แม้ปีที่ผ่านมา ภาวะเศรษฐกิจในบ้านเรายังคงอยู่ในสถานะ “Slow Down” จนส่งผลไปถึง “กำลังซื้อ” ที่ต้องเรียกว่า ยังอยู่ในภาวะ “วิกฤต” แต่เมื่อก้าวเข้าสู่ปี 2016 “2 ยักษ์ใหญ่” ในตลาดค้าปลีก อย่าง Big C และ Tesco Lotus ต่างมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า แม้ภาวะเศรษฐกิจยังคงมีความท้าทายอยู่มาก แต่ “กำลังซื้อ” ค่อยๆปรับตัวดีขึ้น โดยจะเห็นภาพได้ชัดเจนที่สุดในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งเป็นผลมาจาก การอัดฉีดเม็ดเงินลงเมกะโปรเจกต์ของรัฐบาล และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ด้านการแข่งขันยังคงอยู่ในระดับสูงอยู่ โดยมี “ราคา” เป็นปัจจัยหลักที่ผู้บริโภคจะเลือกใช้บริการที่ไหน

มาดูกันว่ายักษ์ใหญ่แต่ละแบรนด์จะส่งกลยุทธ์อะไรออกมา เพื่อดักจับ “กำลังซื้อ” ที่ (คาดว่า) กำลังอยู่ในช่วงฟื้นตัวกันบ้าง

 

Big C ถูกอย่างเดียวไม่พอ ต้อง “ก้อง สหรัถ” ด้วย

แถลงก่อนใครเพื่อเลยสำหรับ “บิ๊กซี” ที่ได้เปิดเผยแผนกลยุทธ์ ประจำปี 2559 โดยการเปิดตัวกลยุทธ์ราคา “ถูกสุดสุดไปเลย” ทั้งหมด 5 ข้อ เพื่อตอบโจทย์เรื่องราคาและลดค่าครองชีพของผู้บริโภคได้แก่

  1. รับประกันราคาสินค้าโปรโมชันถูกสุดสุดไปเลย
  2. รับประกันสินค้าโปรโมชันไม่ขาดสต๊อก
  3. สินค้าราคาถูกลงกว่าปีที่แล้ว กว่า 5,000 รายการ
  4. รับประกันราคาถูกต้อง
  5. แจกฟรีคูปองลด ใช้ลดได้ทันที ไม่ต้องรอครั้งหน้า

โดยในครั้งนี้ “บิ๊กซี” ได้มีการเปิดตัว “ก้อง-สหรัถ” เป็นพรีเซนเตอร์คนใหม่ในรอบ 5 ปี มีสัญญาเริ่มต้น 1 ปี พร้อมแต่งเพลงขึ้นมาใหม่สำหรับใช้ในโฆษณาคือ “เพลงถูกสุดๆไปเลย” โดยก่อนหน้านี้พรีเซนเตอร์คือ “เจ เจตริน – ปิ่น เก็จมณี วรรธนะสิน” แคมเปญเดียว ด้วยงบการตลาด 9,000 ล้านบาทเท่ากับปีที่ผ่านมา

การนำพรีเซ็นเตอร์มาใช้บิ๊กซี คาดหวังจะสามารถส่ง message ในเรื่องของความคุ้มค่าให้แก่ลูกค้า มากกว่าคาดหวังเรื่องรายได้หรือจำนวนลูกค้าที่เข้าใช้บริการ ซึ่งปัจจุบันมีเฉลี่ย 4,000,000 คนต่อสัปดาห์ในทุกช่องทาง

 

ขยายสาขาเพิ่มทางเลือกลูกค้า

ในปีนี้บิ๊กซี ได้วางแผนไว้ทั้งหมด 84 สาขา แบ่งเป็น ประเภทไฮเปอร์มาร์เก็ต 6 สาขา, บิ๊กซี มาร์เก็ต 3 สาขา และมินิบิ๊กซี 75 สาขา (แบ่งเป็นแฟรนไชส์ 50 สาขา) คาดว่าจะเริ่มเปิดในไตรมาส 2 เป็นต้นไป โดยใช้งบลงทุนทั้งหมดประมาณ 6,000-7,000 ล้านบาท ปัจจุบันมีสาขาทั้งหมด 720 สาขา แบ่งเป็นไฮเปอร์มาร์เก็ต 125 สาขา,บิ๊กซี มาร์เก็ต 55 สาขา, มินิบิ๊กซี 393 สาขา, ร้านขายยาเพรียว 147 สาขา และร้านอีคอมเมิร์ซ คือ บิ๊กซีช้อปปิ้งออนไลน์และ Cdiscount

 

เทสโก้ โลตัส” คอนเฟิร์มลงทุนอย่างต่อเนื่อง แม้สภาวะเศรษฐกิจกำลังท้าทาย

ภาพรวมของ “เทสโก้ โลตัส” ในปีที่ผ่านมาสามารถสร้างยอดขายที่เติบโตมากที่สุดตั้งแต่เริ่มดำเนินงานมาในประเทศไทย โดยเป็นผลมาจาก การที่มีส่วนแบ่งการตลาดที่เพิ่มขึ้น และมีจำนวนลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น 2 ล้านคนจากจำนวนผู้สมัครคลับการ์ด ซึ่งจากเดิมมีผู้มาใช้บริการประมาณ 13 ล้านคน/สัปดาห์ เป็น 15 ล้านคน/สัปดาห์ โดยสำหรับปี 2559 “เทสโก้ โลตัส” ได้กลยุทธ์ทั้งหมด 3 ข้อ ได้แก่

  1. การขยายธุรกิจ โดยปี 2558 มีการเปิดสาขาใหม่จำนวน 65 สาขา และปรับปรุงสาขาเดิมอีก 14 สาขา ปีนี้มีแผนเปิดเพิ่มมากกว่า 65 สาขา และปรับปรุง 18 สาขา โดยใช้คาดว่าจะใช้งบลงทุนที่ไม่น้อยกว่าปีที่ผ่านมาหรือประมาณ 7,000 ล้านบาทต่อปี โดยการขยายไฮเปอร์มาร์เก็ต จะเน้นในจังหวัดขนาดกลางที่ยังไม่มีห้างค้าปลีก ส่วนกรุงเทพจะเน้นเปิดไซส์เล็ก อย่าง โลตัส เอ็กซ์เพรส และตลาด ที่ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก ซึ่งจะส่งผลให้มีการจ้างงานเพิ่มอีกไม่น้อยกว่า 3,000 ตำแหน่ง นอกจากนี้ยังจะมีการลงทุนและทำการตลาดสำหรับช่องทางออนไลน์ ที่มี 2 ช่องทางคือ เทสโก้ โลตัส ช้อปออนไลน์ มีสินค้าประมาณ 20,000 รายการ เน้นสินค้าอุปโภค บริโภค และอาหารสด และร้านในเว็บลาซาด้า 8,000 รายการ ที่เน้นสินค้าที่ไม่ใช่อาหาร อย่างกลุ่ม อิเล็คทรอนิกส์และสุขภาพกับความงาม โดยในปี 2558 ช่องทางออนไลน์มีการเติบโตมากกว่า 100% แต่สัดส่วนยอดขายยังน้อยมาก
  2. แคมเปญโปรโมชั่น โดยแบ่งเป็น 2 ข้อ คือ 1.ลดราคาอย่างถาวรในทั้งกลุ่ม ที่นอกเหนือไปจากโปรโมชั่น โดยที่ผ่านมาปรับลดในกลุ่มอาหารสดลง 25%, แม่และเด็ก 10%, และขนมขบเคี๊ยว 10% สำหรับปีนี้ยังมีแผนปรับลดอีกหมายกลุ่มแต่ยังไม่ขอเปิดเผยว่าจะมีกลุ่มอะไรบ้าง 2.ปฏิวัติอาหารสด โดยการตั้งเป้าเพิ่มปริมาณสินค้าทางการเกษตรที่รับซื้อเป็น 150,000 ตันต่อปี จากปี 2558 ที่ซื้อ 100,000 ตัน
  3. ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย โดยการจัดทำโครงการประชารัฐทั้งหมด 22 โครงการ ซึ่งจะช่วยเหลือ 2 ส่วน ได้แก่เกษตรกร และเอสเอ็มอีกับโอท็อป ซึ่งปัจจุบันมีซัพพลายเออร์ที่เป็นเอสเอ็มอีกว่า 90% หรือ 7,000 ราย

ทั้งนี้สำหรับ “เทสโก้ โลตัส” ไทยถือเป็นประเทศที่มีตลาดธุรกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากอังกฤษเลยทีเดียว

 


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer