มูลค่าE-Commerce ที่เป็นB2Cของประเทศไทยปัจจุบันอยู่ที่ 3 แสนกว่าล้านบาท เป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในประเทศอาเซี่ยน

ตัวขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้ธุรกิจพวกนี้เติบโตเช่น

  1. การเกิดขึ้นอย่างมากมายของ บริษัทโลจิสติกส์ข้ามชาติทั้งรายเล็กและรายใหญ่ที่เข้ามาตั้งบริษัทในไทย
  2. เจ้าของสินค้าหลายแห่งมีบริการรับ-ส่ง
  3. แอพพลิเคชั่นใหม่ๆของพวกสตารท์อัพที่ทำเกี่ยวกับเรื่องของขนส่ง และมีหลายรายที่กำลังเติบโตขึ้นจากการได้รับเงินสนับสนุนจากพวก VC
  4. คลังสินค้าออนไลน์ ( e-Fulfillment)ที่รับฝากของ และบริการส่งของให้ด้วย

การแข่งขันกันอย่างรุนแรงของธุรกิจ E-Commerce ทำให้หลายรายต้องประสบปัญหาการขาดทุนและปิดตัวไปเช่น Coupon ปิดตัวไปในหลายประเทศ Ensogo เพิ่งปิดตัว หรือแม้แต่ Rakutenยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นก็ต้องถอยทัพกลับไปเพราะเป็นเกมธุรกิจที่ใช้เงินเยอะจริงๆ

เป็นเรื่องฟองสบู่ในฝั่งผู้ให้บริการ Marketplace แต่เป็นโอกาสให้กับผู้ขายสินค้าและผู้ซื้อสินค้าเข้ามามากขึ้น เพราะการแข่งขันในลักษณะนี้ทำให้ผู้บริโภคมีสินค้าให้เลือกมากมาย และยังได้สินค้าในราคาถูกลง ผู้ขายเองก็ได้ประโยชน์จากการแข่งขัน ผู้เล่นรายใหม่เลยเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกับการแข่งขันที่ยังมีตลอดเวลา

สำหรับAlibabaยักษ์ใหญ่จากประเทศจีนที่เข้าซื้อกิจการของ Lazadaไปเรียบร้อย คาดกันว่าจากนี้ไป Lazada จะเป็นช่องทางออนไลน์สำคัญที่ Alibaba จะใช้ในการนำสินค้าจากจีนกระจายเข้าสู่ตลาดอาเซียน ซึ่งนอกจากขายสินค้าจาก Taobao ยังมี Alipayรองรับการจ่ายเงิน และ Aliexpressที่รองรับระบบ Logistics สิ่งที่เกิดขึนตามมาก็คืคือใครที่ทำแบรนด์อยู่ แล้วบังเอิญสินค้านั้นไปชนกับสินค้าที่มีในตลาดจีน ก็จะเจอปัญหากับคู่แข่งในโลกออนไลน์ตัวนี้ด้วย

ที่สำคัญตอนนี้ มีหลายเวบ E-Commerce จากประเทศจีนที่ไม่ได้มีแค่ภาษาจีน อังกฤษ แต่เป็นภาษาต่างๆมากกว่า 20 ภาษา รวมทั้งภาษาไทยด้วย ซึ่งเอสเอ็มอีในประเทศไทยต้องหาทางตั้งรับให้ดีๆเพราะลูกค้าสามารถสั่งของแบบเดียวกันเข้ามาใช้ได้อย่างสะดวกมากขึ้น

ผู้ที่ได้ประโยชน์ไปเต็มๆในการที่ E-Commerce โตคือ Social Commerce และทั้ง 2 ส่วนนี้กำลังหล่อหลอมรวมกำลังมีมูลค่ามหาศาลในอนาคต

 

3 ช่องทางหลัก ของการเข้าไปซื้อสินค้าในSocial Mediaที่คนใช้ซื้อของเป็นประจำ

Facebook 92.1%

Line 85.1%

Instagram 43.9%

การเติบโตของ Social Commerce ในประเทศไทย

Facebook 41 ล้านคน โต +17% 700K pagein Thailand

Twitter 5.3 ล้านคน โต +18% 1.2 ล้านคน Active User

Instagram 7.8 ล้านคน โต+74% 1ล้านคน Active User/day

Line 3.3 ล้านคน

4 กลยุทธ์ธุรกิจที่ทำให้แบรนด์อยู่รอดได้เมื่อ E-Commerce โตอย่างรวดเร็ว

1.เพิ่มช่องทางการขาย

  1. ต้องนำธุรกิจเข้าสู่โลกออนไลน์ด้วยวิธี

– ทำเว็บไซต์ของตัวเอง

– เปิดร้านในMarketplace

– ค้าขายผ่านทาง Social Commerce

2.ทำการตลาดให้คนเข้ามาที่ช่องทางของเรา

-ทำตลาดเชิงรุก

-ทำ Online Marketing

-พูดคุยกับลูกค้าเก่าสร้างยอดขายให้เกิด

3.เปิดหูเปิดตา ไปต่างประเทศ เพื่อไปเห็นไอเดียใหม่ๆบ้าง

 

2.เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

1.นำเทคโนโลยีใหม่ๆมาใช้ในองค์กร เช่นGoogle App, Dropbox

– การเงินรูปแบบใหม่ ทำให้การทำงานเร็วขึ้น

2.ปรับเปลี่ยนวิธีทำงานใหม่ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

3.เพิ่มความรู้ให้แก่ตัวเองและทีม

-อ่านให้มากขึ้น ทั้งหนังสือไทยและต่างประเทส

-ส่งตัวเองและทีมงานไปสัมมนา ไปเรียนรู้อะไรใหม่ๆ

  1. ลงมือทำ

บางส่วน จากการบรรยายของ ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ President Thai E-Commerce Association

DAAT DAY 2016

 



ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ

.
Marketeer ฉบับดิจิทัล : อ่านบน Ookbee / อ่านบน meb
.
Marketeer ฉบับ PDF : https://marketeermagazine.com/
.
Marketeer ฉบับกระดาษ : สั่งซื้อทางไปรษณีย์ Inbox มาที่ เพจ Marketeer Online