BEAUTRIUM ชูจุดยืน Beauty Companion ทลายทุกกำแพง ให้คนไทยได้ลองเครื่องสำอางทุกระดับ
“การแบ่งชนชั้น คือกำแพงที่กั้นไม่ให้เราได้เห็นสิ่งที่ดี” Quote อมตะของ โทนี่ มอร์ริสัน นักเขียนหญิงเชื้อสายแอฟริกันอเมริกันคนแรกที่ได้รับรางวัลโนเบล ผู้ต่อสู้ผ่านการตั้งคำถามถึงการเข้าถึงที่เท่าเทียมและเปิดประตูให้กับทุกสิ่งทุกอย่าง ถูกหยิบขึ้นมาเป็นหนึ่งใน Wording ที่ “BEAUTRIUM” (บิวเทรี่ยม) บิวตี้รีเทลชั้นนำหยิบมาเป็นรัน Branding Campaign ใหม่ล่าสุดที่ชวนคนไทยได้ลองเครื่องสำอางทุกระดับ โดยสื่อสารผ่านภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ที่มาส่งต่อ Key Message “บิวเทรี่ยม…เราจะทำให้คุณได้ลองคบกับเครื่องสำอางทุกระดับในโลก” ตอกย้ำจุดยืนของแบรนด์ที่ว่าBEAUTRIUM Beauty Companion : เพื่อนทุกความสวย”
ชูจุดยืน “Beauty Companion”
เคียงข้างทุกความสวยของทุกคน
จากร้านค้าส่งเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ความงามที่ปรับมาทำค้าปลีก จนสามารถยืนหยัดอย่างแข็งแกร่งขับเคลื่อนเปลี่ยนผ่านสู่การเป็น “อาณาจักรสินค้าความงาม” บิวตี้รีเทลไทยที่ทำรายได้ถึงหลัก 2,000 ล้าน
ตลอดเส้นทาง 12 ปี BEAUTRIUMได้มุ่งมั่นในการนำเสนอจุดยืน “Beauty Companion” ที่อยากเป็นเพื่อนสนิทกับทุกความสวยของทุกคน คอยเเนะนำสิ่งดี ๆ และอยู่เคียงข้างกันตั้งเเต่วัยมัธยม จนเข้ามหาวิทยาลัย เติบโตไปด้วยกันไปถึงวันที่เริ่มชีวิตวัยทำงาน
โดยมุ่งเน้นการเสาะแสวงหาสินค้าคุณภาพจากทั่วโลก ที่ราคาคุ้มค่าและอยู่ในกระเเส มาจำหน่ายในร้าน และได้ร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ในการค้นหาสินค้าเทรนดี้เพื่อจำหน่ายในร้านแบบ Exclusive เฉพาะในBEAUTRIUMเท่านั้น เพื่อสร้างความแตกต่างและเอกลักษณ์ รวมถึงเพิ่มเเบรนด์พรีเมียมต่าง ๆ และไลน์สินค้าที่หลากหลาย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าอยู่เสมอ
Cosmetic Equality : เพราะเครื่องสำอางไม่มีชนชั้น
อย่างที่ทราบกันดีว่า มูลค่าตลาดเครื่องสำอางนั้นสูงมากและเติบโตขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันก็มีการแข่งขันที่รุนแรงยิ่งขึ้นเช่นกัน ดังเห็นได้จากแบรนด์ใหม่ ๆ ทั้งในไทยและต่างประเทศและยังถูกส่งต่อมาขายข้ามประเทศได้ง่ายขึ้นกว่ายุคก่อนมาก
เมื่อโลกของความงามเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ผลดีจึงไปเกิดกับลูกค้าที่มีโอกาสได้รู้ได้ลองสินค้าใหม่ ๆ อยู่เสมอเพื่อสรรหาของที่ตอบโจทย์ตรงใจได้มากที่สุด อย่างไรก็ดี ท่ามกลางทางเลือกที่หลากหลาย ยังมีผู้บริโภคอีกมากมายที่ยังรู้สึกไม่มั่นใจ และกล้าเปิดใจให้กับสินค้าเสริมความงามที่ไม่คุ้นชิน
จาก Insight ดังกล่าว BEAUTRIUMจึงต้องการ Support เพื่อเสริมความมั่นใจและกระตุ้นให้ทุกคนเปิดใจกล้าที่ลอง ผ่าน Branding Campaign ใหม่ในครั้งนี้ ที่BEAUTRIUMอยากให้ทุกคนได้ลองคบกับเครื่องสำอางทุกระดับในโลก เพราะเชื่อว่าไม่มีอะไรมาปิดกั้นความสนุกที่ได้ลองเครื่องสำอางได้
สื่อสารถึงกลุ่มเป้าหมาย ผ่านภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่
เพื่อสื่อสารจุดยืนของแบรนด์ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น BEAUTRIUMเลือกสื่อสารผ่านภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ ที่เนื้อหาเน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายด้วย Wording ที่แฝงด้วยประเด็นที่ต้องการนำเสนอได้อย่างคมชัด
โดยเรื่องเริ่มที่ “แพรรี่” หญิงสาวในตระกูลชั้นสูงที่นั่งคุยกับเพื่อนสาวที่มาในนามตัวแทนเครื่องสำอางราคาถูก ระหว่างที่กำลังปรึกษาเรื่องความงามกันอย่างออกรส ทันใดนั้น คุณนายแม่ลุคสูงศักดิ์ของสาวน้อยก็เปิดประตูเข้ามา พร้อมพบภาพบาดตาและขัดอารมณ์
“ฉันไม่ได้เลี้ยงแกมาให้สุงสิงกับเครื่องสำอางพวกนี้” บทพูดสะท้อนอารมณ์เกรี้ยวกราดของคุณนายแม่ จิกกัดไปถึงรสนิยมการเลือกใช้เครื่องสำอางของลูกสาวที่ไม่ได้ดังใจ
“ยุคนี้เครื่องสำอางไม่มีชนชั้นแล้ว” แม้คำอธิบายที่ดีของแพรรี่ก็ยังไม่มีน้ำหนักมากพอให้ผู้เป็นแม่เปิดใจรับฟัง พานขยี้ซ้ำด้วยอคติเรื่อง Packaging ที่ไม่เลอค่าพอ พร้อมทิ้งคำเสียดสีใจความว่า “อยู่นอกบ้านหยิบมาใช้ไม่อายหรือ?”
จนมาถึงบทพูดของแพรรี่ที่เป็นเหมือนจุดตัดสำคัญของเรื่องคือ “ยึดติดจนไม่รู้ว่า ‘ความสนุก’ ของยุคนี้ไปถึงไหนแล้ว”
นี่คือ Wording ที่สะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของBEAUTRIUMที่ว่า “ท่ามกลางความหลากหลายของสินค้าและวิถีการดูแลความงามที่เปลี่ยนไปในทุกวัน BEAUTRIUM จะทำให้คนเปิดรับ โอบรับความงามที่เปลี่ยนแปลง และสนุกกับการดูแลตัวเองในทุกวัย”
พร้อมทิ้งท้ายด้วย Key Message ที่แบรนด์ต้องการนำเสนอ คือ “บิวเทรี่ยม…เราจะทำให้คุณได้ลองคบกับเครื่องสำอางทุกระดับในโลก” เพื่อกระตุ้นให้คนเปิดใจกล้าที่จะลองกับตัวเลือกความงามที่แตกต่าง และต้องการให้คนลองหาเครื่องสำอางที่ใช่สำหรับตัวเองจริง ๆ โดยที่ภายในเรื่องไม่มีการขายสินค้า สอดแทรกผลิตภัณฑ์ หรือเชื้อเชิญมาซื้อของแต่อย่างใด
BEAUTRIUMเพื่อนที่พร้อมตอบทุกโจทย์ความงาม
ด้วยสินค้ามากกว่า 5,000 แบรนด์ และมากกว่า 100,000 รายการ
เมื่อมองภาพใหญ่ของกลุ่มผู้สนใจสินค้า Beauty นั้น อาจแบ่งได้เป็น 3 กลุ่มใหญ่ ๆ ได้แก่
- Functional Value: กลุ่มคนที่ให้ความสำคัญและสนใจในคุณภาพของเครื่องสำอางเป็นหลักในการจะเลือกซื้อหรือเลือกลอง ต้องเน้นคุณภาพ เน้นความคุ้มค่า ใช้งานได้จริง
- Emotional Value: กลุ่มคนที่ตัดสินใจเลือกซื้อ-เลือกลองเครื่องสำอาง จากการอ่านรีวิวต่าง ๆ และการป้ายยาของเพื่อน ๆ
- Social Value: กลุ่มคนที่ให้ความสำคัญกับคนรอบข้าง แคร์สายตาคนอื่นหรือสังคม ซึ่งมีทั้งไม่กล้าลองสินค้าแพงเพราะกลัวหาว่าเกินตัว และไม่กล้าลองสินค้าราคาถูกเพราะกลัวคนอื่นมองไม่ดี
ซึ่งจากแกนหลักการขับเคลื่อนของ BEAUTRIUM จะเห็นว่าแบรนด์ได้เสิร์ฟสินค้าและบริการได้ตอบโจทย์กับทุกกลุ่มอย่างแท้จริง ด้วยสินค้าภายในรวมแล้วมากกว่า 5,000 แบรนด์ และมากกว่า 100,000 รายการสินค้า มีให้เลือกตั้งแต่สินค้าแบรนด์ดังเพื่อคนกำลังซื้อสูง ไปจนถึงสินค้า Local Brand ระดับคุณภาพในราคาจับต้องได้
ทั้งสินค้าคุณภาพที่มาพร้อมความคุ้มค่าสำหรับกลุ่ม Functional Value และตัวเลือกหลากหลายที่พร้อมเป็นเพื่อนที่ใช่สำหรับกลุ่ม Emotional Value ให้ได้ลองให้ครบทุกแบบ ทุกระดับ ตลอดจนเสริมความมั่นใจให้กับกลุ่ม Social Value ให้สนุกในการได้ลองเครื่องสำอางทุกระดับในโลกที่BEAUTRIUMนั่นเอง
เพราะโลกความงามไม่มีพรมแดนและชนชั้น นี่จึงเป็นการแสดงจุดยืนที่ชัดเจนของBEAUTRUIMในการเป็นเสมือนเพื่อนที่พร้อมเคียงข้างทุกความสวยของทุกคน ด้วยการส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายทุกระดับที่คัดสรรมาแล้ว เพื่อมอบประสบการณ์ความงามและความสนุกในการดูแลตัวเองให้กับทุกคน ผ่านการบริการด้านความงามที่ยอดเยี่ยม
“BEAUTRIUM Beauty Companion: เพื่อนทุกความสวย”
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
