ยอดขายอิชิตัน เท่าไร ? วิเคราะห์กลยุทธ์ที่ทำให้ อิชิตัน ไม่เจอทางตันช่วงโควิดระบาด
แม้ในปีนี้โควิด-19 จะเข้ามากระทบกับธุรกิจทั่วโลกเป็นอย่างมาก แต่สำหรับอิชิตันแล้ว ในไตรมาสแรกของปี 2563 มีรายได้ลดลงเพียง 2.6% ด้วยรายได้ทั้งสิ้น 1,285.4 ล้านบาท การลดลงของรายได้มาจากยอดจำหน่ายในต่างประเทศที่ลดลง 18% จากเศรษฐกิจชะลอตัวและโควิด-19 ส่วนรายได้ในประเทศมีการเติบโตเพิ่มขึ้น 5%
การที่อิชิตันสามารถเติบโตด้านรายได้ในประเทศมาจากการปรับกลยุทธ์และกิจกรรมการตลาดในประเทศให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น
นอกจากนี้ อิชิตันยังมีผลกำไรที่เพิ่มขึ้น 39.4% จาก 114.2 ล้านบาท เป็น 159.2 ล้านบาท เมื่อเทียบระหว่างไตรมาสแรกปี 2562 กับไตรมาสแรก 2563
“วิกฤตโควิด-19 ไม่ได้เป็นวิกฤตครั้งใหญ่กับอิชิตัน เพราะในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา อิชิตัน เพิ่งผ่านวิกฤตครั้งใหญ่ จากการขึ้นภาษีน้ำตาล
และวิกฤตครั้งนั้นทำให้อิชิตันขาดทุนมหาศาล ซึ่งการขาดทุนดังกล่าว ทำให้อิชิตันตั้งรับและปรับตัวในด้านต่าง ๆ เพื่อต่อสู้กับผลกระทบที่เกิดขึ้น” ตัน ภาสกรนที กล่าวถึงการเติบโตด้านผลกำไรของอิชิตันผ่านงาน Marketeer No.1 Brand Thailand 2019-2020
ตันกล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา อิชิตันในกลุ่มชาพร้อมดื่มสามารถสร้างรายได้เติบโตได้ดีจากสินค้าในขนาดบรรจุภัณฑ์ไซส์เล็ก 10 บาท และสินค้าในกลุ่มพรีเมียม
“สินค้าในกลุ่ม 10 บาท เป็นกลุ่มสินค้าที่มีการเติบโตด้านรายได้และกำไรที่ดี แม้ผลกำไรเมื่อเทียบกับต้นทุนต่อหน่วยจะไม่มากนัก แต่สามารถสร้างยอดจำหน่ายได้สูง ทำให้กำไรรวมมีการเติบโตที่ดี และไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายด้านการทำตลาดอีกด้วย”
นอกจากนี้ ในสถานการณ์โควิด-19 ตันมองวิกฤตครั้งนี้ไม่ได้มีผลกระทบทางลบเสมอไป
“การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ทุกคนเดือดร้อน ซึ่งเป็นเรื่องที่เข้าใจผิด เพราะโควิด-19 อาจทำให้สินค้าเก่าหายไป และสินค้าใหม่เกิดขึ้น จากพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป การรับมือกับโควิด-19 สิ่งที่สำคัญที่สุดคืออย่าประมาท และต้องปรับตัวอย่างรวดเร็ว”
สำหรับตันมองตลาดเครื่องดื่มครึ่งปีหลัง 2563 ว่า เป็นเทรนด์ตลาดไปทางสุขภาพมากขึ้น และอิชิตันมีสินค้าใหม่ที่ออกมารับกับเทรนด์นี้ 3 กลุ่มเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ โดยน้ำด่างผสมวิตามิน “PH PLUS 8.5” เป็นสินค้าใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวในเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา
ส่วนสินค้าอีก 2 กลุ่มเป็นกลุ่มเพื่อสุขภาพเช่นกัน และคาดการณ์จะเปิดตัวในไตรมาสสามและสี่ที่จะถึงนี้
“เครื่องดื่มในตระกูลวิตามินคาดการณ์ว่าปีนี้จะมีการเติบโตเท่าตัว และคาดการณ์ปีหน้าจะเติบโตก้าวกระโดดเป็น 2-3 เท่า จากบริษัทต่าง ๆ ออกสินค้าใหม่ในกลุ่มสุขภาพเข้ามาแข่งขันในตลาดมากขึ้น”
ทั้งนี้ในการแข่งขันในยุคโควิด-19 แม้ชาเขียวจะมีการเติบโตลดลง แต่ทางของตันจะไม่ตัน เพราะสุขภาพมาแรง เพราะตันเชื่อมั่นว่าภายใน 3 ปีต่อจากนี้ พอร์ตสินค้าด้านสุขภาพ จะทำรายได้ให้กับอิชิตันมากถึง 50% จากรายได้ทั้งหมดของธุรกิจอิชิตัน กรุ๊ป
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ