แม้ตอนนี้ตลาดชานมไข่มุกในไทยจะเป็นเรดโอเชียน และอาจจะไม่ได้เติบโตเท่าช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่ถือว่าตลาดชานมไข่มุกยังโตได้อีก
The Alley แบรนด์ชานมไข่มุกสัญชาติไต้หวันที่เข้ามาทำตลาดในไทยครบ 1 ปี เผยคนไทยดื่มชาไข่มุกมากที่สุดในอาเซียน แถมเดินหน้าเพิ่มโปรดักส์ใหม่-ขยายสาขาจับกลุ่มผู้บริโภค ตั้งเป้ารายได้ปีหน้าโตเท่าตัว
ตลาดชานมไข่มุกทั่วโลกจะโตแสนล้านบาท
อนล ธเนศวรกุล ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท มิลลาร์รี่ จำกัด มาสเตอร์แฟรนไชส์ The Alley เปิดเผยว่า ปีที่ผ่านมาตลาดชานมไข่มุกทั่วโลกอยู่ที่ 62,000 ล้านบาท เติบโต 10%
และถ้าผู้บริโภคยังกินและเติบโตต่อเนื่องไปอีก 1-2 ปี ในปี 2023 ตลาดชานมไข่มุกทั่วโลกจะอยู่ที่ 100,000 ล้านบาท
และ’ชานมไข่มุก’ จะกลายเป็นเครื่องดื่มทั่วไป หรือที่เป็น Everyday Drink
ตลาดชานมไข่มุกไทย 2,500-3,000 ล้านบาท
ข้อมูลจากแกร็บฟู้ด (Grab Food) เผยตลาดเครื่องดื่มชานมไข่มุกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในปี 2561 มียอดสั่งซื้อเติบโตเพิ่มขึ้น 3,000% จากแบรนด์ชานมไข่มุกกว่า 1,500 แบรนด์ ที่มีหน้าร้านจำหน่ายรวมกว่า 4,000 สาขา
ส่วนตลาดชานมไข่มุกในไทยนั้น อนลระบุว่า ตลาดชานมไข่มุกไทยมีมูลค่า 2,500-3,000 ล้านบาท เติบโตไม่น้อยกว่า 40%
และแม้ตอนนี้จะกลายเป็นตลาดเรดโอเชียนที่ผ่านช่วงบูมสุดในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ก็ยังเชื่อว่าตลาดชานมไข่มุกยังโตได้อีก แต่ต้องมีกิมมิกใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มสีสัน อย่างเช่นปีนี้สิ่งที่เป็นเทรนด์คือเรื่องของบราวน์ซูก้า
ขณะที่แบ่งระดับตลาดชานมไข่มุกในไทยออกเป็น 3 เซกเมนต์คือ
ระดับพรีเมียม ที่มีส่วนแบ่งอยู่ 10%
ระดับมีเดียม มีส่วนแบ่ง 60%
ระดับแมส มีส่วนแบ่ง 30%
ชานมไข่มุกราคานี้อยู่ระดับไหน
พรีเมียม : 75 บาทขึ้นไป
มีเดียม : 40 บาทขึ้นไป
แมส : ต่ำกว่า 40 บาท

โดยอนลระบุว่า The Alley อยู่ในกลุ่มชานมไข่มุกระดับพรีเมียม มีราคาเฉลี่ยต่อแก้วที่ 100 บาท และเฉลี่ยต่อบิลที่ 300 บาท
ซึ่งชานมไข่มุกระดับพรีเมียมในไทยนั้นมีอยู่ราวๆ 10 แบรนด์ จากแบรนด์ชานมไข่มุกที่มีชื่อ 25 แบรนด์
ชาติไหนชอบดื่มชานมไข่มุกที่สุด
ไทย 6 แก้ว/คน/เดือน
ฟิลิปปินส์ 5 แก้ว/คน/เดือน
มาเลเซีย 3 แก้ว/คน/เดือน
สิงคโปร์ 3 แก้ว/คน/เดือน
เวียดนาม 3 แก้ว/คน/เดือน
อินโดนีเซีย 3 แก้ว/คน/เดือน

เกือบทุกแบรนด์ยอดขายโตไม่ต่ำ 50%
โดยในปีที่ผ่านมาแบรนด์ชานมไข่มุกเกือบทุกแบรนด์มียอดขายเติบโตไม่ต่ำกว่า 50%
สำหรับ The Alley นั้น อนลกล่าวว่า The Alley มียอดขายชานมไข่มุกกว่า 100,000 แก้วต่อเดือน และจากยอดขายรวมทั้งหมดเป็นจากช่องทางเดลิเวอรี่ 30%
และจำนวน 80% ของยอดขายเป็นเครื่องดื่ม Milk Tea และ Brown Sugar
ส่วนกลุ่มลูกค้าหลักคือผู้หญิง 79% และผู้ชาย 21% โดยลูกค้าทั้งสองกลุ่มบริโภคชานมไข่มุกสูงสุดอยู่ในช่วงอายุ 24-35 ปี ถึงกว่า 50% และช่วงอายุ 35-44 ปี มากกว่า 25%
3 สาขานี้ขายดีสุด
เมกะ บางนา
เซ็นทรัลเวิลด์
เซ็นทรัลลาดพร้าว
ขยายสาขาต่างจังหวัด ตั้งเป้ารายได้ปีหน้าโตเท่าตัว
และเพราะ The Alley ทำตลาดในไทยได้ครบ 1 ปีแล้ว ในปีนี้คาดหวังรายได้แตะที่ 100 ล้านบาท สเต็ปต่อนั้น อนล กล่าวว่า ปีหน้าตั้งเป้ารายได้โตเท่าตัวอยู่ที่ 200 ล้านบาท
และเตรียมขยายสาขาเพิ่มอีก 2 สาขา เป็นรวมทั้งหมดมีสาขา 14 สาขาภายในสิ้นปีนี้
นอกจากนี้ ยังตั้งเป้าขยายสาขาไม่น้อยกว่า 20 สาขาภายในปี 2563 และเดินหน้ารุกต่างจังหวัดที่มีกำลังซื้ออยู่อย่างอุดรธานี ชลบุรี ระยอง และภูเก็ตด้วย
ต่อจากนี้ “The Alley” จะเป็นไลฟ์สไตล์แบรนด์ชานมไข่มุก
และไม่เพียงแต่ใช้กลยุทธ์การขยายสาขาเพื่อจับกลุ่มผู้บริโภคมากขึ้นเท่านั้น
อุณาวรรณ ตั้งคารวคุณ ผู้ร่วมก่อตั้ง และกรรมการผู้จัดการ บริษัท มิลลาร์รี่ จำกัด กล่าวว่า เพราะปัจจุบันเทรนด์การดื่มของผู้บริโภคเปลี่ยนไป ผู้บริโภคไม่ใช่แค่จะเลือกดื่มชานมไข่มุก และดูเรื่องของราคาเพียงอย่างเดียวแต่ผู้บริโภคยังมองเรื่องของแบรนดิ้งเป็นสำคัญ เพราะฉะนั้น The Alley จะไม่ใช่แค่ร้านชานมไข่มุก แต่จะเป็นไลฟ์สไตล์แบรนด์ชานมไข่มุก
โดยจะมีการเพิ่มโปรดักส์สินค้าใหม่ไม่ว่าจะเป็นไอศกรีม Soft Serve, เบเกอรี่, เครื่องดื่มร้อน, เครื่องดื่มชานมไข่มุกเมนูใหม่ โดยการจับมือกับพาร์ตเนอร์ชั้นนำ พัฒนาเครื่องดื่มที่เป็น ซีซันนอล (Seasonal) ตอบโจทย์ตลาดไลฟ์สไตล์และสุขภาพ
นอกจากนี้ ยังจะมุ่ง Go Green ด้วยการใช้ส่วนประกอบออร์แกนิก การบริหารจัดการเศษอาหารอย่างมีศักยภาพ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่ออนุรักษ์ธรรมชาติ เช่น แก้ว ถุง หลอดดูด เป็นต้น
และรณรงค์ลดขยะพลาสติก ด้วยการนำแก้วและหลอดดูดของตัวเองมาซื้อเครื่องดื่ม รณรงค์ให้ใช้ถุงกระดาษ ถุงผ้าใส่เครื่องดื่มแทนพลาสติก โดยจะจัดโปรโมชั่นส่วนลดเพื่อส่งเสริมการลดขยะจากพลาสติก
โฟกัสตลาด Catering ขอยอด 20%ในพอร์ต
นอกจากนี้ The Alley ยังมองถึงตลาด catering ที่จับกลุ่มธุรกิจจัดเลี้ยง อีเวนต์ งานแต่ง ฯลฯ โดยได้เริ่มทำแล้วระยะหนึ่ง พร้อมตั้งเป้าต้นปีหน้ารายได้ในส่วนของ cartering จะมีสัดส่วน 20% ของรายได้ทั้งหมด


The Alley เริ่มเปิดตัวสาขาแรกในไต้หวันเมื่อปี 2557
จากนั้น 1 ปี ได้ขยายสาขาในไต้หวันเพิ่มเป็น 10 สาขา
ต่อมาปีในปี 2559 ขยายสาขาออกไปยังประเทศแคนาดาและเมืองมาเก๊า
ในปี 2560 ขยายสาขาในมาเลเซีย ญี่ปุ่น ฮ่องกง จีน และเวียดนาม
และในปี 2561 ได้เข้าไปเปิดตลาดในประเทศฝรั่งเศส ออสเตรเลีย เกาหลี และในประเทศไทย
ปัจจุบัน The Alley มีสาขาอยู่ใน 10 ประเทศทั่วโลก ทั้งหมดกว่า 315 สาขา
–
