Trend: เทคโนโลยีทุกอย่าง ต่อให้เป็นเทคโนโลยีที่ดูดีในทางทฤษฎีแค่ไหน ถ้าไม่ได้ถูกนำมาใช้จริงก็จะเป็นได้แค่เรื่องที่น่าสนใจบนหน้ากระดาษ ไม่ต่างจากนิยายวิทยาศาสตร์
ทว่าในทางกลับกัน ถ้าเป็นเทคโนโลยีที่เริ่มถูกนำมาใช้ มีแนวโน้มจะกระจายไปในวงกว้าง และเริ่มมีผู้ได้รับผลกระทบจากความก้าวหน้าแล้ว ก็เป็นเรื่องที่ผู้ที่อยู่ในวงการนั้นต้องรู้เท่าทัน
ความเปลี่ยนแปลงสำคัญทางเทคโนโลยีกำลังเกิดขึ้นกับการตลาดงานในปัจจุบันคือ AI ที่ถูกนำใช้มากขึ้น ๆ และก่อเป็นเทรนด์ใหม่ ๆ เช่น ความกังวลเมื่อต้องทำงานกับ AI (AI Anxiety)
ความล้าจากการทำงานร่วมกับ AI (AI Burnout) ไปจนถึงการปรับทักษะที่มีอยู่เดิมให้ทันสมัยขึ้น (Upskilling)
อีกเรื่องเกี่ยวกับ AI ในตลาดงานที่มีพูดกันอย่างกว้างขวาง คือ การนำมาใช้ AI ทั้งฝั่งคนผู้สมัครงานและฝ่ายทรัพยากรบุคคล (HR) โดยฝ่ายแรกนำ ChatGPT มาใช้เขียนประวัติย่อ (Resume)
ส่วนฝ่ายหลังนำ AI มาใช้ตรวจจนรู้ว่าผู้สมัครคนไหนใช้ AI เขียน Resume แต่ความเคลื่อนไหวของ AI ในตลาดงานไม่หยุดแค่นี้ โดยความเคลื่อนไหวล่าสุดเป็นเรื่องซึ่งคนที่ยังอยู่ในตลาดงานต้องรู้อย่างยิ่ง
ผู้สมัครงานในสหรัฐฯ คนหนึ่งเผยถึงเรื่องแปลก ๆ ระหว่างสัมภาษณ์งานผ่านทางโทรศัพท์ว่า เสียงของปลายสายจากฝั่งบริษัทที่หมายตาไว้ฟังดูแข็ง ๆ ซ้ำลักษณะการพูดก็ดูเป็นรูปแบบ คล้ายกับเสียงของ Siri – Al สั่งการด้วยเสียงของ Apple
แม้การสัมภาษณ์ครั้งนั้นจบลงด้วยประโยคตัดบทบอกเป็นนัย ๆ ว่า สัมภาษณ์ไม่ผ่าน อย่าง “แล้วจะติดต่อกลับไป” แต่ก็ตกใจพอสมควรที่ AI มาถึงขั้นถูกนำมาใช้ในสัมภาษณ์งานผ่านทางโทรศัพท์แล้ว
และอึ้งไปเหมือนกันที่ตนกลายมาเป็นคนรุ่นแรก ๆ ในตลาดงานที่ถูก AI คัดออก
The Guardian สำนักข่าวดังและเก่าแก่ของอังกฤษที่รายงานเรื่องนี้ ยังรายงานต่อไปอีกว่า ผู้สมัครในอังกฤษเจอหนักกว่านั้น เพราะต้องสัมภาษณ์งานแบบวิดีโอคอล ซึ่งวิดีโอหน้า AI เป็นหน้าของตัวเอง
นี่เป็นหลักฐานยืนยันว่า AI กำลังถูกนำมาใช้ในตลาดงาน ทั้งในฝั่งของคนหางาน และงานหาคน
หลังผลการสำรวจความคิดเห็นในสหรัฐฯ เมื่อไม่นานมานี้ระบุว่า กลุ่มตัวอย่างบริษัท 55% จะนำ AI มาใช้ในกระบวนการคัดเลือกคนเข้าทำงาน และยินดีลงทุนในส่วนนี้เพิ่มขึ้น
เพราะเห็นว่าทั้งสะดวก ลดเวลา และประหยัดงบ โดยที่ไม่สนว่าคนจะถูกตัดออกไปจากกระบวนการเรื่อย ๆ ด้าน ฝั่งผู้สมัครก็ไม่น้อยหน้า แม้ยังไม่ถึงขั้นเอาชนะ AI การสัมภาษณ์งานได้ก็ตาม
ตามรายงานของ The Guardian ระบุว่า มีการแชร์สูตรใช้ ประเภท และสีฟอนต์ รวมไปถึงเรียบเรียง Resume ที่ AI จะตรวจแล้วให้ผ่านกันแล้ว
และเหล่าคนหางานรุ่นใหม่ ๆ ก็เห็นว่า การใช้ AI ช่วยทำ Resume ไม่ได้ผิดอะไร เพราะเป็นการใช้เทคโนโลยีที่มีและไม่ต้องเสียเงินแพง ๆ ไปกับการใช้บริการโค้ชตรวจ Resume อีกด้วย
The Guardian ยังรายงานต่ออีกว่า AI จะขยับบทบาทและใช้กันมากขึ้นเรื่อย ๆ ในการคัดคนเข้าทำงาน เมื่อมีการสัมภาษณ์ออนไลน์ ทางวิดีโอหรือทางโทรศัพท์ และไม่จำกัดอยู่เฉพาะงานกลุ่มเทคโนโลยีอีกต่อไป
เช่นที่ปรากฏเป็นข่าวเมื่อไม่นานมานี้ว่า ผู้สมัครในฝ่ายบริการลูกค้า FedEx และ McDonald’s ตกใจกับคำถามออนไลน์ที่ทั้งยากและวกวน
ภายหลังมีการเปิดว่านี่เป็นการสัมภาษณ์กับ AI ของบริษัท Paradox.ai คิดค้นขึ้น และทาง FedEx กับ McDonald’s นำมาใช้เพื่อทดสอบความมั่นคงทางอารมณ์และการรับมือของลูกค้าของผู้สมัคร
จากสถานการณ์ทั้งหมด จึงกล่าวได้ว่า ปัจจุบัน AI ถูกนำมาใช้ในทั้งสองฝั่งสมการของตลาดงาน หรือ AI vs. AI และแต่ละฝ่ายก็รู้ดีว่าอีกฝ่ายใช้อยู่
ดังนั้น ทักษะด้าน AI ของคนทำงานยุคนี้ไม่ได้มีแต่ด้านเทคนิคเท่านั้น เพราะต้องใช้ AI ในการสมัครงานให้เป็นด้วย หรือต้องกล้าสู้กับระบบ
ส่วนถ้าใครยังโลกสวยอยู่ ประมาทคิดว่า AI คงยังไม่รุกเข้ามาถึงกระบวนการคัดคน ก็อาจถูกคัดออกเมื่อไปสมัครงานโดยไม่รู้ตัว ซ้ำร้ายยังไม่รู้ว่า เป็น AI ไม่ใช่คนที่คัดตนออกไป หรือโลกมาถึงยุคที่คนถูก AI คัดออกแล้ว ♦/theguardian
–