“ไม่ว่าจะเป็นเด็กกี่ยุคกี่สมัย ก็ล้วนแต่ต้องเติบโตมาด้วยไมโล” สะท้อนถึงความเจ๋งของไมโลคือไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่แบรนด์ก็ไม่เคยแก่ไปตามวัย
นั่นไม่ใช่เพียงแค่เพราะรสชาติที่อร่อยถูกปากผู้บริโภคของไมโล แต่ในด้านของการทำ Marketing ทางแบรนด์ก็ยังยึดถือการสนับสนุนด้านกีฬาอยู่เรื่อยมา เพียงแต่เปลี่ยนรูปแบบการสื่อสารให้ทันต่อยุคสมัย และทันต่อการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคในแต่ละยุคนั่นเอง
และแคมเปญใหม่ล่าสุดที่ทางแบรนด์เลือกจะสื่อสารการสนับสนุนด้านกีฬา ผ่านแคมเปญไอเดีย “Sport is a great teacher / กีฬาคือครูชีวิต” ด้วยความเชื่อที่ว่า กีฬาสามารถเสริมสร้างประสบการณ์ชีวิตให้กับมนุษย์ได้ โดยต้องใช้หยาดเหงื่อเรียนรู้มันด้วยตัวเอง เพื่อแลกมาด้วยประสบการณ์ชีวิตที่กลายเป็นบทเรียนไปต่อยอดในชีวิตจริงได้ ซึ่งสิ่งนี้เองตำราไม่สามารถสั่งสอนหรือมอบให้เราได้
ซึ่งสูตรการนำเสนอแคมเปญ “กีฬาคือครูชีวิต” ได้สื่อถึงพ่อและแม่ซึ่งเป็นบุคคลที่มีผลต่อการเลี้ยงดูลูกโดยตรง เพื่อให้พ่อและแม่เห็นคุณค่าของการเล่นกีฬาและปลูกฝังลูกๆ ของเขาต่อไป
สื่อสารผ่าน Influencer ที่ประสบความสำเร็จเพราะมีกีฬาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต

โดยการจับมือร่วมกับ The Cloud ที่นำ Influencer มาพูดคุยถึงเกี่ยวกับการมีกีฬาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต
ฉลาดด้วยการตีโจทย์ ที่ไม่ได้แค่นำนักกีฬามาพูดคุย แต่เป็น Influencer ในหลากหลายรูปแบบ เพื่อสะท้อนให้เห็นว่า ‘กีฬา’ เป็นพื้นฐานที่นำพาไปสู่ความสำเร็จในหลากหลายด้าน
อย่างลูกเกด เมธินี ที่ Perception แรกของผู้คนมักจะมองว่าเธอคือเมนเทอร์ แต่อีกมุมหนึ่งเธอคือคุณแม่คนเก่งที่เลือกจะสอนลูกชายให้เติบโตด้วยกีฬาว่ายน้ำ ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมาไม่ได้แค่ทำให้น้องสกายลูกชายของเธอมีร่างกายแข็งแรง แต่ยังรวมไปถึงการทำให้เด็กอายุ 8 ขวบรู้จักที่จะอยู่กับตัวเอง, มีระเบียบวินัย ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ที่ทำให้น้องสกายเติบโตอย่างแข็งแรงในอนาคต
ออกแบบ-ชุติมณฑน์ นักแสดงสาวที่ปรับเอาทักษะการว่ายน้ำมาใช้นอกสระ ที่ทำให้เธอเป็นคนมีวินัยตั้งแต่เด็ก จนเติบโตมาเป็นเด็กที่มีวินัยในการทำงานในวงการ ที่สำคัญมันยังให้เธอได้รับบทบาทครูพี่ลินนอกจอโรงหนัง เพราะการว่ายน้ำยังทำให้ออกแบบได้สอนแม่ของเธอว่ายน้ำให้เป็นอีกด้วย
เตอร์-ปาณัสม์ นักกีฬาฟุตซอลทีมชาติไทยที่ใช้ความพยามในการฝึกฝนฝีเท้า จนสามารถก้าวเข้าไปอยู่ในสโมสรระดับหัวแถวของเอเชียอย่าง ชลบุรี บลูเวฟ ที่ทำให้ตัวเขาเองรู้ว่าถึงจะมีพรสวรรค์ แต่หากไม่มีพรแสวงและพลังใจ ก็คงไม่สามารถทำให้เขามาอยู่ในจุดนี้ได้
และยังมีเรื่องราวของเยาวชนและผู้ใหญ่ที่มีชื่อเสียงให้ติดตามเพื่อเสริมสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้บริโภคลุกขึ้นมาออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็น แน็ต-ณิชชาอร นักแบดมินตันทีมชาติ, หมอแอร์–นพ.อกนิษฐ์ กับการแข่งขันไตรกีฬา, อาซึคิ-อิวาตานิ นักกีฬาคาราเต้, และ เจโต-ปณิธิ นักกีฬาไอซ์ฮอกกี้ ซึ่งสามารถติดตามอ่านเรื่องราวของพวกเขาได้ที่ facebook.com/MILOThailand
พาเด็กไทยไปฝึกทักษะฟุตบอลที่สโมสรยักษ์ใหญ่อย่างเอฟซี บาร์เซโลน่า
หลังจากสร้างแรงบันดาลใจ ให้หลายคนมีแรงฮึดสู้ในการลุกขึ้นมาออกกำลังกาย ไมโลก็ยังได้ต่อยอดในเรื่องของการสนับสนุนด้านกีฬาอย่างการไปพาร์ทเนอร์กับสโมสรฟุตบอลระดับโลก “บาร์เซโลน่า” ผ่านการแข่งขันฟุตซอลเด็กและเยาวชนระดับประเทศที่ใช้ชื่อว่า “MILO Futsal 2017 Road to Barcelona” เฟ้นหา 4 นักเตะตั๋วจิ๋วเพื่อจะบินลัดฟ้าเข้าร่วมฝึกฟุตบอลกับทีมสตาฟฟ์โค้ชระดับโลกถึงสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลน่าร่วมกับเยาวชนนักกีฬาจากกิจกรรมของไมโลในอีกหลายประเทศ
โดยน้องยูโร ด.ช. ภูตะวัน จันทร์อินทร์ อายุ 8 ขวบ จากจังหวัดสงขลา คือหนึ่งใน 4 นักเตะตัวจิ๋วที่ได้รับการคัดเลือก พูดถึงความรู้สึกที่จะได้ไปสัมผัสกับบรรยากาศของสโมสรระดับโลกว่า
“ผมภูมิใจมากครับที่สามารถทำความฝันของตัวเองให้สำเร็จไปอีกขั้นเข้าใกล้ความฝันที่โตขึ้นผมอยากเป็นนักฟุตบอลทีมชาติไทย เพราะการที่จะได้ไปฝึกทักษะที่บาร์เซโลน่า ผมจะได้ฝึกฝนทักษะต่าง ๆ การเลี้ยงลูก เลี้ยงซิกแซ็ก มีเทคนิคแปลกใหม่ที่ทำให้ผมเก่งขึ้นเรื่อย ๆ
ได้เจอกับสตาฟฟ์โค้ชทีมบาร์เซโลน่าที่สอนแบบจริงจัง ได้เจอเพื่อนใหม่จากประเทศอื่น ๆ อยากจะให้โค้ชสอนยิงประตูให้เก่งกว่านี้อีก กลับมาก็จะเอามาสอนเพื่อน ๆ ในทีม เพื่อนจะได้เก่งเหมือนกันครับ”

ตอกย้ำการสนับสนุนด้านกีฬา ด้วยเทคโนโลยี Augmented Reality
และแพคเกจจิ้งใหม่ลายนักเตะเอฟซีบาร์เซโลน่า
ไมโล ส่งเสริมการเล่นกีฬา เพื่อเตรียมพร้อมให้เด็กไทยเข้าสู่สนามชีวิตจริงในอนาคต ผ่านการสแกนแพ็คเกจจิ้งไมโลผ่าน MILO Champions App ที่จะมอบทักษะการฝึกซ้อมฟุตบอลผ่านเทคโนโลยี Augmented Reality (AR)
และยังตอกย้ำภาพลักษณ์การสนับสนุนด้านกีฬาผ่านแพคเกจจิ้งใหม่ลายนักเตะเอฟซีบาร์เซโลน่าให้เลือกสะสมได้ทั้งแบบ ทรีอินวันและยูเอชที


เติมเต็มประสบการณ์ฟุตบอล เพียงส่งชิ้นส่วนไมโล ก็ลุ้นไปบาร์เซโลน่าได้ถึงขอบสนาม
นอกจากเสริมสร้างประสบการณ์ให้ผู้บริโภคของไมโลผ่านสื่อสารการตลาดในหลากหลายรูปแบบแล้ว ไมโลยังมอบโอกาสให้ผู้บริโภคทั่วประเทศได้มีโอกาสบินลัดฟ้าไปดูการแข่งขันฟุตบอลที่คัมป์นู หรือลุ้นเสื้อฟุตบอลบาร์เซโลน่าได้เช่นกัน ผ่านกิจกรรม “ดื่มไมโล ลุ้นเชียร์บาร์เซโลน่าถึงขอบสนาม” ด้วยการส่งผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม ไมโล ซองเปล่า ชนิดทรีอินวัน ชนิดผง หรือชนิดยูเอชที ขนาดใดก็ได้ แล้วเขียนชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ด้วยลายมือลงกระดาษ แล้วแนบติดมากับแพ็ก ส่งมาที่ตู้ ปณ. 23 ปณจ.ภาษีเจริญ กรุงเทพฯ 10160
เพราะความรู้บางอย่างก็ไม่สามารถค้นหาในห้องเรียนได้
แต่ต้องออกไปเรียนรู้ ต้องไปหาประสบการณ์ด้วยตัวเอง
เหมือนกับกีฬา ที่เป็นครูชีวิต บทเรียนที่สามารถนำไปปรับใช้กับการเป็นผู้ใหญ่ในอนาคตได้อย่างแท้จริง
