ตลาดฟังก์ชันนัลดริงก์ ทำไมจึงเติบโต ? พร้อมวิเคราะห์ เครื่องดื่มวิตามินซี มาแรงจริงหรือแค่กระแส

ตลาดเครื่องดื่มฟังก์ชันนัลดริงก์เติบโตน่าสนใจ

ปีที่ผ่านมาตลาดฟังก์ชันนัลดริงก์เติบโต 19.3% ขยายตัวมากกว่าตลาดเครื่องดื่มชูกำลังที่เติบโตเพียง 5.7%

และหากเจาะลึกลงไปในกลุ่มตลาดเครื่องดื่มฟังก์ชันนัลดริงก์ กลุ่มที่โดดเด่นในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 คือ “กลุ่มเครื่องดื่มวิตามินซี”

ตลาดฟังก์ชันนัลดริงก์ มูลค่า 5,000-6,000 ล้านบาท

ตลาดฟังก์ชันนัลดริงก์ที่เน้นส่วนผสมของวิตามินซีเป็นตลาดที่มีการเติบโต 20% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน

 

แล้วทำไมตลาดเครื่องดื่มวิตามินซีถึงโต Marketeer มองว่า

วิตามินซีเป็นวิตามินที่ทุกคนรู้จักแบบไม่ต้องหาคำอธิบายอะไรเพิ่มเติม พอพูดถึงวิตามินซีก็ร้อง อ๋อ กันทุกคน เลยทำให้แต่ละแบรนด์เลือกที่จะทำเครื่องดื่มวิตามินซี ซึ่งลองคิดภาพเครื่องดื่มที่เป็นวิตามินอื่น ๆ ก็อาจจะยังนึกไม่ออก

เพราะคนในปัจจุบันหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพมากยิ่งขึ้น รวมทั้งเรื่องความสวยความงาม บวกกับสรรพคุณของวิตามินซีที่ช่วยให้ผิวขาวใส สร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย เลยทำให้เครื่องดื่มวิตามินซีกลายเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกเมื่อเดินเข้าไปตามร้านสะดวกซื้อ

รวมถึงรสชาติที่ออกหวานอมเปรี้ยวของเครื่องดื่มวิตามินซีนี้ถูกจริตกับผู้บริโภคโดยเฉพาะผู้บริโภครุ่นใหม่

แล้วกลุ่มเครื่องดื่มวิตามินซีโฟกัสเฉพาะเครื่องดื่มวิตามินซี 200% ในไทยมีแบรนด์อะไรที่ติดตลาดบ้าง

แบรนด์ที่ครองส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 คือ “C-vitt” ของยักษ์เครื่องดื่มชูกำลังอย่างบริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP ที่มีส่วนแบ่งตลาดมากถึง 31.3% และในไตรมาสแรกของปีนี้ C-vitt ยังเติบโต 5.8% จากพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมาใส่ใจสินค้าเพื่อสุขภาพเพิ่มขึ้น

เมื่อมีเบอร์ 1 ก็ย่อมต้องมีเบอร์อื่น ๆ ตามมาที่หวังจะมาแย่งส่วนแบ่งในตลาดเครื่องดื่มวิตามินซีไม่น้อย

ไม่ว่าจะเป็น Double C ที่มีรูปลักษณ์ของผลิตภัณฑ์คล้ายกับเจ้าตลาดมากที่สุด แต่มาในปริมาณที่มากกว่า ผลิตโดยบริษัท หนองคายเพาเวอร์ดริ๊งก์ จำกัด

กลยุทธ์การตลาดของดับเบิ้ลซีในปีนี้คือ การลุ้นชิงโชคจากรหัสใต้ฝา ที่มองว่าเป็นการกระตุ้นต่อมผู้บริโภคเพื่อเพิ่มยอดขายชั้นดี แค่ซื้อเครื่องดื่มขวดละ 15 บาทได้ลุ้นรางวัลถึงหลักหมื่นบาท ใครบ้างที่จะไม่อยากลองลุ้นกัน

วิตอะเดย์ แบรนด์ในเครือเจนเนอรัล เบฟเวอร์เรจ ที่มีเครื่องดื่มอย่างน้ำมะพร้าวตราอีฟ โคโค่,โกปี๊เตี่ยม โอเลี้ยงโบราณ รวมถึงวิตอะเดย์ในรูปแบบวิตามินวอเตอร์ขวดสีน้ำเงินคุ้นตาที่วางอยู่ตามร้านสะดวกซื้อ

ถัดมากับค่ายยักษ์ใหญ่อย่างคาราบาวกรุ๊ป ที่หวังออกผลิตภัณฑ์ใหม่เมื่อต้นปีเพื่อมาโค่นเจ้าตลาดในชื่อ “Woody C+ Lock” ที่จับมือพิธีกรชื่อดัง “วู้ดดี้-วุฒิธร มิลินทจินดา” เพื่อปลุกตลาดเครื่องดื่มวิตามินซี

คาราบาวใช้วิธีเดียวกับการปั้นแบรนด์คาราวบาวแดงกับแอ๊ด คาราวบาว คือการชูกลยุทธ์แบรนด์คาแรกเตอร์ของวู้ดดี้กับเครื่องดื่มสุขภาพ โดยตั้งเป้าหมายในปีแรกไว้ที่ 100 ล้านขวด และขึ้นเป็นผู้นำตลาดภายในสิ้นปีนี้

ในกลุ่มวิตามินซี 200% นี้ “Woody C+ Lock” มีลักษณะภายนอกต่างจากแบรนด์อื่นทั้งหมด คือ เป็นขวดสีเขียวซึ่งมีคุณสมบัติช่วยคงคุณค่าวิตามินซีในขวดไม่ให้สลายไปจากการโดนแสงแดด ต่างจากเจ้าอื่นที่เป็นขวดแบบใส

และแบรนด์ล่าสุดของอีกค่ายยักษ์ใหญ่เครื่องดื่มชูกำลังอย่างกลุ่ม TCP ที่เพิ่งส่งเครื่องดื่มวิตามินซี 200% แบรนด์น้องใหม่ล่าสุดมาสู่ตลาดในชื่อ ไฮ่!” ที่ชูกลยุทธ์ความสดใสสไตล์ญี่ปุ่นตั้งแต่ชื่อผลิตภัณฑ์

ทั้งหมดทั้งมวลนี้คงต้องติดตามกันต่อไปว่าตลาดเครื่องดื่มวิตามีซีนี้จะแข่งขันกันรุนแรงแค่ไหน และจะมีแบรนด์ใหม่มาเขย่าตลาดอีกหรือไม่

แต่ที่แน่ ๆ คงต้องให้ผู้บริโภคเป็นคนตัดสินว่าเครื่องดื่มยี่ห้อไหนรสชาติถูกจริตมากที่สุด

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer