ทุกบริษัทล้วนอยากประสบความสำเร็จไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง โดยถ้าวัดกันด้วยตัวเลขคือยอดขายหรือยอดดาวน์โหลด ถ้าวัดด้วยชื่อเสียงคือเรื่องความรู้จัก
ส่วนถ้าจะให้สุดยอดกว่านั้นคือดังในระดับโลกจนทำให้คนในประเทศได้ภาคภูมิใจ
Rovio คือหนึ่งในไม่กี่บริษัทของฟินแลนด์ที่ประสบความสำเร็จเหล่านี้ได้ทั้งหมด ผ่านการพัฒนา Angry Birds เกมบน Mobile device ระดับปรากฏการณ์ ด้วยยอดดาวน์โหลดทะลุ 1,000 ล้านครั้งได้เป็นเกมแรกขึ้นมา
ความน่าสนใจของ Rovio ยังอยู่ที่เป็นบริษัทฟินแลนด์ ประเทศขนาดไม่ได้ใหญ่โตอะไรและมีประชากรเพียงเกือบ 6 ล้านคน แต่คุณภาพคับแก้ว บ้านเกิดของ Nokia ขึ้นชื่อเรื่องความเป็นเลิศทางการศึกษา
และคว้าตำแหน่งประเทศที่ประชากรมีความสุขที่สุดในโลกมาได้หลายปี
แต่คอ Mobile game และผู้ติดตามข่าวสารในแวดวงเทคโนโลยีคงรู้ดีว่า Rovio คือบริษัทที่มีปัญหาซ่อนอยู่ ไม่ต่างจากเกมติดบั๊กหรือเขียนโค้ดมาไม่ดี เกือบล้มละลายมาแล้ว ซ้ำร้ายยังแก้ปัญหาไม่ตกเสียที และมีข่าวว่ากำลังอยู่ระหว่างขายกิจการอีกด้วย
Rovio ก่อตั้งเมื่อปี 2003 โดยเพื่อนนักศึกษาร่วมมหาวิทยาลัยเฮลซิงกิ 3 คน หลังคว้าเงินรางวัลจากการแข่งขันพัฒนา ซึ่งหนึ่งในสปอนเซอร์คือ Nokia บริษัทเก่าแก่ของฟินแลนด์ซึ่ง ณ เวลานั้นยังดังคับโลกในฐานะแบรนด์โทรศัพท์เคลื่อนที่ยอดขายมหาศาล
ทว่าเมื่อลงสนามธุรกิจทั้ง 3 กลับประสบปัญหา เพราะสร้างเกมที่ดังไม่ได้เสียที ตรงข้ามกับสมัยคว้าแชมป์แข่งขันพัฒนาเกม ฉุด Rovio ทรุดลงเรื่อย ๆ และใกล้ล้มละลาย แต่สถานการณ์เกิดพลิก หลังเกมที่ 52 ของบริษัทออกวางตลาดในปี 2009
Angry Birds ฮิตเกินคาด ยอดดาวน์โหลดทะลุ 1,000 ล้านครั้ง ทำให้กลับมาเป็นบริษัทที่ไฟโชติช่วง ตรงตามชื่อที่หมายถึงกองไฟในภาษาฟินแลนด์ได้จริง ๆ เสียที
ถัดจากนั้นสถานการณ์ของ Rovio ยังคงขึ้น ๆ ลง ๆ โดยปี 2015 เจอวิกฤตอีกครั้งจนต้องปลดพนักงานไป 1 ใน 3 พอปี 2016 ก็ฟื้นกลับขึ้นมา หลังหนัง Angry Birds ฮิตสุด ๆ ทำเงินทั่วโลกได้ถึง 350 ล้านดอลลาร์ (ราว 11,900 ล้านบาท)
จนต่อยอดสู่ IPO และดันมูลค่าบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 988 ล้านดอลลาร์ (ราว 33,800 ล้านบาท) ในปีต่อมา
แต่ Rovio ก็ยังคงต้องพึ่ง Angry Birds อย่างมาก และจมอยู่กับการเป็นบริษัทไอเดียตัน พัฒนาเกมฮิตเกมใหม่ ๆ ออกมาไม่ได้เสียที
ปี 2022 ทำกำไรได้อย่างน่าผิดหวัง พอต้นปีนี้ก็มีข่าวว่ากำลังพิจารณาดีลซื้อกิจการมูลค่า 749 ล้านดอลลาร์ (ราว 25,600 ล้านบาท) จากค่ายเกม Playtika ของอิสราเอล
แม้ดีลกับ Playtika ล่มไปแต่สถานการณ์ของ Rovio ก็ยังไม่ดีขึ้น และชัดเจนแล้วว่าต้องย้ายไปอยู่ใต้ชายคาบริษัทใหญ่เพื่อความอยู่รอด
15 เมษายนที่ผ่านมา มีข่าวว่า Rovio กำลังพิจารณาดีลซื้อกิจการมูลค่า 770 ล้านดอลลาร์ (ราว 26,400 ล้านบาท) จาก Sega บริษัทญี่ปุ่นที่เคยดังในฐานะผู้ผลิต Mega Drive เครื่องเกมแบบคอนโซล อดีตคู่แข่งของ Nintendo
และบ้านของ Sonic คาแรกเตอร์เม่นสีน้ำเงินจากเกม คู่แข่งคาแรกเตอร์หนุ่มช่างประปาในชุดแดงจากเกมที่คนทั่วโลกรู้จักในชื่อ Mario
ที่สุด Rovio ก็รับดีลนี้ ทำให้ Angry Birds ย้ายไปอยู่รังเดียวกับ Sonic โดยนี่ถือเป็นดีลแบบ Win Win เพราะความกังวลของ Rovio เรื่องสถานะทางการเงินก็จะลดลงไป และสามารถหันมาทุ่มเวลาปั้นเกมฮิตเกมใหม่ ถัดจาก Angry Birds ได้อย่างเต็มที่
ส่วนฝ่าย Sega ก็จะได้เปิดทางลัดในการกลับสู่ตลาดเกม ซึ่งปัจจุบันเรียกรวมว่า Gaming ที่มีแต่จะยิ่งโตขึ้น ๆ ท่ามกลางคาดการณ์ว่าปี 2026 มูลค่าตลาด Gaming ทั่วโลกจะเพิ่มเป็น 263,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 9 ล้านล้านบาท) ผ่านองค์ความรู้ของ Rovio
และช่วยให้ Sega ตามคู่แข่งทัน เพราะปัจจุบัน Sega ได้กลายเป็นบริษัทใหม่ในชื่อ Sega Sammy หลังควบรวมกับ Sammy บริษัทเกมตู้และตู้ปาจิโกะญี่ปุ่นมาตั้งแต่ปี 2004
ขณะเดียวกันนี้ยังช่วยให้ Sega ทำเงินจากลิขสิทธิ์คาแรกเตอร์ Angry Birds อีกด้วย โดยมีของแถมคือความเป็นไปได้ในการที่ Angry Birds กับ Sonic อาจอยู่ในหนังเรื่องเดียวกัน
เรื่องราวของ Rovio ยังแสดงให้เห็นว่า หากไม่สามารถยืนได้ด้วยตัวเอง ไม่ว่าด้วยสาเหตุใดก็ตาม ที่สุดก็ต้องย้ายไปอยู่ใต้ชายคาบริษัทอื่น เหมือนที่ Bungie กับ ActivitionBlizzard ถูก Sony กับ Microsoft ฮุบไปในปี 2022
ข่าว Rovio ยังมีอีกประเด็นให้จับตามอง เพราะก่อนหน้านั้นเมื่อปี 2016 Supercell ก็ย้ายไปอยู่ใต้ชาย Tencent จึงทำให้ปัจจุบันบริษัทเกมฟินแลนด์ที่ยังเป็นอิสระและพอเป็นที่รู้จัก เหลือเพียง Remedy บริษัทเจ้าของเกม Max Payne เท่านั้น /japantoday, afp, wikipedia, cnn
–
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ