Trend/แม้มีอายุเพียง 22 ปี แต่ Crocs ก็ถือเป็นแบรนด์ที่มีเรื่องราวมากมายให้กล่าวถึง โดยหนึ่งในนั้นคือ ความกล้าในการทำแคมเปญ ผ่านสินค้าไอเดียแปลก ๆ เช่น จับมือกับ KFC ออกรองเท้าลายไก่ทอดเมื่อปี 2020
ข้ามมาปี 2024 Crocs สานต่อสินค้าไอเดียแปลกอีกครั้ง โดยคราวนี้เปิดโอกาสให้ทั้งคนและสัตว์ได้ใส่รองเท้าที่มีลวดลายเดียวกัน
Crocs จับมือกับ BARK บริษัทผู้ผลิตสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยงแบบสมัครสมาชิกในสหรัฐฯ ออก Pet Crocs รองเท้าสำหรับหมาที่มาคู่กับรองเท้าลายเดียวกันของเจ้าของ ตามกระแสเรียกร้องของเหล่าคนรักน้องหมา รับเดือนตุลาคม ภายใต้ชื่อแคมเปญ Croctober
Andrew Rees ซีอีโอ Crocs มั่นใจว่า ไลน์สินค้าล่าสุด ซึ่งเฉพาะของน้องหมาราคาอยู่ที่คู่ละ 4 ถึง 18 ดอลลาร์ (ราว 133 ถึง 600 บาท) และจะขายเฉพาะช่วงตุลาคมนี้เท่านั้น น่าจะขายได้ เพราะกำลังซื้อของผู้บริโภคและตลาดรองเท้าแตะกลับคืนสู่ระดับปกติก่อนช่วงโควิดแล้ว
CNN วิเคราะห์อิงจากข้อมูลของ GlobalData บริษัทที่ปรึกษาในแวดวงค้าปลีกสหรัฐฯ ว่า ความมั่นใจของ Crocs ต่อคอลเลกชั่นนี้มีที่มา เพราะตั้งแต่ปี 2013 ถึง 2021 เงินที่ผู้บริโภคในสหรัฐฯ ใช้ไปกับสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้นถึง 77.9% ท่ามกลางการเพิ่มขึ้นของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เลี้ยงสัตว์แทนลูก หรือ Pet Parents
ค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเมื่อปี 2023 เพิ่มเป็น 1,400 ล้านดอลลาร์ (ราว 46,500 ล้านบาท) โดยมีการคาดกันว่าสิ้นปี 2024 จะเพิ่มขึ้นอีกเป็น 1,506 ล้านดอลลาร์ (ราว 50,100 ล้านบาท)
นอกจากนี้ สินค้าไอเดียแปลก ๆ ของ Crocs ก็มีกระแสตอบรับดีอยู่เสมอ เพราะมีฐานแฟนของแบรนด์อยู่ และ Gen Z กลุ่มลูกค้าหลักของแบรนด์ก็พร้อมซื้อมาใส่อวดกันผ่านสื่อโซเชียล
โดยยิ่ง Pet Crocs เป็นรองเท้าคู่ระหว่างเจ้าของกับหมาที่เลี้ยงอยู่ หากโพสต์ภาพขึ้นสื่อโซเชียล ยอดไลก์ยอดแชร์ก็ย่อมมากกว่าภาพรองเท้าทั่วไป ความต้องการก็น่าจะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
การออกสินค้าไอเดียแปลกหลุดโลกที่ดูไม่น่าจะเข้ากันได้ และหวังผลด้านตลาดนี้ ในทางการตลาดเรียกว่า Unhinged Product โดยผลตอบรับของสินค้ากลุ่มนี้ส่วนใหญ่ก็เป็นไปในทางดี เพราะใครเห็นเข้าก็อดที่จะแชร์ต่อไม่ได้
นอกจากนี้ การผลิตเพื่อขายออกมาในเวลาจำกัด หรือใช้ประโยชน์จากความขาดแคลน แบรนด์จึงลงทุนน้อย แต่กระตุ้นความอยากซื้ออย่างมาก
สำหรับ Crocs ก่อตั้งโดยกลุ่มเพื่อนนักธุรกิจชาวอเมริกัน 3 คน เมื่อปี 2002 จากความอยากได้รองเท้าที่เบา ใส่สบาย ทนทาน และใส่ได้ตลอดทริปการล่องเรือ ซึ่งมาลงตัวที่รองเท้าทำจากจากพอลิเมอร์ประเภทหนึ่งของโรงงานในแคนาดา
พอรองเท้าล็อตแรกขายดี ทั้ง 3 ก็ซื้อกิจการโรงงานดังกล่าว และหันมาปั้นแบรนด์ Crocs อย่างจริงจัง โดยในปี 2005 ทำยอดขายได้เพิ่มเป็น 6 ล้านคู่ และเงินจากยอดขายส่วนหนึ่งถูกนำไปใช้ในการซื้อกิจการ บริษัทผลิตของตกแต่งรองเท้า Jibbitz
อย่างไรก็ตาม วิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2008 ที่เริ่มในสหรัฐฯ ทำให้ Crocs วิกฤตไปด้วย จนเกือบจะล้มละลาย โดยหลังพ้นมรสุมมาได้ Crocs ก็มีแต่ข่าวดีเข้ามา เริ่มจากดีไซเนอร์ติดต่อขอรองเท้าไปให้นางแบบสวมในปี 2016 จนเป็นที่รู้จักมากขึ้น
อีก 2 ปีต่อมา รองเท้าทรงโตของ Crocs ก็ไปเตะตาแบรนด์ดังอย่าง Balenciaga จนมีการจับมือกันผลิตรุ่นราคาสูงถึง 850 ดอลลาร์ (ราว 28,300 บาท) ออกมา จากนั้นก็กลายเป็นหนึ่งในแฟชั่นไอเทมคู่กายคนรุ่นใหม่กลุ่ม Gen Z
ข้ามมาปี 2021 ขณะที่ทั่วโลกเผชิญสถานการณ์โควิด ต้องใช้ชีวิตกันอยู่ที่บ้านใต้มาตรการล็อกดาวน์ รองเท้าใส่สบายก็กลายมาเป็นที่ต้องการ ดันให้รองเท้าของ Crocs ขายดีไปด้วย จนไตรมาสแรกปีนั้น Crocs ทำยอดขายได้ถึง 429 ล้านดอลลาร์ (ราว 14,300 ล้านบาท) สูงสุดนับตั้งแต่ตั้งบริษัทมา
ปัจจุบัน Crocs เป็นที่จดจำในฐานะแบรนด์รองเท้าทรงแปลก ๆ หลุดโลกและดูน่าเกลียด หรือ Uglycore ซึ่งทางแบรนด์ก็พลิกเป็นจุดขายภายใต้สโลแกนว่า Ugly Can Be Beautiful
และเดินหน้าออกสินค้าแปลก ๆ แบบ Unhinged Product อยู่เสมอ ซึ่งสินค้าตัวล่าสุดก็คือ Pet Crocs ที่กล่าวถึงไปแล้วด้านบนนั่นเอง/cnn
–