สลากกินแบ่งรัฐบาลกำลังจะขายออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์ม Digital Lottery หรือแพลตฟอร์มจำหน่ายสลากกินแบ่ง เพื่อป้องกันสลากขายเกินราคากำหนด
การขายสลากกินแบ่งผ่านแพลตฟอร์ม Digital Lottery สำนักงานสลากกินแบ่งเปิดให้ผู้ขายที่สนใจสามารถขายผ่านแพลตฟอร์มนี้ได้
โดยสำนักงานสลากกินแบ่งใช้วิธีสแกนสลากกินแบ่งตัวจริง และนำไปอัปโหลดอยู่ในแพลตฟอร์ม Digital Lottery ซึ่งทำหน้าที่เป็นมาร์เก็ตเพลส และเมื่อผู้ซื้อถูกใจเลขไหนก็สามารถซื้อสลากกินแบ่งฉบับนั้นได้ด้วยการชำระเงินผ่านแอปเป๋าตัง และสลากใบนั้นจะเข้ามาอยู่ในแอปเป๋าตังของผู้ซื้อทันที
ส่วนผู้ขายจะรับเงินค่าสลากที่ขายได้ผ่านแอปถุงเงินที่เปิดบัญชีกับธนาคารกรุงไทย
เมื่อถูกรางวัลสามารถขึ้นเงินผ่านแอปเป๋าตังได้โดยทันทีเช่นกัน
และแพลตฟอร์ม Digital Lottery อนุญาตให้ผู้ขายสามารถลดราคาขายต่ำกว่า 80 บาท ได้ ในกรณีที่ต้องการระบายสลากกินแบ่งที่เหลือให้หมด
การเปิดแพลตฟอร์มนี้เรามองว่าถ้าสามารถป้องกันการขายสลากเกินราคาได้จริง อาจจะยังสามารถเพิ่มยอดจำหน่ายให้กับสลากกินแบ่งรัฐบาลมากขึ้น จากความง่ายในการขาย การชำระเงิน การเก็บรักษาสลาก และการขึ้นเงินรางวัล
ที่ผ่านมาอ้างอิงจากรายงานประจำปี และรายงานการเงินสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล การขายสลากกินแบ่งมีอัตราการที่เพิ่มขึ้นในแต่ละปี ยกเว้นปี 2563 ที่มีปริมาณจำหน่ายที่น้อยลง จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเลื่อนการประกาศรางวัลสลากกินแบ่งงวด 1 เมษายน 2563 ไปเป็นวันที่ 16 พฤษภาคม 2563 ทำให้สำนักงานสลากกินแบ่งไม่ได้พิมพ์สลากกินแบ่งออกมาจำหน่ายถึง 3 งวด ได้แก่ งวด 16 เมษายน, 1 พฤษภาคม และ 16 พฤษภาคม
โดยปริมาณการพิมพ์สลากกินแบ่งรัฐบาล (รวมสลากการกุศล) ออกมาจำหน่ายมีดังนี้
แต่การขายสลากกินแบ่งผ่านแพลตฟอร์ม Digital Lottery มีความท้าทายไม่น้อย เนื่องจากผู้ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลกลุ่มหลักคือกลุ่ม 30-60 ปี
เราขออ้างอิงข้อมูลเก่าจากศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน ร่วมกับศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาสังคมและธุรกิจพบว่าในปี 2562
มีสัดส่วนผู้ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลดังนี้
อายุ 15-18 ปี สัดส่วน 1.2%
อายุ 19-29 ปี สัดส่วน 17.6%
อายุ 30-39 ปี สัดส่วน 21.6%
อายุ 40-49 ปี สัดส่วน 23.4%
อายุ 50-59 ปี สัดส่วน 25.0%
อายุ 60 ปีขึ้นไป สัดส่วน 11.3%
การที่กลุ่มผู้ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลกลุ่มหลักคือคนที่มีอายุ 30-60 ปี โดยเฉพาะกลุ่ม 50-59 ปี มีสัดส่วนมากที่สุดอาจจะทำให้คนกลุ่มนี้เลือกที่จะซื้อสลากแบบเดิม ๆ ที่มีความคุ้นเคยมากกว่าก็เป็นได้
แต่อย่างไรก็ดี การขายสลากในรูปแบบ Digital Lottery มีโอกาสในการขยายฐานผู้ซื้อเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้น จากความง่าย สะดวกในการซื้อและขึ้นเงิน
จากข้อมูลของศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน ร่วมกับศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาสังคมและธุรกิจทำให้เราได้เห็นว่าคนไทยซื้อสลากกินแบ่งในทุกกลุ่มอายุ แม้กลุ่มอายุต่ำกว่า 18 ปีจะมีสัดส่วนที่ต่ำ แต่ก็ถือเป็นหนึ่งในลูกค้าของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล
การที่สลากกินแบ่งรัฐบาลมีปริมาณการพิมพ์ออกมาเพิ่มขึ้นในแต่ละงวด เรามองว่าส่วนหนึ่งมาจากพฤติกรรมคนไทยที่มองว่าการลุ้นรางวัลสลากกินแบ่งในแต่ละงวดเหมือนเป็นการวัดดวง และความสนุกที่จะได้ลุ้น ซึ่งถ้าถูกรางวัลขึ้นมาถือว่าเป็นเรื่องที่โชคดี
และจากการสำรวจของศูนย์ศึกษาปัญหาการพนันในปี 2563 ที่พบว่า คนไทย 53.3% มองว่าการซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลไม่ถือว่าเป็นการพนัน
และเมื่อเทียบกับหวยใต้ดินคนไทย 58.5% มองว่าการซื้อหวยใต้ดินคือการพนัน
ส่วนหนึ่งที่คนไทยมองว่าสลากกินแบ่งรัฐบาลไม่เป็นการพนัน อาจเพราะสลากกินแบ่งรัฐบาลอยู่กับคนไทยมาอย่างยาวนานนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2417 สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่โปรดเกล้าฯ พระบรมราชานุญาตให้กรมทหารมหาดเล็กออกสลากกินแบ่ง ซึ่งในเวลานั้นเรียกว่าลอตเตอรี่เป็นครั้งแรกในประเทศไทยเนื่องในงานพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา เพื่อช่วยเหลือพ่อค้าต่างชาติที่นำสินค้ามาร่วมแสดงในการจัดพิพิธภัณฑ์ที่ตึกคองคาเดียในพระบรมมหาราชวัง
การออกลอตเตอรี่ฉบับแรกนั้นมีชาวอังกฤษชื่อ ครูอาลบาสเตอร์ เป็นผู้นำลักษณะการออกรางวัลสลากกินแบ่งตามแบบยุโรป
จากจุดเริ่มต้นนี้ได้ต่อยอดการออกสลากกินแบ่งในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องจนในเดือนพฤศจิกายน 2478 ได้เริ่มต้นออกสลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นงวดแรก และพัฒนาการออกสลากกินแบ่งรัฐบาลอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline



