สมใจ แค่ชื่อก็รู้สึกได้แล้วว่าเก่า และมันก็เก่าจริงๆ เพราะ ร้านสมใจ ก่อตั้งมาแล้ว 60 ปี โดย

รุ่นที่ 1 คุณสมใจ : เริ่มจากขายสารานุกรม วรรณกรรม และก็เพิ่มไลน์เครื่องเขียน เพราะใกล้โรงเรียน ใกล้มหาลัย

รุ่นที่ 2 รุ่นลูก : เพิ่มไลน์สินค้า เครื่องเขียน อุปกรณ์ศิลป์ ขยายสาขาในกรุงเทพฯ อย่างอาคารวรรณสรณ์ สยาม จามจุรี ซึ่งก็ยังเน้นกลุ่มนักเรียน นักศึกษา

และ รุ่นที่ 3 รุ่นหลาน : The Next Gen ที่นำโดย เนม – วิภ – ตาล คือสามผู้บริหารไฟแรง ที่กำลัง Rebrand สมใจ ให้กลายเป็นร้านที่คนหลับตาแล้วนึกออกว่า สมใจคืออะไร?


ภารกิจนี้เริ่มต้นจากอะไร?

ในตอนที่วิภกับตาลกลับมาจากเรียนต่อต่างประเทศ สิ่งที่พวกเขาต้องการจะทำไม่ใช่การตลาด ไม่ใช่การรีแบรนด์ แต่เป็นเรื่องของระบบหลังบ้านอย่าง Inventory, Data และ Sourcing ที่พวกเขาก็ยังยอมรับว่าเก่ามาก ไม่มีการเช็คสต็อค บางทีก็ได้มาขายไปทันที เป็นต้น ซึ่งหากเป็นอย่างนี้อยู่ จะทำให้เปลืองทรัพยากร และต้นทุนเป็นอย่างมาก การขยายสาขาไปทั่วประเทศก็แทบเป็นไปไม่ได้เลย

ภารกิจปัดฝุ่นนี้จึงเริ่มจากหลังบ้านก่อน แต่หลังจากที่พวกเขาได้เจอกับผู้ประกอบการ เจอนักการตลาด เจอกับคนเก่งๆ มากมาย พวกเขาจึงผุดไอเดีย และเกิดคำถามขึ้นว่า

หลับตานึกถึง ร้านสมใจ แล้วนึกถึงอะไร?

คุณตาลให้สัมภาษณ์กับ Marketeer ว่า นึกไม่ค่อยออก อาจจะนึกร้านเครื่องเขียนเก่าๆ เชยๆ ซึ่งต่างจากแบรนด์อย่าง Google ที่เห็นสีสดใสลอยมาทันที หรือ Starbucks ก็เป็น สีเขียว สีดำ โต๊ะไม้

ฉะนั้นความคิดที่จะรีแบรนด์จึงเกิดขึ้น เพื่อให้สมใจเป็นร้าน Art Community ที่สามารถแวะเข้ามาเดินเล่นได้ จึงเกิดเป็น Service ใหม่ขึ้นมานั่นก็คือ สมใจออนไลน์ และ Facebook IG สมใจ ซึ่งภายใน 1-2 ปีนี้ อาจได้เห็นสัดส่วนเป็น 5-10 % ของยอดขายทั้งหมด

 

Idea เอามาจากไหน?

เคยเห็นเว็บ Amazon ที่หน้าเว็บดูง่าย และสะอาดตา ก็อยากให้สมใจเป็นแบบนั้นบ้าง ดังนั้น IG และ Facebook ก็ต้องล้อกับหน้าเว็บ เราจึงร่วมมือกับ T Spoon Studio ในการถ่ายภาพแนว Minimalist ที่ดูสะอาด สวยงาม และที่คำสัญเป็นมิตรกับทุกคน

นั่นคือจุดเปลี่ยนที่ทำให้คนเห็นการเปลี่ยนแปลง และสมใจเริ่มมี Brand Story มากยิ่งขึ้น

 

สิ่งที่จะทำในปี 2017

เราจะมีการจัด Workshop ให้มากขึ้น ซึ่งก็จะเกี่ยวกับงานศิลปะ เนื่องจากเราต้องการสร้างสมใจ ให้กลายเป็น Art Community ที่ทุกคนเข้าถึงได้ไม่ใช่เฉพาะเด็กศิลป์ และแคมเปญการตลาดต่างๆ ส่วนเรื่องสาขานั้น เรายังไม่รีบขยายเพราะต้องเอาระบบให้แน่น แบรนด์ให้แข็งแกร่งก่อน

 

อุปสรรคและความท้าทาย

ถึงแม้ว่ามุมมองจากคนนอกจะเห็นภาพลักษณ์ที่ดูดี แต่อุปสรรคก็มีมากไม่แพ้กัน เพราะรุ่นพ่อรุ่นแม่ทำมานาน อยู่ๆ รุ่นลูกกลับจากนอกเอาไอเดียมาเสนอ ไม่มีทางที่ทุกคนจะ Say YES เนื่องจากไม่มีใครอยากออกจาก Comfort Zone พ่อแม่ก็ไม่เข้าใจไอเดีย พนักงานก็ไม่อยากทำงานให้ยุ่งยากมากขึ้น

ทางแก้ก็คือ เราต้องทำไอเดียหยาบๆ (Rough Idea) ให้กลายเป็นไอเดียที่เรียบๆ (Smooth Idea) ลดขั้นตอน ลดความยุ่งยากลง เพื่อให้พ่อแม่เข้าใจได้ง่ายยิ่งขึ้น ให้เห็นว่า เออ ถ้าปรับปรุง Stock เนี่ยมันเสียเวลาขึ้นนะ ต้องมาลงบัญชีเข้าออก แต่ก็ลดการขโมย และมีข้อมูลเก็บไว้แน่นอน ส่วนพนักงานที่อยู่มายาวนาน ก็ต้องคอยสอน คอยเทรนนิ่ง มีการยกตัวอย่างพนักงานที่สามารถทำได้ให้ดูว่า ทุกคนก็เริ่มนับ 1 ใหม่เหมือนกัน

 

จะเห็นได้ว่าถึงแม้หน้าเว็บไซต์ หน้า IG จะดูสวยหรูแต่ทุกอย่างก็เกิดจาก การพัฒนาโครงสร้างอย่างจริงจัง ทั้งพ่อแม่ ทั้งคอมพิวเตอร์ ทั้งพนักงาน

ภารกิจครั้งนี้จะไปได้ไกลขนาดไหน สมใจ จะสร้างแบรนด์และมีเรื่องราวของตัวเองได้หรือไม่ ก็ต้องดูกันยาวๆ

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline

 


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer