PTG ปี 2565 ยอดขายน้ำมันผ่านสถานีบริการ PT สูงสุดเป็นประวัติการณ์ 5.3 พันล้านลิตร ตั้งเป้าสู่เบอร์ 2 ของตลาด ด้วยแชร์ยอดขาย 25% ภายใน 5 ปี ส่วน Non-Oil ปิดพอร์ตรวม รายได้เติบโต 68% YoY
นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จํากัด (มหาชน) หรือ PTG เผยในงานแถลงข่าวใหญ่ประจำปี 2566 หรือ PTG Business Outlook : Drive for Tomorrow
เริ่มจากผลการดำเนินงาน ปี 2565 ที่ผ่านมา PTG มียอดขายในกลุ่มธุรกิจน้ำมัน (Oil) สูงสุดเป็นประวัติการณ์ อยู่ที่ 5,316 ล้านลิตร เติบโตขึ้น 5.9% YoY แบ่งเป็นส่วนการเติบโตของช่องทางค้าปลีก ผ่านสถานีบริการน้ํามัน PT 6.5% YoY
ส่วนของกลุ่มธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน (Non-Oil) ทาง PTG มีการเติบโตในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นจํานวน Touchpoint ที่เติบโต 36% YoY และมี CAGR 5 ปีเฉลี่ยสะสมที่ 34%
รายได้เติบโต 68% YoY และ CAGR 5 ปี ที่ 37% กําไรขั้นต้น ที่เติบโต 50% YoY และ CAGR 5 ปี ที่ 36% และสัดส่วนกําไรขั้นต้นที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดย ณ สิ้นปี 2565 มีสัดส่วนกําไรขั้นต้นในธุรกิจ Non-Oil ที่ 18.5%
สรุปพอร์ตธุรกิจของ PTG ณ สิ้นปี 2565 กลุ่มธุรกิจน้ำมัน (Oil) มีสถานีบริการน้ํามัน PT อยู่ที่ 2,149 สถานี แบ่งเป็น สถานีบริการฯ ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ PTG (COCO) จํานวน 1,809 สถานี และสถานีบริการฯ ที่เป็นของผู้ประกอบการที่ได้รับสิทธิ์จาก PTG (DODO) จํานวน 340 สถานี
กลุ่มธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน (Non-Oil) สาขาของธุรกิจ 1,526 สาขา แบ่งเป็น 1. ร้านกาแฟพันธุ์ไทย จํานวน 511 สาขา, 2. ธุรกิจ LPG แบ่งเป็น สถานีบริการ Auto LPG จํานวน 231 สถานีบริการ และร้านจําหน่ายก๊าซ LPG บรรจุถัง (Gas Shop) จํานวน 253 สาขา
3. ร้านสะดวกซื้อ Max Mart จํานวน 309 สาขา, 4. ร้านคอฟฟี่ เวิลด์ จํานวน 26 สาขา, 5. ศูนย์บริการซ่อมแซมและบํารุงรักษารถยนต์ Autobacs จํานวน 45 สาขา, 6. ศูนย์เปลี่ยนถ่ายน้ํามัน Maxnitron Lube Change จํานวน 52 สาขา, 7. จุดพักรถ Max Camp จํานวน 64 จุด และ 8. สถานีอัดประจุไฟฟ้า (EV Charging) อย่าง Elex by EGAT Max จํานวน 35 จุดชาร์จ
นอกจากนี้ ปีที่ผ่านมา PTG ยังมีการออกแอปพลิเคชัน Max Me ที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งของพอร์ต Oil และ Non-Oil เพราะเข้ามาตอบโจทย์ลูกค้าสมาชิกบัตร PT Max Card ที่มีอยู่ในปัจจุบัน กว่า 19 ล้านสมาชิก ให้สามารถทําธุรกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการสะสมแต้มเสมือนบัตร PT Max Card อีกทั้งยังมีฟังก์ชัน E-Wallet ให้สามาถใช้จ่ายผ่านโทรศัพท์มือถือในยุคดิจิทัลไลฟ์สไตล์ สอดคล้องกับยุคสังคมไร้เงินสด
แผนการดำเนินงานของ PTG ตั้งเป้าหมายมียอดขายน้ำมันผ่านสถานีบริการน้ํามัน กว่า 25% หรือเบอร์ 2 ผู้จำหน่ายน้ำมันค้าปลีกรายใหญ่สุดในไทย ภายใน 5 ปี ด้วยการยกระดับสถานีบริการน้ํามัน PT ใน 3 มิติ ได้แก่ 1. เดินหน้าขยายสาขาทั้งหมด สู่ 2,206 สาขา ในปี 2566, 2. จัดตั้ง PT Service Master และ Max Cam โดยให้บริการฟรีสําหรับ สมาชิก Max Card และ 3. รวบรวมความต้องการของกลุ่มลูกค้าต่าง ๆ ผ่านทางฐานสมาชิก Max Card, Max Card Plus, Max Me และ Max Enterprise Connect เพื่อนําเสนอบริการให้ตรงใจลูกค้าที่สุด
ขยายฐานสมาชิก Max Card และ Max Card Plus เป็น 30 ล้านสมาชิกในอีก 5 ปีข้างหน้า เพราเป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า เพิ่มยอดขาย และเพิ่มความถี่ของการเข้ามาใช้บริการธุรกิจในเครือเพิ่มมากขึ้น
นอกจากนี้ PTG ยังมีแอปพลิเคชัน Max Me ที่ช่วยต่อยอดฐานสมาชิกในโลกออนไลน์ โดยภายในปี 2566 คาดว่าลูกค้าจะสามารถชําระเงินผ่าน Max Me กับ Partner ของ PTG กว่า 1 ล้าน Touchpoints
เพิ่มจํานวนสาขากาแฟพันธุ์ไทยกว่า 5,000 สาขา ภายใน 5 ปีข้างหน้าเช่นกัน ด้วยแผนกลยุทธ์ 4 ด้าน คือ 1. ขยายสาขาในรูปแบบ แฟรนไชส์ ทั้งภายในและนอกสถานีบริการน้ํามัน, 2. รังสรรค์เครื่องดื่มใหม่ ๆ จากวัตถุดิบคุณภาพทั่วไทย, 3. เน้นแพลตฟอร์มเดลิเวอรีมากขึ้น และ 4. นำฐานข้อมูลจากลูกค้าบัตรสมาชิก PT Max Card และ PT Max Card Plus มาใช้วิเคราะห์พฤติกรรมการบริโภคของลูกค้า เพื่อปรับปรุงการบริการให้ดีขึ้น
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline



