทุนเปิดสาขา และช่วยทำให้ Branding ของ AFTER YOU แข็งแกร่งมากขึ้น
แต่ในมุมธุรกิจผลร้ายก็คือ AFTER YOU ก็ขายในร้าน “สตาร์บัคส์” ได้เพียง 3 – 4 เมนูเท่านั้น แถมยังต้องแบ่งกำไรให้อีกด้วย
ที่สำคัญก็ยังไม่รู้ว่า “สตาร์บัคส์” จะให้เพิ่มสาขาในการขายมากน้อยแค่ไหน ?
เพราะฉะนั้นการเปิดสาขาแล้วยืนด้วยตัวเองเป็นอะไรที่มั่นคงกว่า เพราะธุรกิจของ AFTER YOU มี “แต้มต่อ” อยู่ที่การมีกำไรสูงถึง 12 – 13% ซึ่งดีกว่าอีกหลายธุรกิจร้านอาหาร
แล้วต้นทุน AFTER YOU แบ่งเป็นอะไรบ้างหากสมมติต้นทุนคือเงิน 100 บาท
สร้าง Sub Brand ใหม่ๆ
ไม่ใช่ AFTER YOU ไม่เคยทำ แต่ทำมาแล้วกลับ “เจ๊ง” อย่างร้าน “เมโกริ” หรือให้เข้าใจง่ายๆคือ ร้านขายบิงซู โดยสาขาที่ ทองหล่อ ปิดแล้ว พร้อมกับมีข่าวลือมาว่าอาจจะมีการปิดสาขาที่ 2 ใน siam Square one
AFTER YOU มองว่า 1 ในความผิดพลาดครั้งนี้ของตัวเอง คือการไม่เอาชื่อแบรนด์อันแข็งแกร่งอย่าง AFTER YOU ไปใส่ท้ายเพื่อ Endorse ชื่อร้าน “เมโกริ” ทำให้ลูกค้าไม่รู้ว่า “บิงซู” ถ้วยนี้ AFTER YOU เป็นผู้ผลิต
ทำให้โมเดลร้านใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อปลายปีที่แล้วโดยเริ่มสาขาแรกที่ สยาม พารากอน จึงใช้ชื่อว่า After You Durian โดยเป็นร้านี่ใช้ทุเรียนเป็นวัตถุดิบหลักจากนั้นก็ครีเอทเมนูต่างๆ มาขาย ซึ่งก็ประสบความสำเร็จ
3. ไม่จำกัดตัวเอง
ไม่มีใครปฎิเสธว่าจุดแข็งของ AFTER YOU คือไอเดียในการคิดค้นเมนูของหวานใหม่ๆ แต่ก็ถูกจำกัดว่าต้องเป็นของหวานที่ต้องกินทันทีในร้าน
หมากตัวต่อไปที่ AFTER YOU กำลังคิดที่จะเดิน จากการเปิดเผยของ เมย์-กุลพัชร์ กนกวัฒนาวรรณ เธอบอกว่ากำลังศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการทำสินค้าแบบ Mass ขายตามช่องทางจัดจำหน่าย
แล้วเชื่อได้เลยว่ามีความเป็นไปได้สูงที่เธอต้องติดคำว่า AFTER YOU ในสินค้าใหม่ตลาด Mass เพื่อการันตีความอร่อย
ส่วนราคาหุ้น AU จะกลับมาในราคาพีคๆ ที่ 15 บาท/หุ้นหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่ที่ว่า AFTER YOU สามารถสอบผ่านการบ้านทางธุรกิจเหล่านี้แล้วทำให้องค์กรประสบความสำเร็จในแง่กำไรได้มากน้อยแค่ไหน ?
(เกร็ดความรู้) ปัจจุบันมีร้าน Cafe ของหวานถูกนำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่นเกือบๆ 20 แบรนด์ โดยร้านเหล่านี้ยังไม่ได้ทำตลาดจริงจัง แต่ก็มีอยู่หลายร้านที่มีลูกค้าเข้าเยอะ และได้รับความนิยม
หากร้านเหล่านี้ลุกขึ้นมาทำตลาดจริงจังเมื่อไร ก็ย่อมสร้างแรงสั่นสะเทือนให้แก่ AFTER YOU ได้เช่นกัน
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline
