นับเป็นอีกก้าวสำคัญของ “ประกันภัยไทยวิวัฒน์” ผู้นำด้าน InsurTech ของไทย กับการเดินหน้ายกระดับธุรกิจประกันภัยรถยนต์ด้วยเทคโนโลยีเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่อย่างสมบูรณ์แบบ โดยล่าสุดได้จับมือกับ Deep Tech Startup ด้าน Computer Vision และ Machine Learning เปิดตัว “MARS Inspect” AI ตรวจเช็กสภาพรถยนต์แบบเรียลไทม์ครั้งแรกของไทย เพื่อยกระดับประสบการณ์ด้านประกันภัยแบบไร้รอยต่อ ลดขั้นตอนที่ยุ่งยากในการซื้อประกันและตรวจสภาพรถ ให้การทำประกันภัยเร็วขึ้นถึง 10 เท่า!
รายละเอียดเป็นอย่างไร Marketeer จะ Recap ให้รับชมพร้อมกัน
เพราะความสะดวกรวดเร็ว คือสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการ …
Pain Point เดิม ๆ ของผู้บริโภคเมื่อพูดถึงเรื่องประกันภัยรถยนต์ คงหนีไม่พ้นความยุ่งยากหลายขั้นตอน ตั้งแต่เสียเวลานัดคิว รอเจ้าหน้าที่ดำเนินการ หรือการจัดเตรียมเอกสารมากมายที่วุ่นวายและเกิดความผิดพลาดตกหล่น และอาจส่งผลถึงตอนเคลมประกัน รวมไปถึงความไม่สะดวกพบเจอผู้คนในช่วงสภาวะโควิด-19 ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นปัญหาที่ยังไม่มีผู้ประกอบการหลายแห่งเล็งเห็น
จากการสำรวจข้อมูลกลุ่มเป้าหมาย ประกันภัยไทยวิวัฒน์ ได้พบปัญหาและเห็นความต้องการของผู้บริโภค จึงได้นำเสนอตัวช่วยใหม่ที่จะมา “ตอบโจทย์ความสะดวก” นั่นคือการ “ลดขั้นตอนการตรวจสภาพรถก่อนทำประกันภัยรถยนต์” เพื่อให้การทำประกันรถยนต์นั้นง่าย สะดวก และรวดเร็วยิ่งขึ้น
โดยนำเสนอ “MARS Inspect” หรือ “มาตรวจ” โซลูชันที่ผู้ทำประกันสามารถตรวจสภาพรถด้วยตัวเองผ่านระบบ AI โดยการถ่ายรูปรถตามที่แอปฯ กำหนดได้ทันที ซึ่งหลังจากถ่ายภาพเสร็จ ระบบจะทำการวิเคราะห์ภาพที่ถ่ายด้วยเทคโนโลยี AI โดยรูปภาพและผลของการตรวจสภาพรถจะไปแสดงให้เจ้าหน้าที่เห็นแบบ Real time ด้วยความแม่นยำระดับสูง และเมื่อผลตรวจสอบผ่าน ทำทุกอย่างครบทุกขั้นตอน ลูกค้าที่ทำประกันจะสามารถรับ e-Policy ผ่านแอปฯ Thaivivat ได้ทันที ซึ่งนี่เองนับเป็นประสบการณ์ใหม่ของการทำประกันรถยนต์ ที่ ช่วยลดเวลาการทำประกันภัยได้เร็วขึ้นจากเดิมถึง10 เท่า!!
ทำความรู้จักกับ MARS Inspect มาตรฐานใหม่ของธุรกิจประกันรถยนต์ไทย
“MARS Inspect หรือ มาตรวจ” แอปพลิเคชันที่นำเทคโนโลยี AI มาใช้ตรวจสภาพรถแบบเรียลไทม์ซึ่งถูกสร้างสรรค์ขึ้นโดย “MARS” (Motor AI Recognition Solution) บริษัท Deep tech Start up ที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างประกันภัยไทยวิวัฒน์กับบริษัทสตาร์ตอัป ผู้เชี่ยวชาญด้าน Computer Vision และ Machine Learning อย่างบริษัท OZTROBOTICS และ PLUSiT Solution
เป้าหมายสำคัญคือ การนำเสนอประสบการณ์ใหม่ของการทำประกันภัย เพื่อแก้ปัญหาความยุ่งยากที่ผู้บริโภคต้องเจอ พร้อมตอบโจทย์ความต้องการ 3 เรื่องหลัก ๆ ได้แก่
- Speed: สะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องรอพนักงานให้เสียเวลา หรือเตรียมเอกสารให้ยุ่งยาก เพราะทุกกระบวนการเดินหน้าได้แบบเรียลไทม์อย่างมีประสิทธิภาพ
- Accuracy: ไม่ต้องกลัวผิดพลาดจาก Human Error เพราะเพิ่มความชัดเจนและความโปร่งใส เพื่อความพึงพอใจสูงสุดของผู้บริโภค
- Safety: หมดห่วงเรื่องความปลอดภัย ไร้การสัมผัส เพราะสามารถจัดการทุกอย่างได้ด้วยตนเอง
ส่วนด้านความแม่นยำ แอปพลิเคชัน MARS Inspect ได้นำ AI มาเรียนรู้และทดสอบระบบอย่างจริงจัง โดยการนำภาพจากฐานข้อมูลจริงที่ประกอบไปด้วยจำนวนภาพชิ้นส่วนของรถมากกว่า 100 ชิ้นส่วน และภาพตรวจสภาพรถกว่า 100,000 ภาพ มาวิเคราะห์เพื่อระบุชิ้นส่วนและสภาพของรถ จึงส่งผลให้การระบุชิ้นส่วนและสภาพรถมีความถูกต้องแม่นยำสูงกว่า 90%
ถือเป็นการสร้างสิ่งใหม่ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคในยุค Next Normal ที่ทำให้ชีวิตง่ายขึ้นกว่าเดิม การขับเคลื่อนในครั้งนี้จึงนับเป็นส่วนสำคัญในการพลิกโฉมธุรกิจประกันภัยรถยนต์อย่างมาก โดยเป็นครั้งแรกของธุรกิจที่ได้นำ AI หรือ Artificial Intelligence เข้ามามีบทบาทในการเชื่อมต่อบริการของแบรนด์เข้ากับลูกค้า และช่วยยกระดับประสบการณ์การทำประกันภัยของคนไทยให้ดียิ่งขึ้น พร้อมสร้างมาตรฐานใหม่ให้ธุรกิจประกันรถยนต์ไทย ให้ก้าวสู่ยุคของ InsurTech อย่างเต็มรูปแบบ
MARS Inspect เติมเต็ม “ประกันรถเปิดปิด” ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
เมื่อมองถึงกลยุทธ์ทางการตลาดของประกันภัยไทยวิวัฒน์ การนำเสนอ “MARS Inspect” ผ่านการทำ “ประกันรถเปิดปิด” ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการสร้างประสบการณ์ที่ดีในการทำประกันภัยให้กับผู้บริโภคอย่างแท้จริง ซึ่งจะทำให้ผู้สนใจใช้ประกันรถเปิดปิดสามารถดำเนินการตรวจสภาพรถยนต์ด้วยตัวเองได้อย่างแม่นยำ หมดปัญหาความผิดพลาดที่เกิดจากบุคคล (Human Error) และช่วยให้การทำประกันภัยรวดเร็วขึ้นถึง 10 เท่าเมื่อเทียบกับการทำประกันภัยในรูปแบบปกติ สอดรับกับจุดแข็งของโปรดักส์ที่สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคในยุค Next Normal อย่างตรงจุดอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น
– ลดค่าใช้จ่าย: หลักง่าย ๆ ของ “ประกันรถเปิดปิด” คือ ขับแค่ไหน จ่ายแค่นั้น และสามารถเติมชั่วโมงได้เอง Top-Up ได้อิสระ ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าเบี้ยได้สูงสุดถึง 70% เมื่อเทียบกับการจ่ายค่าเบี้ยประกันรถยนต์รายปีทั่วไป แบ่งเบาค่าใช้จ่ายในยุคข้าวยากหมากแพงแบบนี้ได้เป็นอย่างดี
– คุ้มครองตลอด 24 ชั่วโมง: มอบความคุ้มครองตลอดเวลาแม้ประกันจะปิดอยู่ หรือในขณะที่จอดรถไว้ตามแผนประกันที่เลือก ที่สำคัญยังครอบคลุมทุกความต้องการ ทั้งประกันชั้น 1 ชั้น 2+ และชั้น 3+ ไม่ต่างจากประกันรถยนต์ทั่วไป
– ใช้เทคโลยีเพิ่มความสะดวก: หมดกังวลเรื่องการเปิดปิดประกันเพราะมีตัวช่วยอย่าง TVI Connect อุปกรณ์เปิดปิดอัจฉริยะ เพียงแค่สตาร์ตหรือดับเครื่องยนต์ประกันก็เปิดปิดให้อัตโนมัติ ซึ่งทำให้สะดวกในการใช้งาน
และยังมีบริการแจ้งอุบัติเหตุผ่านแอปฯ ที่รวดเร็ว พร้อมติดตามได้แบบเรียลไทม์ บริการค้นหาอู่ ศูนย์ซ่อม และโรงพยาบาลใกล้เคียง รวมถึงยังสามารถต่ออายุประกัน หรือรับสิทธิพิเศษต่าง ๆ ผ่านแอปฯ ได้เลย ถือเป็น Option เสริมที่ลงตัวเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนไทยในยุคนี้มาก ๆ
นอกจากนี้ ยังได้ออกแบบความคุ้มครอง ประกันรถเปิดปิด Home Plus สามารถเลือกเพิ่มความคุ้มครองบ้าน เสมือนดูแลครบจบทั้งรถและบ้าน ในราคาเบา ๆ และ ประกันรถเปิดปิด Pet Plus เพิ่มความคุ้มครองสัตว์เลี้ยง ซึ่งเป็นเหมือนสมาชิกอีกคนหนึ่งของครอบครัว ในขณะโดยสารรถยนต์
ซึ่งทั้งหมดนับว่าเป็นการทำการบ้านมาเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคใหม่อย่างครอบคลุมทุกความต้องการอย่างแท้จริง พร้อมมอบประสบการณ์วิถีชีวิตของผู้คนแบบไร้รอยต่อ (Seamless Experience) ได้ยอดเยี่ยมมาก ๆ
สรุป
การขับเคลื่อนนวัตกรรมที่มอบประสบการณ์เหนือระดับให้กับผู้บริโภคของ “ประกันภัยไทยวิวัฒน์” ในครั้งนี้ ถือเป็นคือการเปิดประตูสู่ยุค InsurTech อย่างเต็มรูปแบบ
ภายใต้วิสัยทัศน์การเป็น Deep Tech Company ระดับแนวหน้าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น การนำระบบ AI มาช่วยให้ผู้บริโภคสามารถตรวจสภาพรถยนต์ได้ด้วยตัวเองแบบง่าย ๆ พร้อมผลการวิเคราะห์ที่ชัดเจนนั้น คงเป็นเพียงก้าวแรกเท่านั้น มั่นใจว่าในอนาคต AI จะสามารถพัฒนาต่อยอดไปยังบริการอื่น ๆ ของ MARS ในทุก ๆ Journey พร้อมด้วยโซลูชันใหม่ ๆ ที่จะมาเปลี่ยนประสบการณ์การใช้ชีวิตของลูกค้าและผู้ใช้งาน ให้ดีขึ้น ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น ซึ่งต้องบอกว่าน่าติดตามและน่าตื่นใจมาก ๆ และที่สำคัญยังเป็นการพลิกโฉมอุตสาหกรรมประกันภัยบ้านเราไปอีกขั้นอย่างแท้จริง
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสัมผัสประสบการณ์การทำประกันรถยนต์ในรูปแบบใหม่ ผ่านประกันรถเปิดปิดไทยวิวัฒน์ ได้ที่ www.thaivivat.co.th หรือคลิก https://thaivivat.info/376uyMY หรือ โทร.02-200-7000 หรือเช็กเบี้ยผ่าน LINE Official: Thaivivat Insurance หรือ LINE ID: @thaivivat
–
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ