หลังปิดปี 2566 ด้วยยอดขายสูงสุด 51,390 ล้านบาท กวาดรายได้รวมกว่า 48,757 ล้านบาท พร้อมกำไรสุทธิ 6,054 ล้านบาท เจ้าตลาดอย่าง “เอพี ไทยแลนด์” ออกมาบอกว่า ปี 2567 นี้เป็นปีของตัวจริง!

ที่เอ่ยเช่นนั้นเนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ภาพความเชื่อมั่นในระบบเศรษฐกิจไทย รวมถึงปัจจัยต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อเนื่องจากปีที่แล้ว ทำให้การดำเนินธุรกิจในปีนี้ยังคงต้องเป็นไปแบบระมัดระวัง

วิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ บมจ. เอพี ไทยแลนด์ บอกกับเราว่า “สิ่งสำคัญสุดที่จะทำให้องค์กรเดินไปอย่างไม่สะดุดท่ามกลางแรงกระเพื่อมทางเศรษฐกิจ คือ การรักษาเสถียรภาพทางการเงินให้แข็งแกร่ง ผ่านความเข้มงวดในวินัยทางการเงิน เพื่อนำมาสู่สภาพคล่องทางการเงินที่คล่องตัวและมากเพียงพอที่จะสนับสนุนธุรกิจในระยะยาว”

จะเห็นว่า ณ สิ้นปี 2566 เอพี ไทยแลนด์สามารถรักษาสัดส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนอยู่ที่ 0.79 เท่า ช่วยให้มั่นใจได้ว่ามีสภาพคล่องทางการเงินเพียงพอสนับสนุนธุรกิจในระยะยาว ซึ่งเป็นหนึ่งในคีย์สำคัญที่ทำให้ประสบความสำเร็จตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา

ทั้งนี้ วิทการยังบอกอีกว่าปี 2567 ตัวจริงที่จะไปต่อแบบไม่มีสะดุดได้นั้น 5 สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญคือ

  1. การบริหารจัดการกระแสเงินสด ที่ส่งผลต่อเสถียรภาพและความน่าเชื่อถือขององค์กร ซึ่งเราเชื่อว่าวันนี้เรามีความเข้มแข็ง มีเสถียรภาพทางการเงิน และสภาพคล่องที่เพียงพอ
  2. การกระจายพอร์ตสินค้าที่หลากหลาย และครอบคลุมทุกเซกเมนต์ของตลาด
  3. People – Structure – Process การบริหารจัดการคน โครงสร้างองค์กร และโพรเซสการทำงานที่แม่นยำ เพื่อสนับสนุนต่อการทำงานที่รวดเร็วทันทุกการเปลี่ยนแปลง
  4. การมีพันธมิตรทางธุรกิจที่มีวิสัยทัศน์เดียวกัน เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนธุรกิจก้าวสู่ความเป็นหนึ่ง
  5. ซัปพลาย เชน แมเนจเมนต์ ที่พร้อมสนับสนุนให้การเติบโตของธุรกิจเป็นไปอย่างต่อเนื่องตามแผนการพัฒนาและส่งมอบโครงการ

“เอพีรักษาวินัยทางการเงินอย่างเคร่งครัด ตลอดจนการวางแผนและบริหารจัดการทางการเงินที่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้วันนี้เรามีสภาพคล่องทางการเงินที่ดีเยี่ยม และเพียงพอต่อการเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว ตลอดจนศักยภาพในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนหลากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น

  1. ตลาดเงินที่พร้อมเปิดกว้างต้อนรับ โดยเมื่อต้นปีเอพีได้ชำระหุ้นกู้มูลค่า 2,500 ล้านบาทตามกำหนดเป็นที่เรียบร้อย และในเวลาเดียวกันหุ้นกู้ออกใหม่มูลค่า 3,500 ล้านบาท ก็ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม (over subscription)
  2. วงเงินสินเชื่อพร้อมเบิกใช้ (available credit line) จากสถาบันการเงินที่ให้วงเงินแก่เอพีมากถึง 12,700 ล้านบาท
  3. เม็ดเงินการลงทุนจากพันธมิตรทางธุรกิจอย่างมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป ผ่านทุนจดทะเบียนบริษัทลูกที่มากถึง 12,619 ล้านบาท สำหรับการลงทุนพัฒนาคอนโดมิเนียมในประเทศไทยร่วมไปกับเอพี
  4. รายได้จากการขายและโอนอสังหาริมทรัพย์ (cash inflow) ที่กระจายความเสี่ยงไปในทุกเซกเมนต์กว่า 200 โครงการ ตามเป้าหมายการรับรู้รายได้ในปีนี้มูลค่า 53,700 ล้านบาท ที่จะทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

“ทั้งหมดถือเป็นข้อได้เปรียบอย่างมากที่จะสนับสนุนการดำเนินงานของเอพี ให้เป็นไปตามเป้าหมายอย่างเต็มศักยภาพ”

กางแผน 2567 EMPOWER TOGETHER

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจปี 2567 เอพี ไทยแลนด์ ยังคงเดินหน้าภายใต้กลยุทธ์ EMPOWER TOGETHER โดยในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์เอพีมุ่งมั่นส่งมอบนวัตกรรมพื้นที่เพื่อชีวิตดี ๆ ที่เลือกเองได้ เพื่อให้ ‘ทุกพื้นที่ในบ้านเอพี’ เติบโตไปพร้อมกับทุกคน

“ในปี 2567 เราตั้งเป้ามีโครงการพร้อมขายอยู่ทั่วประเทศ จำนวน 212 โครงการ เพื่อครองภาพการเป็นที่หนึ่งในอุตสาหกรรมพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย ทั้งในด้านยอดขาย รายได้ และผลกำไร ประกอบไปด้วย โครงการใหม่ 48 โครงการ มูลค่า 58,000 ล้านบาท แบ่งเป็น

  • บ้านเดี่ยว 15 โครงการ มูลค่า 23,000 ล้านบาท
  • ทาวน์โฮมและบ้านแฝด จำนวน 23 โครงการ มูลค่า 19,300 ล้านบาท
  • คอนโดมิเนียม 6 โครงการ มูลค่า 12,500 ล้านบาท
  • โครงการในต่างจังหวัด 4 โครงการ มูลค่า 3,200 ล้านบาท

“ขณะที่โครงการที่อยู่ระหว่างการขาย (ongoing projects) มีจำนวน 164 โครงการ ซึ่งจะเป็นคีย์สำคัญในการสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง (cash inflow) โดยตั้งเป้ายอดขาย 57,000 ล้านบาท เป้ารายได้รวม 100% JV ที่ 53,700 ล้านบาท”

ครั้งแรก! รุกตลาดบ้านเดี่ยวระดับ Super Luxury

กลุ่มธุรกิจบ้านเดี่ยว เอพีมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 15 โครงการ มูลค่า 23,000 ล้านบาท โดยยังคงย้ำจุดยืน FUNCTIONAL IS BEAUTIFUL หรือ บ้านที่เข้าใจชีวิต DNA สำคัญที่ผลักดันให้บ้านเดี่ยวเอพีเติบโตอย่างต่อเนื่อง

สำหรับไฮไลท์ของปีคือ แผนเดินหน้าเพิ่มมาร์เก็ตแชร์ในตลาด Super Luxury ระดับราคา 100 ล้านบาท ด้วยการพัฒนาสินค้าแบรนด์ THE PALAZZO ให้เป็นคฤหาสน์หรูในบริบทใหม่ ให้มากกว่าที่อยู่อาศัยแต่คือ อาณาจักรที่คุณเลือกเองได้ ด้วยพื้นที่ใช้สอยที่มากกว่า 1,000 ตารางเมตร ใน 2 ทำเล อย่างกรุงเทพกรีฑาและปิ่นเกล้า และแบรนด์ บ้านกลางกรุง บ้านเดี่ยวในเมือง ในทำเลสาธุประดิษฐ์ โดยทั้งหมดพร้อมจะเปิดตัวในช่วงครึ่งปีหลัง

ทั้งนี้ ยังคงให้ความสำคัญกับการพัฒนาแบบบ้านในแบรนด์ THE CITY, CENTRO และ MODEN ที่ถือเป็นแบรนด์สินค้าหลักที่ประสบความสำเร็จมาอย่างยาวนาน

ตั้งเป้าผู้นำตลาดบ้านแฝดในเมือง

สำหรับกลุ่มธุรกิจทาวน์โฮมและบ้านแฝด ในปีนี้เอพีเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ จำนวน 23 โครงการ มูลค่า 19,300 ล้านบาท นอกเหนือจากการรักษาความเป็นผู้นำในตลาดทาวน์โฮม 3 ชั้น และ 2 ชั้นแล้ว เอพีพร้อมส่งต่อความสำเร็จในการพัฒนาทาวน์โฮม ภายใต้แนวคิด “พื้นที่ชีวิตแนวตั้งที่ดีที่สุด” สู่เป้าหมายครั้งใหม่ที่ท้าทายยิ่งกว่า ด้วยการตั้งเป้าจะเป็นผู้นำตลาดบ้านแฝด 3 ชั้นและ 2 ชั้นในเมือง ภายใต้จุดยืนที่ต้องการส่งมอบนวัตกรรมพื้นที่ชีวิตที่ให้คุณเลือกขยายพื้นที่ให้พอดีกับทุกความสุข

ด้วย 3 แบรนด์สินค้าในเครือ ได้แก่ บ้านกลางเมือง คลาสเซ่-บ้านกลางเมือง ดิ อิดิชั่น-แกรนด์ พลีโน่ กับจุดขายบ้านหน้ากว้างสูงสุด 14.7 เมตร มีให้เลือกขยายพื้นที่ความสุขทั้งในแบบบ้านแฝด 3 ชั้น พื้นที่ 35.50-46.40 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย ตั้งแต่ 218.87-298 ตารางเมตร และบ้านแฝด 2 ชั้น พื้นที่ 35.10-44.83 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย ตั้งแต่ 133.45-200.2 ตารางเมตร เริ่ม 3.19 ล้านบาท

โดยในแผนการเปิดตัว 23 โครงการใหม่ จะเป็นบ้านแฝดจำนวน 7 โครงการ ในทำเล ได้แก่ บ้านกลางเมือง คลาสเซ่ รัชดา-ลาดพร้าว/บ้านกลางเมือง ดิ อิดิชั่น โยธินพัฒนา/บ้านกลางเมือง ดิ อิดิชั่น บางนา/แกรนด์ พลีโน่ วัชรพล-จตุโชติ 10/แกรนด์ พลีโน่ แจ้งวัฒนะ-ราชพฤกษ์/แกรนด์ พลีโน่ รามอินทรา-วงแหวน 2/แกรนด์ พลีโน่ สุขสวัสดิ์ 64 และส่วนที่เหลือจะเป็นในรูปแบบทาวน์โฮม 3 ชั้น และทาวน์โฮม 2 ชั้น

คอนโดเอพีเติบโตต่อเนื่องรับตลาดรีบาวด์

ด้านกลุ่มธุรกิจคอนโดมิเนียม ในปีที่ผ่านมาเอพีประสบความสำเร็จอย่างมาก ทั้งในด้านยอดขายและการรับรู้รายได้ โดยสามารถสร้างยอดขายได้มากถึง 17,908 ล้านบาท หรือเติบโตถึง 57% หากเทียบกับยอดขายของปีก่อนหน้า ด้านรายได้รวมเฉพาะจากสินค้าคอนโดมิเนียม (100% JV) เองก็มีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องมาอยู่ที่ระดับ 13,184 ล้านบาท สะท้อนได้ถึงการฟื้นตัวของดีมานด์ ตลอดจนความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อคอนโดเอพี

ในปี 2567 นี้กลุ่มธุรกิจคอนโดมิเนียมยังคงทำงานภายใต้จุดยืนเดิมคือ เริ่มชีวิตที่อยากใช้ AP คอนโด เพื่อส่งมอบพื้นที่ชีวิตที่ทุกคนเลือกเองได้ โดยเตรียมเปิดตัว 6 คอนโดใหม่ มูลค่า 12,500 ล้านบาท ชูแบรนด์ LIFE และ ASPIRE เป็นคีย์สำคัญในการพัฒนาโครงการ โดยมี LIFE เจริญนคร-สาทร และ ASPIRE ห้วยขวาง เป็นไฮไลท์เด็ดของปี

นอกจากนั้น แล้ว ยังเตรียมรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ 3 คอนโดพร้อมอยู่ มูลค่าโครงการรวมกว่า 11,500 ล้านบาท ได้แก่ LIFE พหลฯ-ลาดพร้าว LIFE พระราม 4-อโศก และ ASPIRE รัชโยธิน

อัปเดตข่าวสารของทุกโครงการใหม่จากเอพี กับ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม และคอนโด ตลอดปี 2024 นี้

คลิก https://apth.ly/APNewHome2024

 

#APBusinessDirection2024 #APTHAI #ชีวิตดีๆที่เลือกเองได้ #APTHAIUpdate2024


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer