ที่สุดแบรนด์ฟาสต์ฟู้ดดังสัญชาติอเมริกันก็ร่วมใช้ไม้แข็งต่อรัสเซียเพื่อย้ำให้รู้ว่าโลกคัดค้านการทำสงครามในยูเครน
McDonald’s สั่งปิดสาขาทั้งหมดในรัสเซียแบบไม่มีกำหนด เพื่อต่อต้านการที่รัสเซียทำสงครามบุกยึดยูเครนจนกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของชาวยูเครน ท่ามกลางมาตรการลงโทษรัสเซียของรัฐบาลสหรัฐฯ กับชาติตะวันตกที่ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และบรรดาแบรนด์ดัง ๆ ก็มีท่าทีไปในทางเดียวกัน
หลังรัสเซียเปิดฉากทำสงครามกับยูเครนเพราะไม่พอใจที่หันไปผูกมิตรกับสหภาพยุโรป (EU) ทั้งเศรษฐกิจ การเมืองและการทหารมากขึ้น ทำให้เกือบครึ่งเดือนมานี้โลกก็ได้รับรู้ถึงผลกระทบของสงครามดังกล่าว โดยเฉพาะความยากลำบากของชาวยูเครน ที่ต้องบาดเจ็บล้มตายและอพยพออกจากถิ่นฐานบ้านเกิด
สหประชาชาติประเมินว่าคลื่นชาวยูเครนที่หนีภัยสงครามไปทั่วยุโรปเพิ่มขึ้นเป็น 2 ล้านคนแล้ว ฝ่ายสหรัฐฯ และ EU รวมถึงประเทศพันธมิตรอย่างออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสิงคโปร์ ต่างร่วมกันคว่ำบาตรรัสเซีย เพื่อยุติสงคราม ผ่านมาตรการต่าง ๆ เช่น ไม่นำเข้าน้ำมันรัสเซีย และตัดขาดรัสเซียออกจากระบบสื่อสารการเงินการธนาคาร
ด้านแบรนด์ใหญ่ ๆ ก็ผนึกกำลังกดดันรัสเซียเช่นกัน ทั้งด้วยการปิดสาขาในรัสเซีย ถอนตัวจากรัสเซียและระงับกิจกรรมทางธุรกิจทั้งหมดในรัสเซีย
ทว่าแบรนด์อเมริกันในกลุ่มฟาสต์ฟู้ดและเครื่องดื่มที่คนทั่วโลกรู้จักดี อย่าง McDonald’s, Coca-Cola, Starbucks และ Pepsi ซึ่งทำธุรกิจอยู่ในรัสเซียด้วยกลับนิ่งเฉย จนนำมาสู่กระแสกดดันผ่านสื่อโซเชียล ให้แบนแบรนด์เหล่านี้ที่ฝืนกระแสต้านสงคราม
ทว่า ล่าสุด McDonald’s ก็ไม่นิ่งเฉยอีกต่อไป ได้มีการสั่งปิดสาขาทั้ง 850 แห่งในรัสเซียแบบไม่มีกำหนดจนกว่าสงครามในยูเครนจะสงบ แต่ยังจะจ่ายค่าจ้างพนักงานทั้งในรัสเซียและยูเครนตามเดิม พร้อมกันนี้ยังจะบริจาคเงินกับสิ่งของบรรเทาทุกข์ให้ชาวยูเครนผ่านกาชาดสากลอีกด้วย
Chris Kempczinski
Chris Kempczinski-CEO ของ McDonald’s ยอมรับว่า การตัดสินใจปิดสาขารัสเซียถือเป็นความท้าทายของแบรนด์ระดับโลก เห็นใจพนักงานที่ได้รับผลกระทบ และจะยื่นมือไปช่วยเหลือชาวยูเครนที่กำลังลำบาก
ขณะที่ Starbucks ก็สั่งปิดสาขาในรัสเซียแล้ว ส่วน Coca-Cola ได้ระงับการทำธุรกิจทั้งหมดในรัสเซีย และ Pepsi งดขายน้ำอัดลม แต่จะจำหน่ายอาหารที่จำเป็น เช่น อาหารเด็กกับนมต่อไป
ท่าทีดังกล่าวของ McDonald’s และแบรนด์ร่วมในธุรกิจฟาสต์ฟู้ดกับแบรนด์น้ำอัดลมอเมริกันเป็นไปตามที่กูรูการตลาดวิเคราะห์ว่า หากถูกกระแสสังคมกดดันอย่างหนักเข็มทิศทางจริยธรรมของแบรนด์จะขยับให้ต้องคิดหนัก
ต้องหันมามองว่าควรทำตามกระแสสังคม เห็นแก่ความถูกต้องและใส่ใจเรื่องความเป็นความตายของผู้คนในสถานการณ์โลกใหญ่ ๆ มากกว่าผลกำไรทางธุรกิจ จนที่สุดต้องคว่ำบาตรรัสเซียเหมือนกับแบรนด์ใหญ่ ๆ ในธุรกิจอื่น ๆ/theguardian, cnn
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline
