Real Estate Real Marketing/ศาสตราจารย์วิทวัส รุ่งเรืองผล witawat@tbs.tu.ac.th
หลังวิกฤตโควิด-19 ธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศไทยดูเหมือนจะกลับมาคึกคักเป็นอย่างยิ่ง และหนึ่งในตลาดนักท่องเที่ยวศักยภาพสูงของไทย ได้แก่ ตลาดนักท่องเที่ยวมุสลิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวซาอุดีอาระเบีย ซึ่งถือเป็นตลาดนักท่องเที่ยวมุสลิมที่มีขนาดตลาดใหญ่และมีศักยภาพในการจับจ่ายใช้สอยสูง โดยหลังจากที่สองประเทศมีการฟื้นความสัมพันธ์ทางการทูต ทำให้เชื่อกันว่า นักท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดใหญ่อย่างซาอุดีอาระเบีย จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของตลาดการท่องเที่ยวไทย
ถ้าพิจารณาจากขนาดของตลาดนักท่องเที่ยวมุสลิม ในประเทศเพื่อนบ้านย่านอาเซียน เรามีประเทศที่มีชาวมุสลิมมากที่สุดอย่างอินโดนีเซีย ที่เป็นตลาดใหญ่และน่าสนใจ ส่วนตลาดนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียก็ถือเป็นตลาดที่มีความสำคัญต่อการท่องเที่ยวของไทยมายาวนานโดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวัดทางภาคใต้ของไทย
ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีความเกี่ยวพันกับการท่องเที่ยวสูง ได้แก่ ธุรกิจโรงแรม ซึ่งบ้านเรามีโรงแรมที่มีความหลากหลายและมีระดับค่าบริการที่คุ้มค่า ตอบสนองลูกค้าได้ทุกกลุ่ม แต่การตัดสินใจเลือกโรงแรมสำหรับกลุ่มลูกค้ามุสลิม ซึ่งศาสนาถือเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิต ย่อมมีความแตกต่างจากนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่น ๆ ในช่วงปี 2565-2566 มีนักศึกษาปริญญาโทโครงการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คุณระวีวรรณ ขันติกุลานนท์ ที่ผมรับเป็นที่ปรึกษาอยู่ ทำการศึกษาเกี่ยวกับวิถีชีวิตของชาวมุสลิมในกลุ่มนักท่องเที่ยว ซึ่งในโปรเจกต์จบเธอทำการศึกษาตลาดศูนย์การค้าที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตมุสลิม แต่ในรายงานมีการศึกษาเกี่ยวกับโรงแรมที่เป็นมิตรกับวิถีมุสลิมด้วย ผมเลยขอนำเนื้อหาบางส่วนของรายงานฉบับนี้นำมาอธิบายให้ผู้อ่านเห็นว่า ในการดูแลนักท่องเที่ยวมุสลิมในธุรกิจโรงแรมต้องมีองค์ประกอบใดบ้าง ซึ่งจะนำมาสู่การตัดสินใจเลือกเข้าพักโรงแรมของตลาดลูกค้านักท่องเที่ยวมุสลิม
ลักษณะของโรงแรมวิถีมุสลิม
โรงแรมที่ตอบสนองวิถีมุสลิมมีการแบ่งระดับได้เป็น สองระดับใหญ่ ๆ คือ โรงแรมฮาลาลสมบูรณ์แบบ (Shariah Compliant Hotel) และ โรงแรมที่เป็นมิตรต่อวิถีมุสลิม (Muslim Friendly Hotel) โดยโรงแรมฮาลาลสมบูรณ์แบบในประเทศไทย เท่าที่ทราบมีอยู่เพียงโรงแรมเดียวได้แก่ โรงแรมอัล มีรอซ (Al Meroz) ในย่านรามคำแหง โดยเป็นโรงแรมที่ได้รับมาตรฐาน The Leading Halal Hotel จากองค์กร Gulf Halal ในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ส่วนโรงแรมอื่นที่ไม่ได้มาตรฐานดังกล่าว แต่มีคุณลักษณะที่ตอบสนองวิถีมุสลิมจะถูกเรียกว่าโรงแรมที่เป็นมิตรต่อวิถีมุสลิมหรือ Halal Friendly หรือ Muslim Friendly องค์ประกอบการเป็นโรงแรมวิถีมุสลิมมีอยู่ 7 ด้านใหญ่ ๆ ดังนี้
1. ด้านการปฏิบัติศาสนกิจ โดยในขั้นต้นโรงแรมที่เป็นมิตรต่อวิถีมุสลิม ต้องจัดให้มีสถานที่ละหมาดที่สะอาด มีบริการพรมสำหรับละหมาด หรือห้องสำหรับละหมาดแยกต่างหาก ในห้องอาบน้ำสำหรับการละหมาดต้องมีสายชำระ เพื่อความสะดวกในการทำความสะอาด และต้องมีสัญลักษณ์บอกทิศทางที่ตั้งเมืองเมกกะ
ส่วนบริการด้านการปฏิบัติศาสนกิจที่อาจมีเพิ่มเติม เพื่อให้ระดับความเป็นมิตรต่อวิถีมุสลิมสูงขึ้นอีก ได้แก่ การมีเอกสารบอกที่ตั้งมัสยิด พร้อมเส้นทางสำหรับการเดินทาง การมีบริการชุดสวมเพื่อละหมาด มีตารางเวลาสำหรับการละหมาดในห้องพัก ที่ระบุทั้ง 5 เวลาพร้อมประกาศอะซาน มีอิหม่ามเป็นผู้นำละหมาด มีคัมภีร์อัลกุรอานในห้องพักและไม่มีคัมภีร์ของศาสนาอื่น มีบริการการสนทนาธรรมกับฮัจญีสำหรับผู้เข้าพัก
2. ด้านการให้บริการของพนักงานโรงแรม พนักงานส่วนใหญ่ของโรงแรมควรนับถือศาสนาอิสลาม และแยกเพศพนักงานผู้ให้บริการสำหรับแขกเพศชายและหญิง โดยให้พนักงานที่เพศเดียวกันกับลูกค้าเป็นผู้ดูแลลูกค้า โดยการแต่งกายของพนักงานต้องแต่งกายที่ถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลาม ซึ่งสอดคล้องกับวัฒนธรรมท้องถิ่นนั้น ๆ ซึ่งในประเทศไทยการแต่งกายของชาวมุสลิมอาจมีความแตกต่างจากมุสลิม ในประเทศอื่น
3. ด้านการออกแบบและตกแต่งห้องพัก การตั้งเตียงนอนและห้องน้ำ ภายในห้องพักไม่ควรหันไปทางทิศของเมืองเมกกะ อีกทั้งภาพที่ตกแต่งภายในห้องพักไม่ควรเป็นภาพคนหรือสัตว์ โดยภาพที่เป็นสัญลักษณ์ของมุสลิมส่วนใหญ่จะออกแนวกราฟิก หรือรูปแบบทรงเรขาคณิต และภายในห้องพักมีเครื่องหมายบอกทิศเมืองเมกกะ ห้องพักของโรงแรมต้องมีการแยกชั้นพักอาศัยระหว่างลูกค้าชายและหญิง ไม่ให้อยู่ร่วมในชั้นเดียวกัน
4. ด้านอุปกรณ์ภายในห้องพัก ภายในห้องพักต้องไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อีกทั้งอุปกรณ์สำหรับทำความสะอาดร่างกายในห้องน้ำ เช่น สบู่ ยาสีฟัน แชมพู ต้องไม่มีส่วนผสมที่เป็นสารสกัดจากสัตว์ ในส่วนของน้ำยาบ้วนปาก ต้องเป็นสูตรที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์
5. ด้านบริการช่วงถือศีลอด บริการขั้นพื้นฐานโรงแรมต้องจัดให้มีอาหารให้บริการของห้องพัก ก่อนช่วงเวลาเช้า หรือมีอาหารที่เพียงพอ ภายในห้องอาหาร ในช่วงเวลาที่สามารถรับประทานอาหารได้ ส่วนบริการในระดับที่สูงกว่านั้นคือการมีผู้นำละหมาดตะรอเวียะห์
6. ด้านการเงิน สิ่งที่ควรมีสำหรับบริการทางการเงินในโรงแรม คือมีจุดบริการด้านการเงินอิสลาม และมีการตั้งบริจาครับจ่ายซะกาต
7. ด้านอื่น ๆ ประกอบด้วย
-
- ด้านอาหาร มีอาหารฮาลาลไว้ให้บริการ และต้องไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในห้องอาหาร รวมถึงควรมีเครื่องหมายหรือป้ายแสดงความเป็นฮาลาล หัวข้อนี้ถือเป็นหัวข้อการบริการขั้นพื้นฐาน ส่วนในหัวข้ออื่น ๆ นอกจากด้านอาหารถือเป็นบริการที่ตอบสนองวิถีมุสลิมในระดับที่สูงขึ้น ได้แก่
- ด้านสิ่งบันเทิงในห้องพัก มีบริการช่องโทรทัศน์ที่เหมาะสม และไม่มีช่องที่ขัดต่อหลักทางศาสนา
- ด้านสิ่งอำนวยความสะดวก มีบริการสระว่ายน้ำ และสปาที่แยกบริการระหว่างผู้ชายและผู้หญิง
- มีเอกสารแสดงจุดที่ตั้งของสถานที่ที่ไม่เหมาะสมกับวิถี มุสลิมที่อยู่ในบริเวณชุมชนรอบโรงแรม
ผมเคยมีโอกาสเข้าไปพักและใช้บริการโรงแรมอ่าวนางปริ้นซ์วิลล์ ที่จังหวัดกระบี่ โดยโรงแรมดังกล่าวผู้บริหารเป็นมุสลิม และจัดอยู่ในประเภทของโรงแรมที่เป็นมิตรต่อวิถีมุสลิม และได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้บริหารโรงแรม ถึงแนวปฏิบัติของการเป็นโรงแรมที่เป็นมิตรต่อวิถีมุสลิมว่ามีปัญหากับแขกกลุ่มที่ไม่ใช่มุสลิมหรือไม่อย่างไร และมีแนวปฏิบัติอย่างไร โดยเฉพาะโรงแรมในแหล่งท่องเที่ยวอย่างกระบี่ที่มีชาวยุโรปเข้าพัก และนิยมดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระหว่างรับประทานอาหารก็ได้คำตอบว่า ในพื้นที่ห้องอาหารเนื่องจากเป็นโซนฮาลาลจะไม่อนุญาตให้นำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้ามาดื่มในห้องอาหาร และโรงแรมจะไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จำหน่าย แต่อนุญาตให้ลูกค้าซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากภายนอกเข้ามาดื่มภายในห้องพัก หรือบริเวณด้านนอกห้องอาหาร เช่น บริเวณสระว่ายน้ำได้
ด้านการปรุงอาหาร มาตรฐานการบริการอาหารฮาลาลเพื่อการท่องเที่ยวของกลุ่มการท่องเที่ยวร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยไม่ได้บังคับว่า ผู้ประกอบอาหารต้องเป็นมุสลิม แต่หากผู้ประกอบอาหารไม่ได้เป็นมุสลิมต้องมีพนักงานมุสลิมอย่างน้อยหนึ่งคนเป็นผู้ควบคุมการจัดซื้อเตรียมและปรุงอาหาร เพื่อให้แน่ใจว่าจัดการอาหารได้ถูกต้องตามหลักทางศาสนา และสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า โดยวัตถุดิบก็ต้องผ่านการรับรองมาตรฐานฮาลาลด้วย
โรงแรมที่มีบริการด้านสปา แนวทางการให้บริการสปาแบบฮาลาลก็ยึดตามหลักศาสนาอิสลาม เช่น เครื่องสำอางที่ประกอบในการให้บริการสปาต้องไม่มีส่วนผสมจากสัตว์ เช่น คอลลาเจน (Collagen) เจลาติน (Gelatin) สารกลีเซอรีน (Glycerin) เคอราติน (Keratin) และไขมันสัตว์ (Tallow) ต้องมีผ้าคลุมผมไว้ให้บริการสำหรับลูกค้าสตรี
ด้านสถาปัตยกรรมการออกแบบโรงแรมตามแนวทางของศาสนาอิสลาม ให้หลีกเลี่ยงการมีภาพคนหรือสัตว์ ตามหลักทางศาสนาที่ให้มีรูปเคารพ โดยลวดลายสำหรับการตกแต่งทางสถาปัตยกรรม นิยมใช้ลายอักษรประดิษฐ์ (Calligraphy) ลายอาราเบสก์หรือลายพรรณพฤกษา (Arabesque; Floral design) และลายเรขาคณิต (Islamic Geometry) เป็นหลักในการออกแบบ
อธิบายมาทั้งหมดคงพอเห็นแนวทางในการปรับปรุงหรือพัฒนาโรงแรม เพื่อตอบสนองวิถีมุสลิมแล้วนะครับ โรงแรมที่เป็นมิตรต่อวิถีมุสลิมไม่ได้จำกัดเฉพาะแค่ลูกค้ากลุ่มมุสลิมเท่านั้น แต่ยังเปิดกว้างให้กับลูกค้า ทั่วไปเข้ามาใช้บริการได้ด้วย เพียงแต่มีข้อจำกัดที่เกี่ยวข้องกับอาหารและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ค่อนข้างเข้มงวดและแตกต่างจากโรงแรมทั่วไป สำหรับประเทศไทยต้องถือว่าตลาดการท่องเที่ยวของเราเปิดกว้างและเป็นมิตรกับคนทุกกลุ่ม โดยจากข้อมูล Global Muslim Travel Index: GMTI 2022 ประเทศไทยอยู่ในอันดับ 3 ของประเทศที่ไม่เป็นสมาชิกองค์การความร่วมมืออิสลาม (Non-OIC) ที่ได้รับความนิยมในการเป็นจุดหมายปลายทางที่เป็นมิตรต่อนักท่องเที่ยวมุสลิม โดยประเทศที่มีอันดับดีกว่าเรา ได้แก่ สิงคโปร์และไต้หวัน คงพอจะเห็น โอกาสจากตลาดนักท่องเที่ยวมุสลิมทั่วโลก แล้วใช่ไหมครับ สำหรับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ประเภทโรงแรม การปรับเปลี่ยนโรงแรม ให้เป็นมิตรต่อวิถีมุสลิมน่าจะช่วยเพิ่มโอกาสในการขยายลูกค้าให้มากขึ้นโดยเฉพาะโรงแรมที่ตั้งอยู่ในย่านแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากชาวมุสลิม สำหรับโรงแรมทั่วไปที่ไม่ได้ประกาศตัวเป็นโรงแรมที่เป็นมิตรต่อวิถีมุสลิมการเข้าใจธรรมชาติวิถีชีวิตของนักท่องเที่ยวมุสลิม ก็อาจช่วยให้บริการลูกค้ามุสลิมได้อย่างเข้าอกเข้าใจมากขึ้นครับ
–
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ