สปอนเซอร์ ทำไม TCP จึงเลือกให้บุกตลาดต่างประเทศต่อจากกระทิงแดง

ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในไทย 2 หมื่นล้านบาท ไตรมาสแรกเติบโต 4-5% แม้มีกำแพงราคาที่เป็นอุปสรรคต่อการแข่งขัน แต่กลับมีผู้เล่นตบเท้าเข้าท้าชิงในตลาดนี้มากมาย โดยเฉพาะเครื่องดื่มชูกำลังระดับราคาสิบบาท

คุณสราวุฒิ อยู่วิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ TCP เปิดเผยว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ บางประเทศงดส่งออก ประกอบกับภาวะสงคราม โลจิสติกส์ได้รับผลกระทบ ต้นทุนพุ่ง ธุรกิจต้องแบกรับปัญหาต้นทุนปรับตัวสูง แม้บริษัทพยายามบริหารจัดการด้วยการปรับแพ็กเกจจิ้งและส่วนที่พอทำได้ เพื่อตรึงราคาไว้ให้นานที่สุด แต่ต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น 10% เกินกว่าจะรับไหว จึงจำเป็นต้องปรับราคาในบางผลิตภัณฑ์

ซึ่งช่วงที่เศรษฐกิจซบเซา สินค้าราคาเกินกว่า 10 บาท ได้รับผลกระทบด้านยอดขายบ้าง เพราะลูกค้าเลือกซื้อสินค้าในราคาต่ำ  แต่กลยุทธ์การตั้งราคาอาจใช้ไม่ได้แล้วกับยุคนี้ เนื่องจากลูกค้าสามารถสแกนจ่ายผ่านอินเทอร์เน็ตแบงกิ้งได้แล้ว การตั้งราคาอันเป็นจำนวนเต็มจึงไม่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคแล้ว (psychological barrier) แต่ความพยายามที่จะลงเล่นในตลาดเครื่องดื่มชูกำลังของผู้ผลิตหลายรายด้วยราคา 10 บาท อาจส่งผลต่อกลไกราคาตลาด

เครื่องดื่มชูกำลังกับลูกค้า New Generation

เครื่องดื่มชูกำลังจะติดภาพการเป็นสินค้าของกลุ่มผู้ใช้แรงงาน ทำให้คนรุ่นใหม่มองข้ามการซื้อเครื่องดื่มประเภทนี้ แต่จากที่หลายแบรนด์หันมาลุยเซกเมนต์ Energy drink premium ดีไซน์ผลิตภัณฑ์ให้ ช่วยกระตุ้นตลาดให้เป็นที่สนใจ เปลี่ยน perception ของคนรุ่นใหม่ที่มีต่อเครื่องดื่มชนิดนี้

เซกเมนต์ Energy drink premium แม้ตลาดยังเล็กแต่มีแนวโน้มจะเติบโตไปได้อีกมาก แต่ปริมาณการบริโภคเครื่องดื่มชูกำลังในไทยยังน้อยเมื่อเทียบกับประเทศอาเซียน ที่ปริมาณการดื่มแซงหน้าไทยไปหลายประเทศ  ในไทยยังคงอยู่ที่วันละไม่เกินหนึ่งขวด เนื่องมาจากความเข้าใจผิดในการดื่ม อีกทั้งคนยังหันไปดื่มกาแฟมากกว่า

แต่ตลาดต่างประเทศโดยรวมเติบโตได้ดี แม้เผชิญภาวะเศรษฐกิจหดตัว  โดยเฉพาะประเทศเวียดนามที่ตลาดกำลังขยายตัว  และจีนที่เป็นตลาดใหญ่

แต่ในตลาดเวียดนาม แม้ปราศจากสงครามราคา (Prices war) แต่ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เนื้อหอมในสายตานักลงทุน ทำให้โอกาสในการขยายตัวของตลาดมีแนวโน้มดี  จึงมีผู้เล่นตบเท้าเข้าไปปักหมุดธุรกิจ แย่งชิงส่วนแบ่งกันอย่างดุเดือด  จึงมีการแข่งขันที่ค่อนข้างหนักหน่วง โดยที่ในเวียดนาม กลุ่ม TCP มีส่วนแบ่งในตลาดเครื่องดื่มเกิน 50% (คู่แข่งที่เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่มีส่วนแบ่ง 30%)

สปอนเซอร์ แบรนด์ถัดไปเจาะตลาดต่างประเทศ

ในอนาคต สปอนเซอร์จะเป็นแบรนด์ถัดไปที่ TCP จะทำตลาดต่อจาก Red Bull โดยเปลี่ยนสูตรรสชาติให้เข้ากับประเทศที่จะไปบุก ซึ่งจะต่างจากสปอนเซอร์แบบเดียวกับที่ผลิตในไทย  อีกทั้งก่อนหน้านี้ได้ลอนช์เครื่องดื่มให้พลังงานแบรนด์ใหม่ “WARRIOR” ในเวียดนามไปเป็นที่เรียบร้อย

เครื่องดื่ม Red Bull ผู้ถางทางให้สินค้าไทยเป็นที่รู้จักในระดับโลก แต่ความสำเร็จของ Red Bull อาจไม่ได้เป็นฮาวทูให้แบรนด์อื่น ๆ ได้ เพราะ Red Bull ในห้าปีแรกที่บุกตลาดต่างประเทศก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จในทันที ช่วงแรกยอดขายต่ำ แต่อาศัยเวลาทำความรู้จัก ค่อยเป็นค่อยไป แต่ด้วยความที่ Red Bull มีฐานชื่อเสียงแบรนด์ตั้งแต่อยู่ในไทยแล้ว จึงช่วยให้ผู้บริโภคในต่างแดนคุ้นเคยได้เร็ว จนกระทั่งถึงจังหวะ break point

คุณสราวุฒิ กล่าวเสริมว่า การทำตลาดทุกวันนี้ยากขึ้น ความสำเร็จของแบรนด์อีกมุมโลก สามารถนำมาเป็นแนวทางให้กับแบรนด์อีกมุมโลกได้ทั้งนั้น โดยเฉพาะผู้ประกอบการโลคอลในหลายประเทศที่เก่งในการออกแบบ คัดลอกคีย์ความสำเร็จแบรนด์อื่นได้ไว ประยุกต์ใช้ได้เร็ว  ทำให้การแข่งขันในปัจจุบันทวีความยากขึ้นไปอีก

ขยายสายการผลิตลงทุนหมื่นล้านในจีน

ด้านการลงทุนในจีนระดับหมื่นล้านบาทที่ได้ประกาศไปก่อนหน้านี้  ขณะนี้โรงงานในกวางซีกำลังอยู่ในขั้นตอนติดตั้งเครื่องจักร  ส่วนโรงงานในเสฉวนแล้วเสร็จไปเมื่อไม่นาน  และจะยังมีเฟสสองตามมา นอกจากนั้นยังได้ลงทุนต่อเนื่องในประเทศเนปาลจากการเล็งเห็นศักยภาพของประเทศในอนาคต

tcp ทรานส์ฟอร์มตนเองมาอย่างต่อเนื่อง เปลี่ยนการผลิตเป็น Smart facturing ซึ่งปัจจุบันช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตให้ดีขึ้นถึง 95%

ด้านโรงงานในพื้นที่ปราจีนบุรีซึ่งเป็นแหล่งที่ผลิตเพื่อการส่งออกต่างประเทศด้วย มีพื้นที่รวม 2,000 ไร่ เป็นพื้นที่โรงงาน 800 ไร่ และจัดเก็บน้ำและบำบัดน้ำเสียคลังสินค้า 1,200 ไร่ กำลังการผลิตรวม 1,720 ล้านลิตรต่อปี ยูทิไลซ์ 1,550 ล้านลิตร

ผลิตเพื่อการส่งออก 70% ในจำนวนนี้ส่งไปยังเวียดนาม 79% มาเลเซีย 10% เมียนมา 6% ลาวและสิงคโปร์ 1-2%  ขณะที่ผลิตเพื่อการบริโภคในประเทศเพียง 30% ในไทย tcp ครองส่วนแบ่งทางการตลาด 17-18%  ขณะที่จีนอยู่ที่ 40% และเวียดนาม 50% ในตลาดเครื่องดื่มให้พลังงาน

“ภาพรวมในครึ่งปีหลัง หากสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง ภาวะสงคราม อันส่งผลต่อโลจิสติกส์ มีทีท่าเบาบางลง เศรษฐกิจจะมีแนวโน้มเติบโตได้  ในไทยเองหากมีนโยบายต่าง ๆ ของภาครัฐ จะช่วยหนุนการเติบโตในปีนี้ให้สดใส เพราะในช่วงที่ผ่านมาที่มีนโยบายช่วยเหลือจากภาครัฐออกมา การบริโภคของประชาชนในช่วงนั้นเติบโตอย่างมาก  สำหรับปีนี้ tcp ตั้งเป้าเติบโต high double digit ซึ่งผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกเติบโตมากกว่า 7% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา” คุณสราวุฒิ กล่าว

พร้อมกันนี้ในวาระฉลองครบรอบ 68 ปี เปิด TCP Legacy Museum แหล่งเรียนรู้ตำนานเครื่องดื่มให้พลังงานระดับโลก และเส้นทางแห่งความภาคภูมิใจ สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ และความมุ่งมั่นของคุณเฉลียว อยู่วิทยา ผู้ให้กำเนิดแบรนด์กระทิงแดง (เรดบูล) และก่อตั้งกลุ่มธุรกิจ TCP พร้อมชูเป็นจุดเช็กอินแห่งใหม่ที่ไม่ควรพลาด ณ อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer