กลยุทธ์ธุรกิจพิชิตใจผู้บริโภค ในยุคเศรษฐกิจไม่แน่ไม่นอน จาก LINE ประเทศไทย (วิเคราะห์)
แบรนด์และนักการตลาดจะทำอย่
เมื่อต้องเจอโจทย์ใหญ่ในยุคของ ‘เศรษฐกิจไม่แน่ไม่นอน’
และพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
นี่คือคีย์สำคัญและเป็นที่มาของงาน THAILAND NOW & NEXT: Thriving through The Economic Instability งานสัมมนาธุรกิจที่จัดโดย LINE ประเทศไทย เพราะเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคที่น่าสนใจ
พร้อมกับแชร์อินไซต์กลยุทธ์ธุรกิจเพื่อให้แบรนด์และนักการตลาด
สามารถพิชิตใจผู้บริโภคในยุคนี้ได้สำเร็จ
ทำไมถึงเป็นยุค ‘เศรษฐกิจไม่แน่ไม่นอน’?

รัฐธีร์ ฉัตรดำรงค์ศักดิ์ รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการพาณิชย์ LINE ประเทศไทย
ขึ้นอธิบายบนเวทีไว้อย่างน่าสนใจ
เศรษฐกิจไทยอาจดูฟื้นตัวได้จากภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคในประเทศที่แข็งแกร่งขึ้น พร้อมกับตัวเลข GDP อยู่ที่ 2.3-2.6%
แต่เรื่องที่ต้องกังวล คือ เรื่องหนี้ครัวเรือน ที่มีสัดส่วนสูงถึง 90% รวมถึงเรื่องค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ซึ่งกระทบโดยตรงกับเครื่องจักรเศรษฐกิจอย่างภาคส่งออกและภาคการท่องเที่ยว
แน่นอนว่าส่งผลให้ผู้บริโภคยุคนี้ไม่ใช่ไม่กล้าใช้เงินจับจ่ายซะทีเดียว…
แต่กำลังเปลี่ยนสู่ การใช้จ่ายแบบพิถีพิถันและตั้งใจมากขึ้น (Value for Money)
ซึ่งเป็นโจทย์ท้าทายที่นักการตลาดต้องปรับตัวตามผู้บริโภค

ข้อมูลจาก นีลเส็นไอคิว ประเทศไทย โดย ชินตา ศรีจินตอังกูร Thailand Site Leader ที่ได้ขึ้นแชร์ข้อมูลบนเวทีนี้ระบุเช่นกันว่า “คนไทยยังคงใช้จ่าย เเต่ใช้อย่างระวัง และมองว่าสิ่งที่เขาจะได้นั้นคุ้มค่าหรือไม่มากขึ้น”
ในขณะที่ผลสำรวจระบุว่า มีเพียง 29% ที่รู้สึกว่าสถานภาพทางการเงินของพวกเขาดีขึ้น และอีก 35% พวกเขายังอยู่ในสภาวะที่สถานภาพทางการเงินไม่ค่อยดีนัก ทำให้ใช้จ่ายอะไรก็ยังคงต้องคิดหน้าคิดหลัง
สำหรับสินค้าที่รู้สึกว่าจำเป็นต่อการที่ต้องจ่ายเงินออกไป คือ สินค้าอุปโภคบริโภค (FMCG) โดยเฉพาะสินค้าของใช้ภายในบ้าน และยังจริงจังกับการแพลนเวลาออกไปซื้อสินค้านอกบ้านมากขึ้น รวมถึงเลือกซื้อแต่พอดีเพื่อไม่ให้เหลือทิ้งอีกด้วย
อีกหนึ่งข้อมูลสำคัญคือ “ผู้บริโภคยังมีความภักดีต่อแบรนด์น้อยลง พร้อมที่จะเปลี่ยนไปซื้อสินค้าที่มองว่าคุ้มค่ากว่า” สะท้อนได้จากการเติบโตของสินค้าที่เป็นเฮาส์แบรนด์ที่เติบโตขึ้น ตอกย้ำว่าผู้บริโภคยังมีความภักดีต่อแบรนด์น้อยลง
และที่น่าสนใจคือผู้บริโภคยุคใหม่ โดยเฉพาะ GEN Z มีความเป็น OMNI Shopper ที่เข้มข้นกว่าเดิม หาข้อมูลจากโซเชียลแล้วไปซื้อที่หน้าร้าน หรือจับสัมผัสรับประสบการณ์จริงจากหน้าร้านและมาช้อปบนออนไลน์ต่อ ทำให้แบรนด์มีอีกหนึ่งหน้าที่ต้องห้ามมองข้ามก็คือการเข้าไปอยู่ในทุกทัชพอยต์ของลูกค้าให้ได้ทั้งในแง่การสื่อสาร สร้างแบรนด์ และช่องทางการจัดจำหน่าย
ผู้บริโภคปรับตัวเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงขนาดนี้…
แบรนด์มีการปรับตัวอย่างไรบน LINE
และมีการใช้กลยุทธ์อะไรมาช่วยพิชิตใจลูกค้ากันบ้าง?

คุณศรีสุภาคย์ อารีวณิชกุล ผู้อำนวยการธุรกิจองค์กร จาก LINE ประเทศไทย ย้ำชัด ๆ อีกครั้งว่าแบรนด์จะก้าวทันผู้บริโภคได้นั้นต้องมีตัวขับเคลื่อนสำคัญ คือ ‘ดาต้า’ โดยหลากหลายแบรนด์ในไทย มีการนำดาต้ามาปรับใช้ เพื่อสร้างกลยุทธ์การตลาดมากขึ้น พร้อมกับแชร์ 4 กลยุทธ์สำคัญที่ LINE มองเห็นแบรนด์นำมาปรับใช้ เพื่อช่วยพิชิตใจลูกค้าในยุคนี้
EMPHASIZE more on OMNI-MEDIA USAGE:
การใช้ช่องทางโฆษณาแบบผสมผสาน
โดยอินไซต์จาก LINE พบการเปลี่ยนแปลงในการลงโฆษณาตั้งแต่ในช่วงของยุคโควิด-19 ทั้งแบรนด์เล็กและบิ๊กแบรนด์มุ่งเป้าในการทำโฆษณาเพื่อหวังผลในด้าน ‘ยอดขาย’ เป็นหลัก เพื่อเรียกกระแสเงินสด และก้าวผ่านพ้นวิกฤตที่ต้องเผชิญไปได้ แต่การมุ่งเป้าไปที่ยอดขายเพียงอย่างเดียว อาจทำให้ความภักดีต่อแบรนด์ในตัวผู้บริโภคลดลงไปด้วย
แบรนด์จึงเริ่มปรับตัวและมีแนวโน้มในการลงโฆษณาบนแพลตฟอร์ม LINE เป็นรูปแบบผสมผสานมากขึ้น โดยใช้ทั้งโฆษณาแบบ Reservation เพื่อเข้าถึงระดับลูกค้ากลุ่ม Mass และเป็นเครื่องมือในการสร้างการรับรู้แบรนด์ (Brand Awareness) ที่ดี ควบคู่ไปกับการยิงโฆษณาด้วย LINE Ads เพื่อระบุกลุ่มเป้าหมายแบบเฉพาะเจาะจง ช่วยให้แบรนด์สามารถเพิ่มประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณาได้ดีขึ้น และเลือกใช้กลุ่มเป้าหมายแบบ Cross Targeting ร่วมกัน
ผลของการปรับโฆษณาแบบผสมผสานยังช่วยให้ประสิทธิภาพของโฆษณา ยอด CTR เพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 2 เท่าเมื่อเทียบกับการทำโฆษณาแยกกันแบบปกติ
กลุ่มลูกค้าที่ปรับตัวมาใช้กลยุทธ์โฆษณาแบบนี้หลักๆ คือ กลุ่มสินค้าเทคโนโลยี ทำให้สามารถเพิ่มยอด CTR สูงขึ้น 28% กลุ่มรถยนต์เพิ่มขึ้น 76% และกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม ที่หันมาใช้การทำโฆษณาแบบผสมผสานบน LINE ทำยอด CTR เพิ่มขึ้นถึง 209%
UNDERSTAND CONSUMER through LINE Ads USAGE : การเลือกใช้กลุ่มเป้าหมายใหม่ๆในการยิงโฆษณา
“ทำโฆษณารถยนต์ ไม่จำเป็นต้องยิงโฆษณาไปหาแค่คนสนใจเรื่องรถ”
อินไซต์จริงจากลูกค้า LINE ยังพบว่า แบรนด์รถยนต์หลายแบรนด์ยังเลือกที่จะยิงโฆษณาไปหากลุ่มคนที่สนใจเรื่องครอบครัว ช่วยเพิ่มผลลัพธ์ประสิทธิภาพแคมเปญโฆษณาในเชิงยอด CTR +32% กลุ่มคนที่สนใจเรื่องแต่งงาน +39% และกลุ่มคนที่รักในเสียงดนตรี +54% หรืออีกหนึ่งตัวอย่าง โฆษณากลุ่มสินค้าความงามก็สามารถขยายกลุ่มเป้าหมายไปที่กลุ่มคนที่สนใจเกี่ยวกับ เรื่องการเงิน การลงทุน ด้วยเช่นกัน

ภาพเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึง “โอกาส” ในการเข้าเป้าหมายที่กว้างขึ้น หลากหลายเซกเมนต์แต่มีความสนใจที่เกี่ยวโยงกัน อันเป็นผลมาจากการที่ LINE เองมีการเพิ่ม Persona Targeting ที่ละเอียดขึ้น หลากหลายขึ้น ให้แบรนด์และนักการตลาดสามารถหยิบมาใช้เป็นเครื่องมือในการเข้าถึงเป้าหมายในการยิงโฆษณาตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา
PRIORITIZE to 1ST PARTY DATA : จะเข้าถึงลูกค้าได้แม่นยำต้องให้ความสำคัญกับการเก็บข้อมูล
ในยุคที่ดาต้าคือทองคำ… คุณศรีสุภาคย์ไฮไลท์ว่านาทีนี้ แบรนด์ที่มีข้อมูลในมือ โดยเฉพาะ
1st PARTY DATA ก็เหมือนมีถังเก็บความมั่นคงของแบรนด์ ในวันที่โลกกำลังถูกขับเคลื่อนด้วยดาต้าและดิจิทัลแบบนี้
3 ปีที่ผ่านมามีแบรนด์ที่เริ่มเก็บ 1st PARTY DATA บน LINE เพิ่มขึ้น 18% และนำข้อมูลดาต้าที่มีอยู่ในมือมาใช้ในการเลือกกลุ่มเป้าหมายที่จะสื่อสาร โดยธุรกิจที่เป็นกลุ่มผู้นำในเรื่องนี้ คือ กลุ่มของธุรกิจการเงินและประกัน กลุ่มค้าปลีกและอีคอมเมิร์ซ รวมถึงภาครัฐ ตามมาด้วยกลุ่มรถยนต์ และ FMCG
โดยทาง LINE มีเครื่องมือในการบริหารจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ที่เรียกว่า MyCustomer ลูกค้าบางกลุ่มธุรกิจที่มีดาต้าในมืออยู่แล้วก็สามารถนำดาต้าที่มี มาจัดเก็บ รวบรวมบน MyCusotmer ได้เช่นกัน คุณศรีสุภาคย์ยกตัวอย่างเช่นธุรกิจการเงิน ซึ่งแน่นอนว่ามี 1st PARTY DATA ในมือจำนวนมากก็สามารถนำมาเก็บรวบรวมไว้บน MyCustomer แล้วนำมาจำแนก จัดกลุ่มลูกค้า เพื่อมาสร้างการสื่อสารผ่านข้อความบรอดแคสต์ส่งให้กับลูกค้าเป็นเฉพาะบุคคลบน LINE OA ไม่ว่าจะเป็นข้อความเพื่อการอัปเดตข้อมูลบัญชี หรือการทำธุรกรรมต่างๆ

อีกทั้ง การมีดาต้าที่ถูกต้องและมากพอ ยังทำให้แบรนด์นำเสนอบริการที่เหมาะสมกับลูกค้าในแต่ละกลุ่มแตกต่างกันออกไปได้ ตามข้อมูลความสนใจของลูกค้าที่แบรนด์มีอยู่ในมือ เช่น สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้ากลุ่ม Wealth โปรโมชั่นสำหรับสายกินดื่ม ช้อปปิ้ง พลิกแพลงได้หลากหลาย
“และการใช้ข้อมูลดาต้าจัดกลุ่มลูกค้า เพื่อส่งข้อความบรอดแคสต์ บน LINE OA ทำให้เปอร์เซ็นต์ในการเปิดอ่านของกลุ่มเป้าหมายเพิ่มขึ้นได้ถึง 4 เท่าตัว”
และสำหรับแบรนด์ที่ยังไม่มีข้อมูล ก็สามารถเริ่มเก็บ 1st PARTY DATA เป็นของตัวเองผ่าน LINE ด้วยการใช้งานเครื่องมือเสริมอย่าง Mission Stickers ชวนลูกค้า กรอกแบบสอบถามรับสติกเกอร์ฟรี ซึ่งเมื่อเทียบกับการเก็บดาต้ารูปแบบอื่นมีราคาถูกกว่าถึง 50%
กลยุทธ์ธุรกิจพิชิตใจผู้บริโภค
PERSONALIZATION EXPERIENCE at SCALE “สร้างประสบการณ์เฉพาะบุคคล”
อีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญที่ขาดไม่ได้ คือการสร้างประสบการณ์เฉพาะบุคคลให้กับลูกค้า โดยคุณศรีสุภาคย์ยกตัวอย่างการแบ่งกลุ่มลูกค้าในธุรกิจยานยนต์เป็น 3 กลุ่มตัวอย่างให้เห็นภาพง่าย และนำดาต้าที่มีมาจำแนกกลุ่มเป้าหมายและความต้องการ เพื่อนำเสนอคอนเทนต์หรือประสบการณ์อะไรบางอย่างที่ผู้บริโภคในกลุ่มนั้น ๆ ได้ตรงตามความต้องการจริง ๆ
– COLD (Low Purchase) หรือกลุ่มลูกค้าที่อาจกำลังดู ๆ อยู่ว่าจะซื้อรถยนต์ อาจจะรู้จักแบรนด์แต่ยังไม่ทราบรายละเอียดรุ่นรถ หน้าที่ของแบรนด์ในการพิชิตใจลูกค้ากลุ่มนี้ คือ การนำเสนอคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องกับดีไซน์ รุ่นรถ ฟีเจอร์เด่น ๆ หรือเรื่องราคา
– WARM (Mid Purchase) หรือกลุ่มลูกค้าที่มีเป้าหมายว่าจะซื้อรถยนต์และกำลังเลือกรุ่น เลือกแบรนด์ คอนเทนต์หรือแมสเซจที่แบรนด์จะจับลูกค้ากลุ่มนี้ก็ควรเป็นเรื่องการเทียบรุ่น โปรโมชั่นในแต่ละโมเดล หรือเริ่มเข้าเรื่องเกี่ยวกับการไฟแนนซ์
– HOT (High Purchase) กลุ่มนี้ซื้อแน่อยู่ในขั้นตัดสินใจอันดับสุดท้าย แบรนด์ก็สามารถยิงโฆษณาที่เป็นเอ็กซ์คลูซีฟดีล หรือชวนไปทดลองขับหรือดีลพิเศษจองภายในเร็ววันนี้ได้รับสิทธิพิเศษต่าง ๆ ให้กับลูกค้า
หรืออย่างในธุรกิจรีเทลและธนาคาร ก็มีลูกค้าของ LINE นำดาต้ามาสร้าง Rich Menu บน LINE OA ให้แตกต่างกันไปตามระดับสมาชิกของลูกค้าแต่ละคนได้ด้วยเช่นกัน

และทั้งหมดนี้คือเทรนด์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอยู่ตลอดเวลา คำถามสำคัญคือแบรนด์เองต่างหากพร้อมหรือยังที่จะปรับตัวตามเทรนด์ที่เกิดขึ้น รวมถึงการนำดาต้าหรือข้อมูลที่ทราบดีว่าสำคัญกับการทำธุรกิจในยุคนี้มาปรับใช้ นำมาเป็นเครื่องมือเพื่อให้แบรนด์เติบโตและอยู่รอดท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงได้หรือไม่?
“และ LINE เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มหลักสำหรับภาคธุรกิจไทย ในการนำข้อมูลและเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับตัว อยู่รอด และเติบโตอย่างมั่นคง ในยุคที่การแข่งขันและการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว”
ผู้สนใจงาน Thailand NOW & NEXT 2024
สามารถติดตามข่าวสารและรับชมงานย้อนหลังได้ทาง YT: LINE for Business ได้เร็ว ๆ นี้
#ThailandNowandNext #LINEforBusiness
Website : Marketeeronline.co /






