หลังอินเดียการ์ดตกเผชิญวิกฤตโควิดรอบใหม่ ทั่วโลกก็ระดมความช่วยเหลือเพื่อสกัดการระบาดแต่อินเดียมีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจโลกมากมาย เศรษฐกิจโลกจึงป่วยไปด้วย
ทั้งด้วยจำนวนประชากรกว่า 1,400 ล้านคน พื้นที่ประเทศ ขนาดเศรษฐกิจ และความรุนแรงของสถานการณ์ทำให้การเผชิญวิกฤตโควิดรอบใหม่ของอินเดียสร้างความกังวลให้ทั่วโลกจนต้องยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ
และบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจโลกของอินเดียก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้รัฐบาลและบริษัทใหญ่ ๆ ทั่วโลก อยู่เฉยไม่ได้กับวิกฤตครั้งนี้
เศรษฐกิจโลกป่วยอีกเมื่ออินเดียการ์ดตก ต้องนอนติดเตียงเพราะโควิดอีกรอบ
ตามความเข้าใจของคนส่วนใหญ่ อินเดียคือประเทศที่รุ่มรวยด้วยวัฒนธรรม มีประวัติศาสตร์เก่าแก่ เต็มไปด้วยโบราณสถานและเป็นบ้านเกิดของมหาตมะคานธี ส่วนในมุมเศรษฐกิจแม้ไม่ได้โตอย่างร้อนแรงและต่อเนื่องแบบจีน แต่ประเทศใหญ่สุดในเอเชียใต้แห่งนี้ก็มีความสำคัญหลายด้าน
ดังนั้น เมื่อประเทศตกอยู่วิกฤตโควิดอีกครั้งจนจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมมากเกือบ 23 ล้านคน มากเป็นอันดับ 1 ของเอเชีย ธุรกิจมากมายจึงได้รับผลกระทบและทำให้เศรษฐกิจโลก ‘ป่วย’ ไปด้วย
เริ่มจากอุตสาหกรรมยา โดยอินเดียถือเป็นประเทศผู้ส่งออกยาสามัญรายใหญ่สุดของโลก เฉพาะสหรัฐฯ ประเทศเดียว ยาทุก ๆ 1 ใน 3 เม็ดที่ขายอยู่ตามร้านขายยาก็มาจากอินเดีย นอกจากนี้ อินเดียยังเป็นผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่สุดของโลกครอง 60% ของตลาด
องค์ความรู้และความพร้อมในการผลิตวัคซีน จึงทำให้ขณะที่โควิดระบาดรอบแรกเมื่อปี 2020 อินเดียผลิตและส่งออกวัคซีนต้านโควิด ราว 200 ล้านโดสไปให้ 92 ประเทศทั่วโลก
แต่เพราะความประมาทของรัฐบาลอินเดียที่นำโดยนายกรัฐมนตรี Narendra Modi ปีนี้อินเดียจึงกลายเป็นศูนย์กลางการระบาดเสียเองจนต้องลดสัดส่วนส่งออก
และเร่งกระจายวัคซีนให้คนในประเทศก่อน ดังนั้น หากสถานการณ์ไม่ดีขึ้นจึงอาจทำให้สายพานการผลิตทั้งยาและวัคซีนทั่วโลกต้องสะดุดไปด้วย
ธุรกิจต่อมาที่ได้รับผลกระทบอย่างมากจากการระบาดรอบใหม่ในอินเดีย คือการขนส่งสินค้าทางเรือ เนื่องจาก 80% ของสินค้าทั่วโลกขนส่งผ่านเรือสินค้าและลูกเรือกว่า 200,000 คนจากทั้งหมดราว 1.7 ล้านคน ก็เป็นชาวอินเดีย
Maersk บริษัทขนส่งสินค้าทางเรือรายใหญ่สุดในโลกเผยว่า กำลังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการระบาดรอบนี้ในอินเดีย เพราะลูกเรือ 30% เป็นชาวอินเดีย
ขณะที่ GAC บริษัทจัดหาลูกเรือสำหรับเรือขนส่งสินค้าในอินเดีย ขอร้องให้รัฐบาลประเทศเอเชียที่มีท่าเรือสินค้าใหญ่ ๆ เช่น จีน สิงคโปร์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ออกมาตรการแยกนักท่องเที่ยวกับลูกเรือสินค้าที่เป็นชาวอินเดีย เพื่อให้ชาวอินเดียที่พักอยู่ในประเทศเหล่านี้ได้กลับไปทำงานบนเรือขนส่งสินค้า
อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องหนังทั่วโลกก็กำลังได้รับผลกระทบจากภาวะ ‘การ์ดตก’ จนต้องมาตกอยู่ท่ามกลางวิกฤตโควิดอีกครั้งเช่นกัน เพราะอินเดียเป็นศูนย์กลางโรงงานผลิตเสื้อผ้าให้แบรนด์ระดับโลกมากมาย
มีรายงานว่ากำลังผลิตเสื้อผ้าส่งออกของโรงงานอินเดียหลายแห่งที่เมืองเดลีและบังกาลอร์หายไปเลย 50% หลังคนงานมากมายติดโควิดจนต้องกักตัวอยู่บ้าน
อีกธุรกิจที่ได้รับผลกระทบอย่างมากจากโควิดระบาดรอบใหม่ในอินเดียคือ การว่าจ้างคนภายนอกให้ทำงานในส่วนที่ไม่จำเป็นแทนหรือที่เรียกกันติดปากแบบทับศัพท์ว่า Outsource
เพราะชาวอินเดียมากถึง 4.4 ล้านคนที่เป็นพนักงานแบบ Outsource ให้บริษัทใหญ่ ๆ เช่น Goldman Sachs และ Wells Fargo ในส่วนของ Call Center และฝ่าย IT
การระบาดรอบนี้ทำให้ธุรกิจ Outsource ในอินเดียติดขัด เพราะพนักงานต้องทำงานอยู่บ้าน และหลายคนเริ่มมีความกังวลว่าอาจต้องตกงาน
เพราะบริษัทผู้ว่าจ้างแก้ไขสถานการณ์ด้วยการย้ายไปประเทศอื่นในเอเชีย เช่น ฟิลิปปินส์ ที่สถานการณ์ระบาดไม่รุนแรงและผู้คนมีทักษะภาษาอังกฤษดี ขณะเดียวกันบางบริษัทก็ตัดปัญหาด้วยการหันไปลงทุนกับระบบอัตโนมัติและ AI แทนแล้ว
ธุรกิจสุดท้ายที่มีรายงานว่าเจอพิษโควิดอินเดียเล่นงานคือ โรงงานรับจ้างผลิต (OEM) โดย Foxconn ยักษ์ใหญ่สัญชาติไต้หวันในแวดง OEM เผยว่า กำลังการผลิตที่โรงงาน iPhone ในรัฐทมิฬนาดู ลดลง 50%
เพราะพนักงานนับร้อยติดโควิด ส่วนโรงงานผลิต Smartphone ของ Nokia และ Oppo ในอินเดียก็เจอปัญหาเดียวกัน
TrendForce บริษัทวิจัยข้อมูลตลาดสินค้าเทคโนโลยีสัญชาติไต้หวัน ประเมินว่า วิกฤตโควิดอินเดียรอบนี้จะกระทบต่อยอดการผลิต Smartphone เฉพาะตลาดอินเดียราว 8.5-9.4%
และหากสถานการณ์ไม่ดีขึ้นจะกระทบต่อตลาด Smartphone ทั่วโลกอยู่บ้างในไตรมาส 2 เพราะแม้อินเดียไม่ใช่ฐานการผลิต Smartphone ใหญ่สุดเช่นในจีน แต่สงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ ทำให้อินเดียกำลังทวีความสำคัญ/cnn, reuters
–
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ