Trend/หนึ่งในปัญหาใหญ่ที่จีนยุคใหม่ภายใต้การนำของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ยังแก้ไม่ตก คือ วิกฤตประชากรทั้งระบบ อันได้แก่ อัตราเกิดต่ำ ประชากรสูงวัยทวีจำนวนขึ้นไม่หยุด และคู่รักประชากรวัยทำงาน กลุ่ม Gen Z กับ Gen Y ไม่มีลูก
โดยประเด็นหลังสุดยังมีเรื่องแตกออกมาและนำไปสู่อีกเทรนด์ใหญ่ในสังคมจีนยุคใหม่ นั่นคือคู่รักชาวจีนรุ่นใหม่หันมาเลี้ยงสัตว์กันแทนลูก หรือเป็น Pet parents กันมากขึ้น
เพราะเห็นว่า เป็นรูปแบบการมีโซ่ทองคล้องใจที่พอรับผิดชอบค่าใช้จ่ายไหว ต่างจากการมีลูกที่นอกจากต้องทุ่มให้ทั้งเงิน เวลาแล้ว อาจต้องประสบความภาวะเครียดอีกด้วย

ท่ามกลางตัวเลขคาดการณ์และข้อมูลที่ชี้ว่าเทรนด์นี้จะขยายตัวต่อเนื่อง เช่น อุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงในจีนที่จะโตเฉลี่ยปีละ 16% และมูลค่าตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงที่จะเพิ่มเป็น 15,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 498,000 ล้านบาท) เมื่อถึงปี 2030
นอกจากนี้ ในปี 2030 จำนวนสัตว์เลี้ยงเฉพาะในเขตเมืองจะเพิ่มจนมากกว่าเป็น 2 เท่าของจำนวนเด็กเล็กทั่วประเทศ
สถานการณ์ดังกล่าวทำให้ธุรกิจต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง หรือ Pet economy ขยายตัวและต่อยอดออกไปไม่หยุด พร้อมไอเดียในการธุรกิจใหม่ ๆ ดังที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้
คู่รัก Pent Parents กลุ่ม Gen Z และ Gen Y รวมไปถึงคนโสดวัยเดียวกัน ต่างพากันปล่อยสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะหมาและแมว ให้คาเฟ่ หมาแมวให้เช่าไปเลี้ยง แลกกับการเลี้ยงดู และให้อาหาร พร้อมฝึกให้เหล่า “น้อน ๆ” ได้เข้าสังคมกับสัตว์เลี้ยงตัวอื่น ๆ ในร้าน
หากเป็นหมาแมวที่น่ารัก ลักษณะดีและเป็นมิตรกับคน ทางคาเฟ่ก็อาจให้เงินเจ้าของด้วย เทรนด์นี้เรียกในภาษาจีนว่า เจิ้งเหมาเถาเฉียน ซึ่งแปลเป็นไทยได้ประมาณว่า ไปทำงานหาค่าขนม

หลักฐานยืนยันถึงการเติบโตของเทรนด์ เจิ้งเหมาเถาเฉียน คือ โฆษณาประกาศหาสัตว์เลี้ยงจากฝั่งคาเฟ่หมาแมว และโพสต์ภาพสัตว์เลี้ยงมากมายจากฝั่งเจ้าของบน Xiaohongshu ซึ่งเทียบได้กับ Instagram ของจีน
เจิ้งเหมาเถาเฉียน ถือว่าเป็นคำตอบแบบ Win Win หรือสมประโยชน์ต่อทั้งฝ่ายเจ้าของสัตว์เลี้ยงและคาเฟ่แมว โดยฝ่ายแรกก็คลายกังวลเรื่องสัตว์เลี้ยงช่วงที่งานรัดตัวหรือเมื่อเดินท่องเที่ยว
และยังช่วยลดค่าใช้จ่าย เช่น อาหาร ค่าน้ำค่าไฟในการเลี้ยงดู แถมถ้าโชคดีอาจมีรายได้เข้ามาอีกทางด้วย
ส่วนฝ่ายหลังก็ได้มีสัตว์เลี้ยงใหม่ ๆ หมุนเวียนเข้ามาตลอด โดยที่ไม่ต้องไปเสียเงินก้อนใหญ่ซื้อสัตว์ตัวใหม่ และมีดาวเด่นดึงดูดลูกค้าเข้าร้าน ท่ามกลางการแข่งขันในธุรกิจคาเฟ่สัตว์เลี้ยงจีนที่สูงมาก
ผู้สื่อข่าว CNN ที่ประจำอยู่ในจีนรายงานว่า กวางโจว คือเมืองแรกของจีนที่มีคาเฟ่แมว โดยปัจจุบันอัตราเติบโตของธุรกิจประเภทนี้สูงถึง 200% และมีร้านลักษณะนี้ทั่วจีนมากถึง 4,000 แห่ง

เทรนด์ เจิ้งเหมาเถาเฉียน จะทำให้ทั้ง Pet economy และ Pet parents ในจีนมีแต่จะเพิ่มขึ้น โดยด้านหนึ่งอาจทำให้ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงโตตามที่ประเมินกันไว้ และเป็นการย้ำว่าถึงความเป็นประเทศที่ผุดทางทำธุรกิจใหม่ ๆ หรือเป็นคนมีหัวการค้าของชาวจีน
ทว่า อีกด้านหนึ่ง เทรนด์ เจิ้งเหมาเถาเฉียน ก็กระทบต่อแผนการเพิ่มประชากรเพื่อป้อนสู่ตลาดแรงงานไปกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล
เพราะแม้มีสัตว์เลี้ยงแต่ไม่มีเวลาเลี้ยงก็ยังมีทางออก ผ่านการปล่อยให้คาเฟ่สัตว์เลี้ยงเช่าไปดูแลได้ ดังนั้น บรรดาคนรุ่นใหม่จึงเป็น Pet parents กันต่อไปจนอาจไม่คิดถึงการมีลูกอีกเลย/cnn
–
