ก่อนช่วงสถานการณ์โควิด-19 มูลค่าตลาดร้านค้าอุปกรณ์กีฬาในประเทศไทยอยู่ที่ 35,000 ล้านบาท จนเมื่อเผชิญหน้ากับช่วงการแพร่ระบาดปี 2021 มูลค่าตลาดลดเหลือเพียง 25,000 ล้านบาท แต่เมื่อผ่านพ้นช่วงโควิดมาได้ พฤติกรรมเกี่ยวกับกีฬาที่คนหันมาสนใจสุขภาพ เล่นกีฬาแบบจริงจังมากขึ้น ส่งผลให้ตลาดร้านค้าอุปกรณ์กีฬาฟื้นตัวกลับมามีมูลค่าได้เท่าช่วงก่อนโควิด
บริษัท ซี อาร์ ซี สปอร์ต จำกัด หรือ Supersports (ซูเปอร์สปอร์ต) บริษัทโฮลดิ้งค้าปลีกและจัดจำหน่ายเสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬา ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ก้าวสู่ปีที่ 27 คุณอเล็กซองต์ อัมเบล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซี อาร์ ซี สปอร์ต จำกัด เปิดเผยว่า ซูเปอร์สปอร์ตครองส่วนแบ่งตลาดมาเป็นอันดับหนึ่งในตลาดไทย ด้วยสัดส่วน 25% จากการยึด Key success ที่มุ่งเน้นเรื่องความหลากหลายของแบรนด์สินค้า ตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างครอบคลุม นำเสนอประสบการณ์ใหม่ ๆ ทำให้ซูเปอร์สปอร์ตที่เปิดมาตั้งแต่ปี 1997 อยู่มาจนก้าวสู่ปีที่ 27 ได้
เล็น เลิศสุมิตรกุล ผู้ช่วยกรรมการ ผู้จัดการใหญ่อาวุโสฝ่ายกลยุทธ์ บริษัท ซี อาร์ ซี สปอร์ต จำกัด กล่าวว่า นับแต่ช่วงโควิด ปี 2021 ตลาดร้านค้าอุปกรณ์กีฬาในประเทศไทยตัวเลขหายไประดับหมื่นล้านบาท เหลือเพียง 25,000 ล้านบาท จากที่ก่อนโควิดอยู่ที่ราว 35,000 ล้านบาท ก่อนที่ในปี 2023 จะฟื้นตัวกลับมาได้ 32,000 ล้านบาท และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นที่ 35,000 ล้านบาทในปีนี้
- เพิ่มสัดส่วน private label
ซูเปอร์สปอร์ตเป็นผู้ถือครองลิขสิทธิ์การผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์แบรนด์กีฬาระดับโลกในประเทศไทย อย่าง Reebok (รีบอค) Columbia (โคลัมเบีย) Merrell (เมอร์เรล) LFC (สโมสรลิเวอร์พูล) Tottenham Hotspur, Kswiss เป็นต้น โดยใช้เกณฑ์การเลือกเข้ามาจำหน่ายจาก Performance sport และโอกาสในการทำตลาด ตั้งเป้า private label เหล่านี้ ขยับสัดส่วนสินค้าในร้านจาก 5% ไปถึง 10% ได้ภายในสามปี
- ทุ่มงบลงทุน 250 ล้านบาท รีโนเวตร้านต่อเนื่อง
คุณเล็นเผยว่า พฤติกรรมการช้อปของลูกค้าซูเปอร์สปอร์ตที่ส่วนใหญ่ยังคงเกิดขึ้นที่หน้าร้าน ประสบการณ์ภายในร้านเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ยอดขายเติบโต จึงเดินหน้าปรับโฉมร้าน
โดยซูเปอร์สปอร์ตมีสาขาครอบคลุม 92 แห่งทั่วประเทศ ใน 50 กว่าจังหวัด แบ่งเป็นร้านในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล 45% ต่างจังหวัด 55%
สำหรับคอนเซ็ปต์สโตร์ 3.0 ที่เริ่มขึ้นในปี 2024 นี้ นำร่องรีโนเวตที่สาขาเซ็นทรัล เวสต์วิลล์ เซ็นทรัล นครสวรรค์ เซ็นทรัล นครปฐม และเซ็นทรัล เฟสติวัล หาดใหญ่ ซึ่งเป็นสโตร์ใหญ่ที่ไม่ได้รีโนเวตมา 5-6 ปีแล้ว ต่อเนื่องในปีนี้อีกสามสาขา ได้แก่ เซ็นทรัลชิดลม เมกะบางนา และเซ็นทรัลเวสต์เกต ใช้งบประมาณเพิ่ม 250 ล้านบาท สำหรับการปรับโฉมสาขาอื่น สำหรับคอนเซ็ปต์สโตร์ 3.0 จะต้องเป็นสาขาที่มีพื้นที่มากกว่า 1,500 ตร.ม.
โดยเฉลี่ยต่อปีจะเปิดสาขาใหม่ 1-2 สาขาเพียงเท่านั้น เนื่องจากบริษัทมองว่าสาขาที่มีอยู่เพียงพอและครอบคลุมความต้องการของลูกค้าแล้ว โดยจะมุ่งเน้นไปที่การปรับโฉมสาขาที่มีอยู่ก่อน ยกระดับประสบการณ์ช้อปให้ดียิ่งขึ้นมากกว่า เพื่อให้ทันต่อเทรนด์ที่เปลี่ยนแปลง
Top 4 สาขาที่ทำรายได้สูงสุด ได้แก่ ซูเปอร์สปอร์ตเซ็นทรัลเวิลด์ ซูเปอร์สปอร์ตภูเก็ต ซูเปอร์สปอร์ตพัทยา และซูเปอร์สปอร์ตลาดพร้าว แต่โดยรวมสาขาแฟลกชิปสโตร์ขับเคลื่อนยอดขาย 50% ของยอดขายรวม
โดยเฉลี่ยยอดการใช้จ่ายต่อบิลจะอยู่ที่ 1,500 บาทต่อคนต่อบิล ขณะที่ในสโตร์ใหญ่จะเกิน 2,000 บาท แต่สำหรับคอนเซ็ปต์สโตร์ใหม่ ช่วยผลักดันยอดใช้จ่ายต่อบิลโตขึ้น 2-3 เท่า
- 3 กลยุทธ์ ในการรีโนเวต ได้แก่
- Category Leader รวบรวมอุปกรณ์กีฬาและแอคเซสซอรีที่เกี่ยวข้องไว้ 100 แบรนด์ ทั้งแบรนด์ระดับโลกและแบรนด์สัญชาติไทย แบ่งเป็น 10 หมวดหมู่ตามประเภทกีฬา อาทิ Running (วิ่ง) Soccer (ฟุตบอล) Lifestyle (ไลฟ์สไตล์) Rackets (เทนนิส, แบดมินตัน) และ Golf (กอล์ฟ) ฯลฯ
- Store Experience ยกระดับประสบการณ์การช้อปภายใต้คอนเซ็ปต์ Supersports 3.0 รวบรวมสินค้าตั้งแต่ผู้เล่นระดับเริ่มต้น ไปจนถึงผู้เล่นระดับโปร จัดพื้นที่ร้านตามประเภทกีฬา มีพื้นที่สำหรับกิจกรรมแบบอินเตอร์แอคทีฟ อย่างลู่วิ่ง สนามกอล์ฟจำลอง รวมถึงห้องเล่นเกมฟุตบอลในบรรยากาศห้องพักข้างสนาม และช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2567 จะยกระดับประสบการณ์กีฬาไปอีกขั้น โดยเปิดตัวแฟลกชิปสโตร์ สาขาเซ็นทรัล ชิดลม
- Immersive Technology เช่น เครื่อง 3D Scan จากเซฟไซส์ (Safesize) คำนวณและเลือกรองเท้าที่พอดีกับทุกมิติเท้าอย่างแม่นยำด้วยระบบ AI พร้อม Pressure Plate นวัตกรรมวิเคราะห์ท่าวิ่ง ซึ่งช่วยให้สามารถหารองเท้าที่เหมาะสมกับการใช้งานและสรีระ ไว้ใน 20 สาขาภายในปี 2567
อย่างไรก็ดี การแข่งขันในธุรกิจนี้เข้มข้นขึ้นมาก เนื่องจากแบรนด์สินค้ากีฬาใหม่ ๆ ต่อแถวเปิดตัวไม่หยุด บริษัทจึงต้องต่อสู้ทั้งกับค้าปลีกที่เป็นมัลติแบรนด์ และสโตร์ของแบรนด์กีฬาเอง แต่จุดแข็งของซูเปอร์สปอร์ตยังสามารถเอาชนะในสนามรบได้ เนื่องจากมีฐานของ Variety brand ที่โดดเด่น ลูกค้าซื้อที่เดียวจบ ไม่เพียงสินค้าที่หลากหลายเท่านั้น ตามแบรนด์ไดเรกชั่นใหม่ Move You, Move Sports ซูเปอร์สปอร์ตจะแสดงจุดยืนสนับสนุนกีฬาร่วมด้วย
“สิ่งที่ยากในการทำธุรกิจตลาดร้านค้าอุปกรณ์กีฬา คือ ความต้องการของลูกค้าที่ไม่หยุดนิ่ง มีรายละเอียดของสินค้าที่มากขึ้นเรื่อย ๆ (More specialize) อย่างเช่นขณะนี้ที่ลูกค้านิยมเล่นกีฬากันจริงจังมากขึ้น ความต้องการอุปกรณ์กีฬาในระดับที่มีคุณสมบัติสูงก็เพิ่มขึ้นตาม ผู้บริโภคไม่ได้ต้องการเพียงแค่สินค้า เพราะกีฬาไม่ได้จำกัดอยู่แค่เรื่องสุขภาพ แต่ขยายไปถึงการสร้างภาพลักษณ์และการมีส่วนร่วมกับสังคม” คุณอเล็กซองต์ กล่าว
- พฤติกรรมเกี่ยวกับกีฬาของผู้บริโภคในปัจจุบัน
คุณวิยะดา บูรณะภากรณ์ ผู้ช่วยกรรมการ ผู้จัดการใหญ่อาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัท ซี อาร์ ซี สปอร์ต จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เปิดข้อมูลเชิงลึกด้านพฤติกรรมเกี่ยวกับกีฬาของผู้บริโภคในปัจจุบัน ซึ่งมีความเปลี่ยนแปลงนับตั้งแต่การระบาดของโควิด-19 โดยแบ่งเป็น 5 หัวข้อ ได้แก่
1. Sports Become More Informal ผู้บริโภคมองหากีฬาที่เข้าถึงง่าย เล่นได้ง่าย ไม่ต้องมีทักษะการเล่นแบบมืออาชีพ กีฬากลายเป็นกิจกรรมสำหรับการสร้างเสริม Well-being รวมถึงความนิยมของโซเชียลมีเดีย ที่ทำให้ภาพของกีฬาเป็นมิตรและเปิดกว้างมากขึ้น
2. Sports Become Social Connection นอกเหนือจากสุขภาพร่างกายแล้ว กีฬาเริ่มเป็นกิจกรรมที่ใช้ในการสร้างความสัมพันธ์ เป็นช่วงเวลาสำหรับการสร้างคอนเนกชัน แชร์ประสบการณ์และความสนใจร่วมกัน เกิดคอมมูนิตี้กีฬาประเภทต่าง ๆ ที่รวมคนหลายกลุ่มไว้ด้วยความสนใจกีฬาประเภทเดียวกัน
3. The Rise of ‘Athleisure’ หรือเทรนด์การมีลุคสปอร์ตในวันทั่วไป ทั้งด้านเครื่องแต่งกายและไลฟ์สไตล์ ทำให้ความต้องการอุปกรณ์กีฬาเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเสื้อผ้าและรองเท้า ประกอบกับเทรนด์ Work-life balance และการลดความเคร่งครัดของเครื่องแต่งกาย ทำให้แฟชั่นการแมตช์ไอเทมกีฬาในชีวิตประจำวันเป็นที่นิยมอย่างมาก และยังทำให้การออกกำลังหลังเลิกงาน เป็นไปได้ง่ายขึ้นด้วย
4. Sports Brands Choices Exploration ความนิยมที่เพิ่มขึ้นของโซเชียลมีเดีย ทำให้ผู้บริโภคค้นพบแบรนด์ใหม่ได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้ความภักดีต่อแบรนด์ (Brand loyalty) ลดลง ซึ่งเป็นผลทางบวกต่อร้านค้าในรูปแบบมัลติสโตร์ ที่มอบประสบการณ์การช้อปหลากหลายแบรนด์
5. Growth of Sports Interest and Relevance สังคมกำลังให้ความสนใจกับวงการกีฬาอย่างใกล้ชิด มีผลมาจากการพัฒนานักกีฬาไทยให้ก้าวสู่เวทีโลกได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในปี 2567 นี้ ทีมนักกีฬาจากประเทศไทยผ่านการคัดเลือกเข้าไปแข่งในลีกกีฬาชั้นนำระดับโลก ทั้งเอเชียนคัพ โอลิมปิก แอลพีจีเอทัวร์ เมเจอร์ลีกส์ ฯลฯ รวมไปถึงเทศกาลฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป (ยูโร) ที่จะจัดขึ้นในกลางปีนี้
Top 3 ประเภทกีฬาที่เติบโตอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา ได้แก่
1. ประเภทวิ่ง สัดส่วนยอดขายอยู่ที่ 20-25%
2. ไลฟ์สไตล์ 20%
3. ฟุตบอล 13-15%
4. กีฬาแร็กเกต เช่น แบดมินตัน เทนนิส ปิงปอง
จึงเกิดเป็นทิศทางใหม่ของซูเปอร์สปอร์ตคือ Move You, Move Sports มีบทบาทเป็น Move Maker ที่มุ่งมั่นสนับสนุนและส่งเสริมให้สังคมไทยก้าวไปข้างหน้าด้วยพลังของกีฬา ด้วยการจัดกิจกรรมมอบประสบการณ์ให้ลูกค้าต่อเนื่อง อาทิ งานวิ่ง 10 ไมล์ ใจกลางกรุงเทพฯ, คลินิกกีฬาทั้งวิ่ง ฟุตบอล แบดมินตัน เทนนิส จากนักกีฬาระดับโลกและระดับประเทศ เป็นต้น
นอกจากนี้ ซูเปอร์สปอร์ตยังมีแคมเปญ “รื้อ แลก ลด” เชิญชวนนำรองเท้ากีฬาเก่า สภาพดี มาบริจาคเพื่อส่งต่อโอกาสทางการกีฬาให้กับเด็กและเยาวชนที่ยากไร้ในพื้นที่ห่างไกล แลกรับส่วนลดในการซื้อรองเท้าใหม่ จนถึงวันที่ 6 มิถุนายน 2024
“ปีที่ผ่านมาบริษัทเติบโต 20% เนื่องจากเป็นช่วง Recovery จากโควิด สำหรับปี 2024 บริษัทตั้งเป้าเติบโต 9% เป็นการเติบโตกว่าตลาดซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ 7-8% จากการได้รับปัจจัยหนุนจากการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มดี ฤดูกาลกีฬาโอลิมปิก ซึ่งคาดว่าจะช่วยผลักดันยอดขายได้อย่างน้อย 5-10% ในช่วงฤดูกาลกีฬานี้ ตั้งเป้าผลักดันรายได้ให้ไปถึง 10,000 ล้านบาท ภายในปี 2026” คุณเล็น กล่าวสรุป
ส่อง ซูเปอร์สปอร์ต ในเครือเซ็นทรัล รีเทล
| ชื่อบริษัท: บริษัท ซี อาร์ ซี สปอร์ต จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล | |||
| เปิดมาตั้งแต่ปี 1997 อยู่มา 27 ปี | |||
| ร้านที่มีโมเดลธุรกิจใกล้เคียงกัน: Sportsworld, SportsMall | |||
| มาร์เก็ตแชร์ในตลาดร้านค้าอุปกรณ์กีฬา 25% | กลุ่มลูกค้าที่กลับมาซื้อซ้ำ 75% | ค่าใช้จ่ายต่อบิล 1,500-2,000 บาทต่อคนต่อบิล | |
| ถือครองลิขสิทธิ์การผลิตและจัดจำหน่าย:
– Reebok – Columbia – Merrell – LFC – Tottenham Hotspur – Kswiss |
|||
| สาขา 92 แห่ง แบ่งเป็น : | ร้านในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล 45% | ||
| Top 3 สัดส่วนยอดขายแยกตามประเภทกีฬา | |||
| 1. ประเภทวิ่ง | 20-25% | Top 4 สาขาที่ทำรายได้สูงสุด
– ซูเปอร์สปอร์ตเซ็นทรัลเวิลด์ – ซูเปอร์สปอร์ตภูเก็ต – ซูเปอร์สปอร์ตพัทยา – ซูเปอร์สปอร์ตลาดพร้าว |
|
| 2. ไลฟ์สไตล์ | 20% | ||
| 3. ฟุตบอล | 13-15% | ||
| <2015 คอนเซ็ปต์ Supersports 2.0 | <2024 คอนเซ็ปต์ Supersports 3.0 | ||
| 2020 | 2021 | 2022 | |
| รายได้ | 8,323 | 6,968 | 9,419 |
| กำไร | -44 | -363 | 225 |
| ตลาดร้านค้าอุปกรณ์กีฬาในประเทศไทย (ล้านบาท) | |||
| 2019 | 2021 | 2023 | 2024 |
| 35,000 | 25,000 | 32,000 | 35,000 |
–

