มูลค่าE-Commerce ที่เป็นB2Cของประเทศไทยปัจจุบันอยู่ที่ 3 แสนกว่าล้านบาท เป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในประเทศอาเซี่ยน
ตัวขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้ธุรกิจพวกนี้เติบโตเช่น
- การเกิดขึ้นอย่างมากมายของ บริษัทโลจิสติกส์ข้ามชาติทั้งรายเล็กและรายใหญ่ที่เข้ามาตั้งบริษัทในไทย
- เจ้าของสินค้าหลายแห่งมีบริการรับ-ส่ง
- แอพพลิเคชั่นใหม่ๆของพวกสตารท์อัพที่ทำเกี่ยวกับเรื่องของขนส่ง และมีหลายรายที่กำลังเติบโตขึ้นจากการได้รับเงินสนับสนุนจากพวก VC
- คลังสินค้าออนไลน์ ( e-Fulfillment)ที่รับฝากของ และบริการส่งของให้ด้วย
การแข่งขันกันอย่างรุนแรงของธุรกิจ E-Commerce ทำให้หลายรายต้องประสบปัญหาการขาดทุนและปิดตัวไปเช่น Coupon ปิดตัวไปในหลายประเทศ Ensogo เพิ่งปิดตัว หรือแม้แต่ Rakutenยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นก็ต้องถอยทัพกลับไปเพราะเป็นเกมธุรกิจที่ใช้เงินเยอะจริงๆ
เป็นเรื่องฟองสบู่ในฝั่งผู้ให้บริการ Marketplace แต่เป็นโอกาสให้กับผู้ขายสินค้าและผู้ซื้อสินค้าเข้ามามากขึ้น เพราะการแข่งขันในลักษณะนี้ทำให้ผู้บริโภคมีสินค้าให้เลือกมากมาย และยังได้สินค้าในราคาถูกลง ผู้ขายเองก็ได้ประโยชน์จากการแข่งขัน ผู้เล่นรายใหม่เลยเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกับการแข่งขันที่ยังมีตลอดเวลา
สำหรับAlibabaยักษ์ใหญ่จากประเทศจีนที่เข้าซื้อกิจการของ Lazadaไปเรียบร้อย คาดกันว่าจากนี้ไป Lazada จะเป็นช่องทางออนไลน์สำคัญที่ Alibaba จะใช้ในการนำสินค้าจากจีนกระจายเข้าสู่ตลาดอาเซียน ซึ่งนอกจากขายสินค้าจาก Taobao ยังมี Alipayรองรับการจ่ายเงิน และ Aliexpressที่รองรับระบบ Logistics สิ่งที่เกิดขึนตามมาก็คืคือใครที่ทำแบรนด์อยู่ แล้วบังเอิญสินค้านั้นไปชนกับสินค้าที่มีในตลาดจีน ก็จะเจอปัญหากับคู่แข่งในโลกออนไลน์ตัวนี้ด้วย
ที่สำคัญตอนนี้ มีหลายเวบ E-Commerce จากประเทศจีนที่ไม่ได้มีแค่ภาษาจีน อังกฤษ แต่เป็นภาษาต่างๆมากกว่า 20 ภาษา รวมทั้งภาษาไทยด้วย ซึ่งเอสเอ็มอีในประเทศไทยต้องหาทางตั้งรับให้ดีๆเพราะลูกค้าสามารถสั่งของแบบเดียวกันเข้ามาใช้ได้อย่างสะดวกมากขึ้น
ผู้ที่ได้ประโยชน์ไปเต็มๆในการที่ E-Commerce โตคือ Social Commerce และทั้ง 2 ส่วนนี้กำลังหล่อหลอมรวมกำลังมีมูลค่ามหาศาลในอนาคต
3 ช่องทางหลัก ของการเข้าไปซื้อสินค้าในSocial Mediaที่คนใช้ซื้อของเป็นประจำ
Facebook 92.1%
Line 85.1%
Instagram 43.9%
การเติบโตของ Social Commerce ในประเทศไทย
Facebook 41 ล้านคน โต +17% 700K pagein Thailand
Twitter 5.3 ล้านคน โต +18% 1.2 ล้านคน Active User
Instagram 7.8 ล้านคน โต+74% 1ล้านคน Active User/day
Line 3.3 ล้านคน
4 กลยุทธ์ธุรกิจที่ทำให้แบรนด์อยู่รอดได้เมื่อ E-Commerce โตอย่างรวดเร็ว
1.เพิ่มช่องทางการขาย
- ต้องนำธุรกิจเข้าสู่โลกออนไลน์ด้วยวิธี
– ทำเว็บไซต์ของตัวเอง
– เปิดร้านในMarketplace
– ค้าขายผ่านทาง Social Commerce
2.ทำการตลาดให้คนเข้ามาที่ช่องทางของเรา
-ทำตลาดเชิงรุก
-ทำ Online Marketing
-พูดคุยกับลูกค้าเก่าสร้างยอดขายให้เกิด
3.เปิดหูเปิดตา ไปต่างประเทศ เพื่อไปเห็นไอเดียใหม่ๆบ้าง
2.เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
1.นำเทคโนโลยีใหม่ๆมาใช้ในองค์กร เช่นGoogle App, Dropbox
– การเงินรูปแบบใหม่ ทำให้การทำงานเร็วขึ้น
2.ปรับเปลี่ยนวิธีทำงานใหม่ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
3.เพิ่มความรู้ให้แก่ตัวเองและทีม
-อ่านให้มากขึ้น ทั้งหนังสือไทยและต่างประเทส
-ส่งตัวเองและทีมงานไปสัมมนา ไปเรียนรู้อะไรใหม่ๆ
- ลงมือทำ
บางส่วน จากการบรรยายของ ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ President Thai E-Commerce Association
DAAT DAY 2016
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ