BEAUTRIUM ธุรกิจขายสวยที่มาจากไอเดียของผู้ชาย กลายเป็นบิวตี้รีเทลของ SME ไทย รายได้ 2,000 ล้าน

เมื่อพูดถึงธุรกิจความสวยความงาม ขายเครื่องประทินโฉม เเน่นอนว่าทุกคนคงนึกถึงภาพของหญิงสาว เเต่จะเป็นอย่างไรเมื่อผู้ชายกลายมาเป็นพ่อค้าขายสินค้าที่ส่งมอบความงามให้เเทน และทำได้ดี จนกลายเป็นธุรกิจพันล้าน

นี่คือเรื่องราวของ บิวเทรี่ยม ธุรกิจ SME มัลติบิวตี้สโตร์สัญชาติไทย ที่สร้างรายได้ให้ จิรวุฒิ โรจน์รัตนวลี และอติโรจน์ โรจน์รัตนวลี ชายหนุ่มสองพี่น้อง ที่อดีตก็เคยเป็นถึงแชมป์ BB GUN ระดับประเทศ เเต่มาก่อตั้งร้านบิวตี้ BEAUTRIUM โกยรายได้ 2,000 ล้านบาท ในปี 2023

BEAUTRIUM ก่อตั้งขึ้นปลายปี 2555 โดยเริ่มจากการเป็นร้านค้าส่งเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ความงาม  ก่อนปรับมาทำค้าปลีกด้วย

คุณจิรวุฒิ เล่าว่า ย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้นเมื่อ 12 ปีก่อน เขาก็เป็นลูกค้าที่เดินในร้านขายเครื่องสำอางในรีเทลทั่วไป หรือซูเปอร์มาร์เก็ต เเต่ทั้งสองโตมาในครอบครัวธุรกิจ ที่บ้านรับ OEM กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องนุ่งห่ม เสื้อผ้า ซึ่งทั้งสองก็ช่วยบริหารอยู่ด้วย เรียกว่าคลุกคลีกับการทำธุรกิจมาตั้งเเต่ต้น ก่อนจะตัดสินใจออกมาทำธุรกิจของตนเองก็เมื่อมีคนรู้จักแนะนำธุรกิจ

ซึ่งกลุ่มเพื่อนที่อยู่ในวงการซาลอน เมคอัพ เป็นผู้ให้คำเเนะนำมา ก็เริ่มด้วยคอนเนกชันที่มี

ณ วันนั้นถ้าคนอยากซื้อเครื่องสำอางต้องไปเคาน์เตอร์แบรนด์ หรือร้านที่เป็นตู้กระจก ไปร้านนี้ได้ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผิวหน้า เเต่สำหรับผิวกายก็ต้องไปซื้ออีกร้าน จะดีกว่าไหมถ้าซื้อได้แบบครบจบที่เดียว

BEAUTRIUM คำนี้มาจากคำว่า “Beauty” หมายถึง ความสวยความงาม  รวมกับคำว่า “Atrium” หมายถึง อาณาจักร กลายมาเป็น “อาณาจักรความงาม”

ทำให้ทั้งสองคนมองเห็นโอกาสทางธุรกิจ จึงลองทำร้านของตนเอง เริ่มจากเป็นห้องโถงใหญ่ (traditional trade) อารมณ์ร้านโชห่วย  ยังไม่โมเดิร์นเท่าปัจจุบัน โดยรวบรวมสินค้าความงามหลากหลายชนิดมาไว้ที่เดียวกัน ตอนแรกทำแบบขายส่ง จนเมื่อพบว่าลูกค้ามีความต้องการซื้อปลีกด้วย จึงตั้งสาขาสำหรับขายปลีกเฉพาะขึ้นมา สาขาแรกคือเซ็นเตอร์พ้อยท์ ก่อนจะเริ่มพัฒนาเรื่อยมา จะเปิดช่องทางค้าปลีกไปอย่างต่อเนื่อง

“เราเป็นผู้ชายเเต่มองว่าธุรกิจความงามไม่ได้มีไว้เพียงเฉพาะเพศหญิง เเต่ทั้งชายเเละหญิงหรือก็ต่างให้ความสำคัญกับความสวยงามเหมือนกัน เพราะฉะนั้นตลาดบิวตี้มันโตไปได้ตลอด” คุณจิรวุฒิอธิบายต่อ

เเต่ก็ใช่ว่าเมื่อเริ่มเเล้วจะราบรื่นในทันที เป็นธรรมดาที่ต้องพบเจอกับอุปสรรค เริ่มไปตั้งเเต่การหาเเละดีลสินค้าแบรนด์หนึ่งมาขายในร้าน ไม่ใช่เรื่องง่าย บางแบรนด์ต้องติดตามครั้งเเล้วครั้งเล่ากว่าจะได้มาวางขายในร้าน เเต่เมื่อทั้งคู่มองเเล้วว่าสินค้าตัวนี้กำลังเป็นกระเเส ต้องดีลมาให้ได้ ยิ่งต้องทำทุกวิถีทาง

“เวลาประสบปัญหาหรืออุปสรรคจะค่อย ๆ แก้ไขไปทีละขั้น ทำความเข้าใจกับสิ่งนั้น เเละคำเดียวเลย คือ อย่ายอมเเพ้” คุณอติโรจน์ กล่าว

ด้วยทัศนคติที่ไม่ยอมจำนนง่าย ๆ จึงทำให้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น บิวเทรี่ยมของสองพี่น้องคู่นี้ก็สามารถฟันฝ่ามาได้ทั้งหมด จากสาขาแรกที่เปิดในเซ็นเตอร์พ้อยท์ ความสำเร็จบทต่อมาก็ถูกบันทึกอยู่ในหน้าถัดไปอย่างต่อเนื่อง

สาขาสองเริ่มขึ้นที่ซีคอนบางแค ต่อด้วย G-Tower พระรามเก้า  จนปัจจุบัน BEAUTRIUM มีสาขามากถึง 34 แห่งทั่วประเทศ สินค้ามากกว่า 100,000 SKU โดยจะเปิดให้บริการเพิ่มอีก 2 สาขาในปีนี้

คุณอติโรจน์เปิดเผยต่อว่า เทรนด์มัลติบิวตี้สโตร์กับธุรกิจความงาม เป็นของที่อยู่คู่กับไทยมาอย่างยาวนาน ผ่านมาได้ทุกวิกฤต เพราะคนให้ความสำคัญกับรูปร่างหน้าตาไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดก็ตาม เลยทำให้อุตสาหกรรมความงามสามารถเติบโตได้เฉลี่ยปีละ 10% มูลค่าตลาดรวมอยู่ที่หมื่นกว่าล้านบาท เเม้จะหดตัวในช่วงโควิดสามปีติด เเต่ฟื้นตัวกลับมาได้ทันทีในปี 2022

ตลอดเส้นทาง 12 ปี บิวเทรี่ยมมุ่งสู่การเป็น beauty company ที่อยากเป็นเพื่อนสนิทกับทุกคน คอยเเนะนำสิ่งดี ๆ และอยู่เคียงข้างกันตั้งเเต่วัยมัธยม จนเข้ามหาวิทยาลัย เติบโตไปด้วยกันไปถึงวันที่คุณเริ่มชีวิตวัยทำงาน

ด้วยการเดินหน้าผ่านกลยุทธ์หลัก 3 ประการ อันประกอบด้วย

  • Accessible สร้างช่องทางที่ตอบโจทย์ เข้าถึงได้ง่าย เชื่อมต่อทั้งออนไลน์ อันประกอบด้วยอีคอมเมิร์ซ ควิกคอมเมิร์ซ เเละเว็บไซต์ ด้านออฟไลน์ตั้งเป้าขยายสาขาให้ครอบคลุมทุกภูมิภาค รวมถึงทำเลทอง เช่น เซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัลลาดพร้าว เอสพลานาร์ด จังซีลอน เป็นต้น
  • Differentiation ต้องแตกต่าง อาศัยการค้นหาสินค้าจากทั่วทุกมุมโลก และอยู่ในกระเเสมาจำหน่ายในร้าน เเละทำสัญญาขายเฉพาะในบิวเทรี่ยมเท่านั้น รวมถึงเพิ่มเเบรนด์พรีเมียมเเละสินค้าสุขภาพเพิ่มเข้ามา รองรับเทรนด์สินค้าระดับสูง เเละ health & wellness โดยจะทยอยตบเท้ามาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งขยายการให้บริการภายในร้าน อย่างในสาขาสยามเพิ่มไลน์โปรดักส์ที่มากกว่าเเค่บิวตี้  เเต่มีเครื่องดื่ม เเละ Gadget มาสร้างความหลากหลายให้สินค้าเพิ่มเติม
  • Evolution ปรับตัว เพิ่มมาตรฐานบริษัทอย่างไม่หยุดยั้ง พัฒนาระบบหลังบ้าน ซัปพลายเชน ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างทันท่วงที

 

โดยแบ่งสัดส่วนสินค้าภายในร้านออกได้เป็นกลุ่ม

37% Skincare

35% Makeup

8% Fragrance (น้ำหอม) +others

ที่ปกติแล้วสกินเเคร์มักจะเป็นสินค้าที่คนมีความจงรักภักดีกับแบรนด์สูง เพราะเป็นสินค้าบำรุง มีความเฉพาะบุคคล จึงต้องเลือกใช้เเบรนด์นั้นซ้ำ ๆ ไม่เปลี่ยนไปลองเเบรนด์ใหม่ง่าย ๆ แต่กลุ่มเมคอัพ คนจะซื้อตามกระเเส  อีกทั้งอายุลูกค้าที่เริ่มเเต่งหน้าใช้เครื่องสำอางทุกวันนี้ก็มีอายุน้อยลง เริ่มเเต่งหน้ากันตั้งเเต่วัยมัธยม วงการเมคอัพจึงมีกลุ่มลูกค้าที่อายุเด็กลง

ทำให้ธุรกิจเช่นนี้ต้องเเข่งขันกันที่ ‘ความรวดเร็ว เทรนด์ เเละราคา’ เป็นสำคัญ

 

อย่างไรก็ดี ในช่วงโควิดที่ผ่านมา เเม้ภาพรวมตลาดความงามจะถดถอยลงไปบ้าง แต่กลับยังมีโอกาสในวิกฤต  เพราะเมื่อบิวตี้แบรนด์ Stand Alone ปิดตัวไป เพราะเเบกรับค่าใช้จ่ายไม่ไหว เเล้วเลือกขายเเบบเเชร์ชั้นวางกับเเบรนด์อื่น ๆ ในร้านมัลติเเบรนด์ดีกว่า สร้างผลพลอยได้แก่มัลติบิวตี้สโตร์

 

ผลประกอบการ บริษัท บิวเทรี่ยม จำกัด ย้อนหลัง

ปี 2020 รายได้   558  ล้านบาท ขาดทุน 29 ล้านบาท

ปี 2021 รายได้   479  ล้านบาท ขาดทุน 40 ล้านบาท
และปี 2022 รายได้ 1,109 ล้านบาท กำไร   64 ล้านบาท

ซึ่งปี 2022 ทันทีที่ฟื้นตัวจากโควิด รายได้ก็สามารถเติบโตได้กว่า 130% ขณะที่ปี 2023 คาดโตพุ่ง รายได้เเตะ 2,000 ล้านบาท

 

Next Chapter  

มุ่งสู่ตลาดต่างประเทศ ขยายการเติบโตออกนอกไทย ที่บริษัทเล็งไว้คือประเทศในเอเชีย เริ่มเจาะตลาดที่เเรก คือ CLMV เเต่ประเทศที่มีศักยภาพน่าสนใจเป็นอันดับเเรก คือ เวียดนาม ด้วยจำนวนประชากรคนรุ่นใหม่ ไลฟ์สไตล์ที่คล้ายกับคนไทย รวมถึงการเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ยังอยู่ในเเผน

คีย์เวิร์ด 3 คำ ที่เป็น Key Success ของคนที่ขับเคลื่อน Key Success ของงาน

“กัดไม่ปล่อย อดทน เท่าทัน”  คือคีย์เวิร์ดที่คุณจิรวุฒิมอบให้กับตนเอง

อย่างตอนเกิดเหตุการณ์ที่ต้องติดต่อสินค้าที่กำลังเป็นที่ต้องการของลูกค้ามาขายให้ได้ เเต่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่สามารถปิดดีลได้  ด้วยความเป็นคนไม่ยอมเเพ้ง่าย ๆ ติดตามชนิดกัดไม่ปล่อยจนกว่าจะได้มา เพื่อที่จะได้พาตัวเองอัปเดตได้ตลอด

ด้านน้องชายอย่างคุณอติโรจน์  กล่าวสรุปว่า 12 ปีที่ผ่านมาบิวเทรี่ยมผ่านมาทั้งอุปสรรค ความท้าทายทุกอย่าง เเละความสำเร็จในวันนี้ไม่ได้เกิดจากส่วนประกอบเดียว แต่เกิดจากทั้งพาร์ตเนอร์ ลูกค้า โปรดักส์ ทุกครั้งที่เจออุปสรรค สำคัญคืออย่าท้อ อดทน เกิดปัญหาก็เเลกเปลี่ยนความคิดซึ่งกันเเละกัน

“ย่อท้อไม่เป็น มุ่งมั่น ไม่ล้มเลิก”

 

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline

 

 



ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ

.
Marketeer ฉบับดิจิทัล : อ่านบน Ookbee / อ่านบน meb
.
Marketeer ฉบับ PDF : https://marketeermagazine.com/
.
Marketeer ฉบับกระดาษ : สั่งซื้อทางไปรษณีย์ Inbox มาที่ เพจ Marketeer Online