ขณะที่ฝันร้ายของหลายธุรกิจจากยุคโควิดผ่านพ้นไปแล้ว และกลับขึ้นมาสู่ความคึกคักในปีนี้ โดยในส่วนของอุตสาหกรรมหนังทั้งระบบไล่ตั้งแต่ การถ่ายทำคอนเทนต์ต่างๆ ไปจนถึงโรงภาพยนตร์ ก็มีหนังดาหน้ากันเข้าฉายเอาใจคอหนังตามปกติ
ถึงขนาดที่บางประเทศ เช่น ไทย มีหนัง สัปเหร่อ และ ธี่หยด หนังระดับปรากฏการณ์ในรอบหลายปี ด้วยตัวเลขรายได้หลักร้อยล้านบาท ทว่าในปีนี้ยักษ์ใหญ่วงการหนังก็เจอขาลง

Disney ส่ง The Marvels หนังซูเปอร์ฮีโร่จากคลังของค่ายการ์ตูน Marvel (MCU) เรื่องล่าสุดออกฉายในสหรัฐฯ ช่วงพฤศจิกายน ท่ามกลางการคาดการณ์ตัวเลขสุดสัปดาห์เปิดตัวที่ 75-80 ล้านดอลลาร์ (ราว 2,600 ถึง 2,700 ล้านบาท)
แต่กลายเป็นว่า Captain Marvel พร้อมลูกทีมซูเปอร์ฮีโร่พลังอวกาศในเรื่องพลังหมด เปิดตัวแผ่ว ทำเงินได้เพียง 47 ล้านดอลลาร์ (ราว 1,600 ล้านบาท)

ต่ำสุดในบรรดาหนัง MCU ทั้งหมด โค่นสถิติ 55.4 ล้านดอลลาร์ (ราว 1,900 ล้านบาท) ที่ The Incrideble Hulk ทำไว้ตั้งแต่ปี 2008
สาเหตุที่ทำให้ The Marvels เปิดตัวอย่างผิดหวังสุด ๆ จนขนาดที่พลังซูเปอร์ทีมหญิง และความหล่อของ พาร์ก ซอจุน นักแสดงหนุ่มเกาหลีใต้คนดังเพื่อหวังเอาใจชาวเอเชีย ก็ช่วยอะไรไม่ได้นี้เกิดจากความอิ่มตัวของคอนเทนต์แนวซูเปอร์ฮีโร่

Marvel เปิดตัวจักรวาลที่ MCU เรื่องแรกด้วย Iron Man ในปี 2008 ปีซึ่งลาโรงด้วยตัวเลขรายได้ 585 ล้านดอลลาร์ (ราว 20,100 ล้านบาท) ตามหลังความสำเร็จถล่มทลายแบบรับทั้งเงินและกล่องของ Batman : The Dark Knight หนังจาก DC ซึ่งเป็นค่ายคู่แข่ง
จากนั้นกลับเป็น Marvel ซึ่งย้ายเข้าชายคา Disney ที่ประสบความสำเร็จมากกว่าด้วยการขยายจักรวาลคอนเทนต์ซูเปอร์ฮีโร่ เริ่มจากหนังและต่อไปสู่ซีรีส์ โดย ณ จุดสูงสุด ในปี 2019 ก็โค่น Avatar ขึ้นเป็นหนังโกยเงินมากสุดทั่วโลกเรื่องใหม่ ผ่านตัวเลขรายได้ 2,790 ล้านดอลลาร์ (ราว 95,800 ล้านบาท)
อย่างไรก็ตาม MCU มีคอนเทนต์ออกมามากมายจนท่วม ทำให้เกิดการสะดุดและอิ่มตัว ซึ่งเห็นชัดกับ The Marvels การเปิดตัวต่ำสุดและลาโรงไปแบบขาดทุน

นอกจากเรื่องความอิ่มตัว ขณะที่คอหนังก็ทั้งเบื่อทั้งเหนื่อยกับการปะติดปะต่อเรื่องราว ซึ่งนับแค่หนังก็มีมากถึง 33 เรื่องแล้ว ขาลงของ MCU ยังเกิดขึ้นในยุคคอนเทนต์ท่วม ที่คนทั่วโลกมีคอนเทนต์มากมายนับไม่ถ้วนให้ดู
และการที่ต้องใช้นักแสดงมากมาย หากนักแสดงคนไหนเจอปัญหาเข้าย่อมกระทบกับ MCU ด้วย เหมือนที่เกิดขึ้นแล้วกับ โจนาธาน เมเจอร์ส ผู้รับบทตัวร้ายในกลุ่มคอนเทนต์เฟสต่อไป ที่ถูกตัดสินว่าผิดในข้อหาคุกคามทางเพศ จนมีแนวโน้มว่าต้องเปลี่ยนตัวแสดง
โจนาธาน เมเจอร์ส
สถานการณ์ย่ำแย่ในปี 2023 จึงบีบให้ Disney ต้องปรับทัพ MCU ซึ่งก็น่าติดตามว่าปี 2024 จะเป็นไปในรูปแบบใด เพราะนอกจากต้องฝ่ายุคคอนเทนต์ท่วมแล้ว ยังต้องสู้กับหนังซูเปอร์ฮีโร่ค่ายอื่น ๆ ที่มีความหลากหลายกว่าอีกด้วย/cnbc, cnn, theguardain
–
