โศกนาฏกรรมในสถานศึกษาสหรัฐฯ ครั้งล่าสุดสร้างความกังวลให้บรรดาผู้ปกครอง จนต้องหาทางป้องกันไม่ให้ลูกหลานต้องเสียชีวิตจากคมกระสุนของคนร้าย
ยอดขายกระเป๋าเป้กันกระสุนหรือที่สามารถใส่แผ่นป้องกันเสริมเข้าไปได้ในหลายพื้นที่ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นถึง 300% หลังเหตุกราดยิงที่โรงเรียนในรัฐเทกซัสจบลงอย่างสะเทือนใจด้วยผู้เสียชีวิต 21 คน ซึ่งในจำนวนนี้ส่วนใหญ่เป็นเด็กวัยประถมเท่านั้น
ไม่ว่าจะพยายามแก้ไขอย่างไรแต่รัฐบาลท้องถิ่นและรัฐบาลกลางของสหรัฐฯ ก็ยังแก้ปัญหาเหตุกราดยิงในโรงเรียนไม่ตก โดย 15 ปีที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ที่กลายเป็นข่าวใหญ่สร้างความตระหนกตกใจไปทั่วประเทศ 2 ครั้ง
คือเหตุการณ์ที่โรงเรียนอาชีวะ Virginia Tech เมื่อปี 2007 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 33 คน และเหตุการณ์ที่โรงเรียนประถม Sandy Hook ที่มีผู้เสียชีวิต 28 คนตามลำดับ แต่ปีนี้ก็เกิดเหตุสะเทือนขวัญในแวดวงการศึกษาสหรัฐฯ ขึ้นอีก
24 พฤษภาคม ประวัติศาสตร์ก็ซ้ำรอย มีผู้เสียชีวิตรวม 22 คนจากเหตุกราดยิงที่โรงเรียน Robb Elementary โดย 19 คนเป็นเด็กนักเรียน ถือเป็นเหตุกราดยิงในโรงเรียนที่มีผู้เสียชีวิตมากสุดของรัฐเทกซัส
เหตุการณ์นี้สร้างแรงกระเพิ่มในสหรัฐฯ โดย Netflix สั่งให้ทีมผู้สร้าง Stranger Things ขึ้นเตือนฉากรุนแรงในซีซั่น 4 ของเรื่องนี้ที่ปล่อยสตรีมไม่กี่วันหลังจากนั้น
ล่าสุดเหตุสะเทือนขวัญที่โรงเรียน Robb Elementary ยังทำให้ยอดขายกระเป๋าเป้กันกระสุนหรือที่สามารถใส่แผ่นป้องกันเสริมเข้าไปได้ในรัฐเทกซัสกับโอไฮโอ ทั้งตามห้างค้าปลีกอย่าง Office Depot และ Bed Bath and Beyond รวมไปถึงในช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้นถึง 300%
แม้ราคากระเป๋าเป้ประเภทนี้จะอยู่ที่ระหว่าง 99-490 ดอลลาร์ (ราว 3,370 ถึง 16,000 บาท) ซึ่งถือว่าแพงกว่ากระเป๋าเป้ทั่วไปอย่างมาก แต่ผู้ปกครองเด็กนักเรียนในสหรัฐฯ ก็พร้อมจ่าย เพื่อป้องกันให้ลูกหลานรอดชีวิตจากเหตุการณ์แบบนี้ และเฉพาะปีนี้ก็เกิดขึ้นแล้ว 27 ครั้ง ใกล้แซงจำนวน 34 ครั้งของปี 2021 เข้าไปทุกที
ด้านผู้บริหารของบริษัทผู้ผลิตกระเป๋ากันกระสุนรายหนึ่ง กล่าวว่า กระอักกระอ่วนที่ยอดขายเพิ่มขึ้นจากเหตุกราดยิงในโรงเรียน แต่ก็เข้าใจได้ว่าผู้ปกครองก็คงไม่อยากให้บุตรหลายตนเป็นศพต่อไปหากเกิดเหตุกราดยิงในโรงเรียนขึ้นอีก/nbcnews, businessinsider
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline



