จะบุกตลาดจีน การทำ E-Payment เป็นเรื่องหนึ่งที่จำเป็นมาก เพราะเป็นช่องทางที่คนจีนนิยมใช้งานกันมากขึ้นเรื่อยๆทุกปี จนแทบกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตไปแล้ว
วันนี้เรามาดู 5 ข้อสำคัญที่ได้รวบรวมมาจากการวิเคราะห์ของสำนักข่าวจีนชื่อดังบางแห่งเช่น Xinhua, Chinadaily และ Jingdaily เพื่อมาดูกันว่า E-Payment ของจีนในเวลานี้ไปถึงไหน แล้วคนไทยควรทราบอะไรเป็นเรื่องหลักๆบ้าง
1.มือถือคือชีวิต หนึ่งเครื่องคือทุกสิ่งทุกอย่าง
ไม่ได้เกินเลยไปแม้แต่น้อย หากเราจะกล่าวว่าสังคมจีนเวลานี้ “มือถือคือทุกสิ่ง”
คำว่าทุกสิ่งนี้ก็คือ มีเครื่องเดียว แต่ครอบคลุมทุกอย่าง
เป็นมากยิ่งกว่าอุปกรณ์สื่อสาร ยิ่งกว่าบัตรเครดิต ยิ่งกว่ากล้องถ่ายรูป แต่เป็นวิถีชีวิต แล้วก็กำลังกลายเป็นเครื่องยืนยันตัวตน ข้อมูลทุกอย่างถูกเชื่อมต่อไว้ด้วยมือถือเครื่องเล็กๆเครื่องเดียว
ซึ่งหากในอนาคตอันใกล้ มือถือมีการพัฒนาหรือเปลี่ยนรูปลักษณ์ไปบ้างก็ตาม มันก็จะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตอยู่ดี
แล้วนั่นหมายความว่าอย่างไร??? ก็แปลว่า ทุกธุรกิจต่อไปที่จะบุกตลาดจีน คุณต้องวางแผนรองรับสำหรับการใช้งานผ่านมือถือเสมอ เพราะหากขาดเรื่องนี้ไป โอกาสขยายธุรกิจอาจจะยากลำบาก
สำหรับตัวเลขที่ยืนยันคำอธิบายนี้ก็คือ รายงานล่าสุดจาก Tencent ที่ระบุว่าเมื่อต้นปี 2018 ที่ผ่านมา ผู้ใช้บริการของ WeChat ได้พุ่งถึงหลัก 1,000 ล้านคนเรียบร้อย หรือก็คือมี User ในระบบของ WeChat เกือบทั้งประเทศ เมื่อคิดจากประชากร 1,400 ล้านคนของจีน แล้วที่น่าสนใจคือ มีการใช้งานทุกวันมากกว่า 600 ล้านคน ซึ่งถือว่าราว 40% หรือเกือบครึ่งประเทศจีน ซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรและกำลังซื้อสูงสุดในโลกเวลานี้
เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว หากจะบุกตลาดจีน คุณจะไม่ทำ E-Payment หรือทำตลาดทางมือถือด้วยงั้นหรือ???
2.คนจีนจากยุค 90 ใช้งานสูงสุด
มีรายงานสถิติว่า คนจีนที่เกิดและเติบโตในช่วงยุค 90 เป็นต้นมา คือกลุ่มคนที่ใช้เงินสดเพื่อจับจ่ายซื้อของน้อยที่สุดในจีนเวลานี้ คือมีการใช้จ่ายด้วยเงินสดเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ประมาณ 176 หยวนเท่านั้น
ในขณะที่กลุ่มคนจีนอายุ 50 ขึ้นไปยังใช้เงินสดอยู่มากที่สุดถึง 557 หยวนต่อวัน
แล้วเงินสดหายไปไหนหมด ที่จริงก็ไมได้หายไปไหน แต่เพราะว่ากลุ่มคนจากยุค 90 หันไปใช้งานมือถือเพื่อใช้จ่ายผ่านระบบ E-Payment แทนที่นั่นเอง
3.คนจีนใจเย็นขึ้นในการใช้จ่ายเงิน
ที่จริงเป็นเรื่องทางจิตวิทยาที่เชื่อว่าเดิมทีคงไม่ได้มีใครคาดคิดมากนัก เพราะกลายเป็นว่าเมื่อระบบ E-Payment เป็นที่นิยมและมีระบบที่เสถียรมั่นคงขึ้นในจีน ก็ทำให้การออกไปจับจ่ายซื้อของจำเป็นหรือการชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ ไม่ต้องเร่งรีบไปจ่ายที่ธนาคารหรือต้องเร่งไปซื้อของตามห้างในทันที แต่สามารถไปจ่ายผ่าน E-Payment เอาในภายหลังได้ ทำให้พฤติกรรมการจับจ่ายของคนจีนมีลักษณะที่ใจเย็นมากขึ้น โดยคิดเป็นร้อยละ 84 ที่รู้สึกว่าไม่ต้องคอยห่วงพะวงว่า เอาเงินติดกระเป๋ามาพอไหม ต้องกลับบ้านไปเอาเงิน หรือ ต้องไปกด ATM เพื่อเอาเงินสด
4.คนจีนซื้อของจากร้านค้าปลีกและแบรนด์ต่างๆด้วย E-Payment แทนเงินสด
ตรงนี้มีเรื่องของความเชื่อมั่นในระบบเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ทำให้ร้านค้าในจีนมากกว่าล้านแห่งได้เชื่อมต่อกับ Alipay และ WeChatpay เรียบร้อยแล้ว ซึ่งมีตัวเลขที่ชี้ว่า ร้านค้าปลีกที่คนจีนใช้การจ่ายทางนี้มากที่สุดก็คือบรรดาร้านสะดวกซื้อ หรือกลุ่มร้าน Convenience Store (ก็เทียบได้กับ 7-11 บ้านเรา)
5.จีนฝั่งตะวันออกกำลังเป็นสังคมไร้เงินสด
มีรายงานระบุว่า เมืองสำคัญทางฝั่งตะวันออกของจีน อาทิ เซี่ยงไฮ้ หางโจว ปักกิ่ง ฯลฯ ได้เข้าสู่สังคมแบบไร้เงินสดเต็มตัว เมื่อร้านค้าในเมืองเหล่านี้ได้ใช้ระบบชำระเงินผ่านมือถือคิดเป็นร้อยละ 87 ซึ่งก็เข้าใจได้ว่าเพราะฝั่งตะวันออกเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจอันดับหนึ่งของจีน แล้วยังมีการเข้ามาลงทุนจากแบรนด์ต่างๆของตะวันตกมากที่สุดด้วย แต่สำหรับเมืองในภาคส่วนอื่นๆของจีนยังต้องคอยอัพเดทต่อไป
อิทธิชัย อรรถกระวีสุนทร
ผู้ก่อตั้ง บริษัท เลเวลอัพ โฮลดิ้ง จำกัด ที่ปรึกษาด้านการตลาดจีน
เจ้าของเพจ Level Up Thailand และ Level Up China, และ เว็ปไซต์ https://www.levelupthailand.com/ความรู้การตลาดออนไลน์จีน
Speaker และ ผู้เขียนหนังสือ “บุกตลาดจีนด้วยโซเชียลมีเดีย”
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ