ไม่ว่าแบรนด์หรือบริษัทไหน ๆ หากเลือกได้ก็คงไม่อยากรับมือเหตุการณ์ไม่คาดคิด เพราะต้องเหนื่อยกับการหาทางแก้ เครียดอีกพักใหญ่กว่าจะพ้นไปได้

ซ้ำร้ายตลอดการกู้สถานการณ์ยังถูกลูกค้าจับตามองและแสดงความคิดเห็นทั้งบวกและลบได้แค่สัมผัสหน้าจอ Device คู่ใจอีก ซึ่งถ้าเป็นอย่างหลังจะยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลง 

วงการเชนร้านซูชิจานหมุนญี่ปุ่นเข้าใจเรื่องนี้ดี เพราะขณะที่กำลังจะเดินหน้าต่อหลังประคองตัวฝ่าวิกฤตโควิดมาได้ ท่ามกลางนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เริ่มกลับเข้ามา ก็ต้องมาเคราะห์ซ้ำกรรมซัดกับวัยรุ่นตัวแสบทำคลิปไวรัลเลียจาน จนลูกค้าไม่กล้าเข้าร้านอีก  

เหตุการณ์นี้สะเทือนไปทั้งญี่ปุ่น และแน่นอนว่าเขย่าธุรกิจร้านอาหารจากภูมิปัญญาชาวญี่ปุ่นที่สร้างชื่อไปทั่วโลกอย่างมาก

Yoshiaki Shiraishi

เรื่องราวของซูชิจานหมุนเริ่มขึ้นกลางยุค 50 หลัง Yoshiaki Shiraishi ทหารญี่ปุ่นที่อยากมีธุรกิจและสร้างเนื้อสร้างตัวหลังปลดประจำการ ที่ไปเห็นสายพานในโรงงานเบียร์ Asahi ช่วงดูงาน โดยเขาคิดว่าน่าจะเอามาปรับใช้ในร้านซูชิเพื่อทำให้ต้นทุนในร้านทั้งหมดถูกลง จนราคาซูชิที่เคยเป็นอาหารราคาแพงเข้าถึงได้มากขึ้น

หลังนำไอเดียนี้ไปพัฒนาต่อปี 1958 Yoshiaki Shiraishi ก็เปิดร้านซูชิจานหมุนชื่อ Genroku Sangyo ขึ้น แต่ช่วงแรกยังไม่เป็นที่รู้จัก ทำให้ต้องล้มลุกคลุกคลานอยู่พอสมควร

งาน World Expo ที่โอซากาปี 1970

สถานการณ์ของร้าน Genroku Sangyo ดีขึ้นหลังได้ไปออกงาน World Expo ที่โอซากาปี 1970 ซึ่งร้านจานด่วนของสหรัฐฯ อย่าง McDonald’s และ KFC มาร่วมงานด้วย

ข้ามมาสู่ยุค 80 ร้านซูชิจานหมุนที่เรียกอีกชื่อว่าซูชิสายพาน ก็ผุดขึ้นราวดอกเห็ดทั่วญี่ปุ่นเพื่อรับยุคที่ญี่ปุ่นพัฒนาสู่ความทันสมัย ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ขยายตัว โดยหนึ่งในร้านซูชิจานหมุนที่เปิดช่วงนี้คือ Sushiro

ล่วงมาสู่ปี 2000 ร้านซูชิจานหมุนก็กระจายไปทั่วญี่ปุ่น ด้วยจำนวนสาขามากถึง 2,400 แห่ง และมีเงินสะพัดในธุรกิจนี้สูงถึง 2,100 (ราว 77,600 ล้านบาทตามค่าเงินปัจจุบัน) แต่ปีต่อมา Yoshiaki Shiraishi ที่ได้ชื่อว่า บิดาของวงการซูชิจานหมุนก็เสียชีวิตด้วยวัย 87 ปี พร้อมขาลงของร้าน Genroku Sangyo ที่ ณ เวลานั้นเหลือสาขาอยู่ไม่มากแล้ว

ปี 2019 ร้านซูชิจานหมุนก็มีเปิดกันอยู่ทั่วโลก ย้ำ Soft power ด้านอาหารของญี่ปุ่น และเฉพาะบ้านเกิดอย่างญี่ปุ่นถือเป็นธุรกิจใหญ่ ยืนยันได้จากมูลค่าตลาดที่สูงถึง 5,700 ล้านดอลลาร์ (ราว 210,000 ล้านบาท) แต่หลังโควิดระบาดและลากยาวมาถึงสิ้นปี 2022 ทำให้ร้านซูชิจานหมุนสะบักสะบอม

เข้าสู่ปี 2023 ร้านซูชิจานหมุนทั่วญี่ปุ่นต่างดีใจที่ได้กลับมาเปิดได้เต็มรูปแบบและหวังว่ายอดขายจะพุ่งขึ้น ท่ามกลางนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เริ่มหลั่งไหลเข้ามา แต่ก็มีเรื่องที่ทำให้ต้องฝันสลาย

ช่วงกุมภาพันธ์ เด็กหนุ่มมัธยมปลายโพสต์วิดีโอเลียจานและขวดซอส ถัดมาไม่นานก็มีโพสต์ทำเลียนแบบอีก โดยเหตุการณ์ทั้งสองที่เรียกกันว่าก่อการร้ายซูชิทำให้ลูกค้าร้านซูชิจานหมุนทั่วญี่ปุ่นลดลง และเป็นข่าวดังไปทั่วโลก กระทบถึงการท่องเที่ยวไปด้วย

เหตุก่อการร้ายซูชิกระทบต่อธุรกิจร้านซูชิจานหมุนทั่วญี่ปุ่น โดยร้านเล็กที่ทุนไม่หนาบางแห่งถึงกับต้องปิดกิจการ ส่วน Sushiro ที่ขึ้นมาเป็นยักษ์ใหญ่ของวงการแล้ว หุ้นและมูลค่าบริษัทก็ร่วงอย่างหนัก

ซ้ำยังต้องใช้งบมากมายติดตั้งระบบและอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อกันไม่ให้เหตุป่วนก่อวิกฤตเช่นนี้อีกตามสาขา 600 แห่งในญี่ปุ่น ส่วนวัยรุ่นที่ก่อเหตุ  Sushiro ก็เดินหน้าฟ้องเรียกเงิน 480,000 ดอลลาร์ (ราว 17 ล้านบาท) เพื่อชดเชยความเสียหาย

อย่างไรก็ตาม เหตุก่อการร้ายซูชิก็กลายเป็นจุดเปลี่ยนของวงการซูชิจานหมุนทั่วญี่ปุ่น นำไปสู่การยกเครื่องเรื่องความสะอาด (แม้เดิมก็สะอาดอยู่แล้วตามนิสัยรักความสะอาดเรียบร้อยของชาวญี่ปุ่น) และรูปแบบการเสิร์ฟอาหารให้ลูกค้า รวมไปถึงใช้กล้องวงจรปิดและ AI มาตรวจตราลูกค้า เพื่อไม่ให้ก่อเหตุป่วนอีก

ล่าสุด Sushiro ทุ่มงบก้อนใหญ่อีกก้อน ติดตั้งจอสัมผัสพร้อมทำภาพเมนูโทนการ์ตูนสดใส และเมื่อสั่งแล้วอาหารจะส่งผ่านสายพานไปข้างโต๊ะลูกค้า ใกล้เคียงกับซูชิจานหมุนดั้งเดิม และยังมีเกมให้เล่นบนจอระหว่างรออาหารด้วย

ร้าน Sushiro แบบใหม่เปิดไปแล้ว 3 สาขา อยู่ที่โตเกียว โอซากา และนาโกยา โดยลูกค้าที่ชอบเห็นว่าทำให้บรรยากาศการกินทันสมัยกว่าเดิม ส่วนที่ยังอยู่ระหว่างปรับตัวก็ยอมรับว่าคิดถึงร้านแบบเดิมมากกว่า และเบื่อที่ไม่สามารถหยิบกินได้เลยแบบแต่ก่อน/cnn, theguardian, wikipedia, latimes  


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer