ปี 2020 บัญชีธุรกิจลูกค้าเก่าและใหม่บน LINE จะมาอยู่บนแพลตฟอร์ม LINE Official Account ทั้งหมด

Marketeer จึงอยากพามาเจาะจุดเด่นของ LINE Official Account แบบเข้าใจง่าย ทำไมถึงช่วยให้คนทำธุรกิจทุกไซส์ทุกขนาดตั้งแต่ SME รายย่อยไปถึงองค์กรใหญ่ สื่อสารกับลูกค้าผู้บริโภคได้อย่างตรงเป้ายิ่งกว่าเดิม

สำหรับผู้ใช้ LINE@ ที่ย้ายไป LINE Official Account และสมัครแพ็กเกจรายเดือนภายใน ม.ค. นี้ สามารถลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษได้ที่ https://lin.ee/C4iKwKO โดยเลือกได้จากสัมมนาหรือเซตหนังสือคู่มือการใช้งาน LINE Official Account

1. ไม่จำกัดผู้ติดตาม ใช้งานฟรีทุกฟีเจอร์ ใช้เท่าไหร่จ่ายเท่านั้น

อย่างแรกเลยที่ LINE Official Account ให้มาคือ ฟีเจอร์ใช้งานฟรีหลากหลาย รวมถึงไม่จำกัดจำนวนผู้ติดตามอีกต่อไป

ซึ่งแต่เดิมผู้ประกอบการจำเป็นต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อแพ็กเกจพร้อมปลดล็อกฟีเจอร์สำคัญๆ อย่าง Rich Content เพื่อทำ Rich Menu หรือ Rich Message ดึงดูดลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น

แต่หลังจากการเปลี่ยนมาเป็น LINE Official Account แล้วผู้ใช้งานจะสามารถใช้งานฟีเจอร์เหล่านี้ได้ฟรี ตั้งแต่แพ็กเกจเริ่มต้นเลยทีเดียว รวมถึงบน LINE Official Account ยังอัปเกรดฟีเจอร์ยอดฮิตบน LINE@ ซึ่งสำคัญต่อการสื่อสารกับลูกค้าอีกด้วย เช่น

– อัปเกรด “1 on 1 Chat”: ด้วย Quick Reply ช่วยให้ตอบลูกค้าไวขึ้นเพียงบันทึกคำตอบสำหรับคำถามที่ถูกถามเข้ามาบ่อยๆ เช่น โอนเงินทางไหน ส่งสินค้าได้เมื่อไหร่ มีกี่สี มีกี่แบบ ร้านเปิดกี่โมง ฯลฯ และ Note ที่ช่วยจดจำรายละเอียดลูกค้ารายบุคคล

– อัปเกรด “Greeting Message”: เพิ่มชื่อลูกค้าเข้าไปในข้อความต้อนรับโดยอัตโนมัติ เพื่อให้ข้อความดูเป็นกันเองยิ่งขึ้น

และยังมีอีกหลายฟีเจอร์ที่ Marketeer มองว่าคนทำธุรกิจไม่ว่าจะ SME รายย่อย ค้าขายออนไลน์ หรือเปิดร้านอาหารก็สามารถนำไปปรับแต่งให้เหมาะกับธุรกิจที่ทำ โดยทั้งหมดสามารถใช้งานได้ตั้งแต่แพ็กเกจเริ่มต้น “ฟรี” ซึ่งไม่มีการจำกัดผู้ติดตาม และให้บรอดแคสต์ข้อความฟรี 1,000 ข้อความ/เดือน

2. ใช้เท่าไหร่ จ่ายเท่านั้น

ต่อจากนี้ทุกการบรอดแคสต์ผ่าน LINE Official Account จะเป็นการคิดเงินจากจำนวนข้อความ และจำนวน Target Reach ของเรา

โดยคำว่า Target Reach นั้นหมายถึงจำนวนผู้ติดตามที่ยังไม่บล็อกและใช้งาน LINE เป็นประจำหรือผู้ติดตามจริงที่ยังแอคทีฟอยู่นั่นเอง

ส่วนการบรอดแคสต์ออกไป 1 ครั้งนั้นผู้ส่งสามารถส่งได้สูงสุด 3 ข้อความ (หรือ 3 บอลลูน ไม่ว่าจะเป็นภาพ ข้อความ หรือ Rich Content) โดยราคาที่ต้องจ่ายจะขึ้นอยู่กับความถี่ในการส่งและจำนวน Target Reach ที่มี

เช่น ส่งสัปดาห์ละ 1 ครั้ง มี 1,000 Target Reach ต้องจ่ายเป็น 1,000 ข้อความ หากส่ง 2 ครั้งต่อเดือน ก็จะเป็น 2,000 ข้อความ เป็นต้น

3.ไม่ต้องกลัวจ่ายแพง แค่เลือก Target ให้ตรง ด้วยดาต้าที่เรามี

ผู้ใช้งานสามารถเลือกทำ Segmented Message เพื่อให้ข้อความที่บรอดแคสต์แม่นยำ และเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายยิ่งขึ้น สามารถแบ่งตามเพศ อายุ ระยะเวลาความเป็นเพื่อน หรือระบบปฏิบัติการของมือถือก็ได้

หรือจะใช้ Volume Message ฟีเจอร์ที่สามารถกำหนดจำนวนข้อความบรอดแคสต์ได้ตามงบประมาณที่เราตั้งไว้ โดยการบรอดแคสต์จะสุ่มจำนวนที่กำหนด จากจำนวน Target Reach ทั้งหมดได้ เช่น สามารถเลือกส่งเพียง 2,000 คน จาก Target Reach 10,000 เป็นต้น

อีกทั้งยังสามารถ Retargeting ด้วยฟีเจอร์ Audience เพื่อให้ข้อความที่บรอดแคสต์มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะส่งบรอดแคสต์ข้อความซ้ำไปยังกลุ่มที่เคยคลิกหรือที่เคยเห็นข้อความบรอดแคสต์ก่อนหน้านี้ก็ได้ หรือเป็นคนที่ยังไม่เคยคลิกหรือไม่เคยเห็นก็ได้ โดยฟีเจอร์นี้ต้องมี Target Reach อย่างน้อย 100 คน

จะเห็นได้ว่าการเลือก Target Reach ที่ดีที่ถูกต้องแม่นยำนั้นส่งผลโดยตรงกับเลือกคอนเทนต์และเลือกแมสเซจที่ต้องการส่งออกไปได้อย่างเห็นผล

ยกตัวอย่างเช่น ร้านออนไลน์ที่มีสินค้าหลายประเภท เราอาจเลือกเฉพาะสินค้าในหมวดเครื่องสำอางยิงไปยังลูกค้าผู้หญิง สินค้ากีฬายิงไปเฉพาะผู้ชาย กำหนดอายุได้อย่างชัดเจน รวมถึงการยิงโปรโมชั่นแบบ Retargeting ไปยังผู้ที่สนใจสินค้า กระตุ้นให้เกิดการซื้อมากยิ่งขึ้น

4. แพ็กเกจไหนดี แพ็กเกจไหนเหมาะ

มาถึงเรื่องสุดท้ายที่ผู้ประกอบการควรรู้ก่อนเริ่มใช้ LINE Official Account นั่นก็คือเรื่องของราคาค่าแพ็กเกจ

LINE Official Account จะไม่มีค่าใช้จ่ายในขั้นตอนสมัครเปิดบริการ และเมื่อมีกลุ่มลูกค้ามาติดตามเรายังสามารถบรอดแคสต์ออกไปฟรีได้ 1,000 ข้อความ/เดือน แบบฟรีอยู่

หากร้านมีการขยายสินค้ามีการทำโปรโมชั่นมากขึ้น จะเป็นบรอดแคสต์ข้อความออกไปมากขึ้น ทาง LINE Official Account มีแพ็กเกจเสริม ได้แก่ ใช้ 1,001-15,000 ข้อความ = BASIC 1,200 บาท/เดือน และ ใช้ 15,001-35,000 ข้อความ = PRO 1,500 บาท/เดือน

ส่วนร้านที่ใช้มากกว่า 35,000 ข้อความต่อเดือน = ข้อความที่ 35,001 เป็นต้นไป คิดข้อความละ 0.04 สตางค์ หรือ 10,000 ข้อความ ตกประมาณ 400 บาท

 


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer