เกือบปีครึ่งแล้วที่ทั่วโลกเผชิญการระบาดของโควิด-19 จนส่งผลต่อทั้งกิจกรรมทางเศรษฐกิจ การดำเนินชีวิต และแน่นอนเป็นวิกฤตโรคระบาดครั้งใหญ่สุดในรอบร้อยปี โดยช่วงระบาดรอบแรกไต้หวันและสิงคโปร์รับมืออย่างมีประสิทธิภาพจนทั่วโลกชื่นชม มองเป็นตัวอย่าง ไม่ต่างจากนักกีฬาที่ครองแชมป์ร่วมกัน
ทว่ามาพฤษภาคมปีนี้ ‘เบอร์ต้น ๆ’ ฟอร์มตก เกิดโควิดระบาดรอบใหม่ แม้ไม่รุนแรงจนฉุดประเทศสู่วิกฤตใหญ่แบบอินเดีย แต่ก็ต้องจับตามอง เพราะเป็นการยืนยันว่ายังไม่มีประเทศใดปลอดภัย 100% ในสถานการณ์นี้
ความประมาทของยักษ์เล็กเอเชียตะวันออก
ทั้งที่ไต้หวันอยู่ไม่ห่างจากจีนและการไปมาหาสู่ระหว่างประชากรเกิดขึ้นเป็นประจำ แต่ไต้หวันก็สามารถสกัดการระบาดได้อย่างรวดเร็ว เริ่มด้วยการสั่งห้ามชาวจีนเดินทางเข้าประเทศ ตามด้วยปิดประเทศในเวลาต่อมา
พร้อมใช้จุดแข็งทางเทคโนโลยีของประเทศให้เกิดประโยชน์สูงสุดและกระจายวัคซีนกับเวชภัณฑ์ต่าง ๆ โดยเฉพาะหน้ากากอนามัยให้ทั่วถึง
นี่ทำให้พอจบไตรมาสแรกปี 2020 ที่สถานการณ์ในจีนรุนแรงจนกลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลก และเริ่มระบาดไปประเทศอื่นๆ ไต้หวันจึงสามารถกำราบโควิดจนแทบสิ้นฤทธิ์
และเมื่อเข้าสู่ไตรมาสถัดมาที่โลกติดล็อกดาวน์เต็มรูปแบบ พร้อมวิกฤตหลายทางที่ประดังเข้ามา ไต้หวันก็สามารถส่งความช่วยเหลือไปให้ประเทศอื่น
พร้อมเร่งและเพิ่มกำลังการผลิตชิปเพื่อรองรับความต้องการ Mobile Device และ Computer พกพาที่เพิ่มขึ้นตามเทรนด์ทำงานและเรียนที่บ้าน
ทว่าข้ามมาปีนี้ที่ศูนย์กลางระบาดย้ายจากจีนไปอินเดีย การระบาดในไต้หวันกลับเพิ่มเป็นหลักร้อย โดยวันนี้ (20 พ.ค.) ผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ของไต้หวันอยู่ที่ 286 คน
ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 2,800 คน แม้เป็นสัดส่วนที่น้อยมากเมื่อเทียบกับประชากรทั้ง 23 ล้านคน แต่นี่คือความประมาทที่ประเทศอื่น ๆ ควรใช้เป็นบทเรียน
ต้นปีนี้ที่การระบาดทุเลาลงมีรายงานว่าแพทย์ตามโรงพยาบาลไต้หวันลดความเข้มข้นในการตรวจคัดกรองลง ปล่อยผ่านคนเป็นไข้ทั้งที่มีแนวโน้มติดโควิด ลดการซักประวัติเพื่อประมวลความเคลื่อนไหวพร้อมลำดับเวลาต่าง ๆ หรือที่เรียกกันติดปากว่า Timeline
ขณะที่ชาวไต้หวันเองก็ไม่ไปรับการฉีดวัคซีนเพราะประมาทว่าสถานการณ์ระบาดทุเลาลงมากแล้ว เมื่อรวมกับการลดเวลากักตัวกลุ่มนักบินที่กลับมาจากต่างประเทศซึ่งมีเชื้อซ่อนอยู่แต่ยังไม่แสดงอาการและปกปิด Timeline
เพราะอายที่จะเผยว่าไปเที่ยวสถานบันเทิงแบบแอบแฝงขายบริการทางเพศ ซึ่งเรียกกันในหมู่นักเที่ยวว่า “โรงน้ำชา” มา การระบาดจึงทยอยเพิ่มขึ้นเป็นหลักร้อยในไม่กี่สัปดาห์มานี้
ที่สุดก็ทำให้รัฐบาลไต้หวันต้องให้ประชาชนส่วนใหญ่กลับไปอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ไม่ต่างจากการระบาดรอบแรก
รอยร้าวในกำแพงเมืองท่าสำคัญของ ASEAN
แม้เป็นประเทศเล็กขนาดพอ ๆ กับเมืองใหญ่ ๆ ในหลายประเทศ แต่สิงคโปร์ก็พัฒนาประเทศจนก้าวหน้าเป็นประเทศพัฒนาแล้วหนึ่งเดียวใน ASEAN ที่มีระบบทุกอย่างเหนือกว่าเพื่อนบ้านร่วมภูมิภาค รวมถึงการรับมือสถานการณ์โควิดด้วย
สิงคโปร์ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี ลี เซียนลุง กำราบโควิดได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงกักไม่ให้เชื้อจากหอพักคนงานต่างชาติแพร่ออกมา และตัวนายกรัฐมนตรีเองก็อธิบายสรุปสถานการณ์ประจำวันได้แบบกระชับ เข้าใจง่าย
ความสำเร็จดังกล่าวทำให้สิงคโปร์เป็นอีกประเทศที่โลกชื่นชมและมองเป็นตัวอย่างในโควิดครั้งนี้ แต่มาปีนี้ที่เกิดการระบาดรอบใหม่ สิงคโปร์ก็ ‘การ์ดตก’
เริ่มพบการระบาดแบบกลุ่มจากห้างสรรพสินค้าและสนามบิน ซึ่งค่อย ๆ ลามออกไปภายนอก เพราะผู้ติดเชื้อไปกินข้าวร่วมกันในศูนย์อาหาร
ซ้ำร้ายชาวเอเชียใต้บางคนที่เดินทางเข้ามายังพาเชื้อโควิดเข้ามาด้วย เมื่อรวมกับการไม่ไปรับวัคซีนของชาวสิงคโปร์เองเพราะเห็นว่าการระบาดทุเลาลงแล้ว การระบาดรอบใหม่จึงเกิดขึ้น
วันนี้สิงคโปร์พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 27 คน ในจำนวนนี้ 3 คนป็นนักโทษในเรือนจำ สถานการณ์ระบาดที่เริ่มกลับมารุนแรงทำให้รัฐบาลสิงคโปร์สั่งให้นักเรียนกลับไปเรียนที่บ้านอีกครั้ง
จำกัดการรวมตัวในทุกกรณีและแยกพนักงานสายการบินที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงไว้ต่างหากเมื่อกลับประเทศและกักตัวนานกว่าปกติ
ทั้งนี้ นอกจากไต้หวันและสิงคโปร์แล้ว สถานการณ์ในจีนกับเวียดนามก็กำลังถูกจับตา โดยจีนที่เป็นต้นตอการระบาดรอบแรกและคุมสถานการณ์ได้ดีมีรายงานว่า รัฐบาลเร่งกระจายวัคซีนถึง 1 ล้านโดสในเวลาเพียง 9 วันในหลายเมืองเพื่อการสกัดระบาด
ส่วนที่เวียดนามอีกประเทศกลุ่ม ASEAN ที่รับมือโควิดรอบแรกได้ดี ก็มีรายงานว่าเกิดระบาดแบบกลุ่มที่นิคมอุตสาหกรรมบั๊กซาง ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ จนต้องปิดนิคม 2 สัปดาห์ และทำให้สายพานผลิต iPhone ของ Foxconn หยุดชะงักไปด้วย/bbc, cna
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline



