เวลา+กาแฟ ฯลฯ โดย วิรัตน์ แสงทองคำ
การเดินทางไป Kyoto ช่วงพีค ในเวลาใบไม้เปลี่ยนสี เป็นอะไรที่เร้าใจนัก
เชื่อแน่อย่างหนึ่ง เป็นช่วงเวลานักท่องเที่ยวเนืองแน่น จะว่าไปเป็นประสบการณ์หนึ่งซึ่งตื่นเต้นและแตกต่าง
ภาพจินตนาการที่นั่นบรรเจิด ฝูงชนอันอัดแน่นบนระเบียง@ Kiyomizu– dera ชื่นชมและเก็บภาพใบไม้เปลี่ยนสีในมุมกว้าง (ภาพ 1) ตัดกับอีกฉากเบียดผู้คนผ่าน Torii @ Fushimi Inari อันเรียงรายเป็นช่องทางเดิน บางช่วงมีเส้นทางโค้งอย่างลึกลับและค่อย ๆ ขยับสูงขึ้น ๆ หวนให้นึกถึงภาพยนตร์เรื่อง Memoirs of A Geisha (ภาพ 2) ทั้งภาพใบไม้เปลี่ยนสีช่วงพีค กับ Torii ช่างสัมพันธ์กัน สะท้อนภาพเป็น Kyoto อย่างมิพักสงสัย และเป็นสัญลักษณ์และสีอันคลาสสิกแห่งญี่ปุ่นอย่างแท้จริง


เป็นปรากฏการณ์เร้าใจกว่าที่ผ่านมา สำหรับนักท่องเที่ยวต่างแดนผู้ต้องวางแผนล่วงหน้า ด้วยเผชิญความไม่แน่นอนของสภาวะอากาศ ปีนี้ฤดูร้อนยาวนานกว่าปกติ ช่วงเวลาฤดูกาลตามมาจึงขยับออกไป อุตุนิยมวิทยาแห่งญี่ปุ่น (Japan Meteorological Corporation หรือ JMC) ปรับเปลี่ยนพยากรณ์ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสี (2024 forecast of autumn foliage viewing dates) ถึง 4 ครั้ง (ภาพ 3) โดยเฉพาะ @ Kyoto เลื่อนออกไปจากปกติราวหนึ่งสัปดาห์

ว่าไปแล้วแบบแผนการท่องเที่ยวซึ่งเรายึดมั่น (โปรดกลับไปอ่าน 2 ตอน ก่อนหน้า) ยังคงใช้ได้ดี ขณะที่ปรับเปลี่ยนไปบ้าง
มาญี่ปุ่น ไม่จำเป็นต้องอยู่ที่พักแบบ self-contained ด้วยทางเลือกมีมากมาย ตั้งแต่แบบฉบับ Fine dining ที่เรียกว่า Kaiseki ณ ร้านเล็ก ๆ ซึ่งต้องจองล่วงหน้า อีกอย่างหนึ่ง-Izakaya แบบฉบับบาร์ญี่ปุ่น มีบริการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กับอาหารว่าง ตระเวนไปหลาย ๆ ร้านก็อิ่มได้ นอกจากนี้ มีร้านอาหารในเครือข่ายหลายแบรนด์รู้จักกันดีในเมืองไทย อาจไปลองเทียบเคียงกัน ที่เรียบง่ายกว่านั้น อาหารทำใหม่ และสำเร็จรูปในกล่อง-บรรจุภัณฑ์ มีให้เลือกมากมายในซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อ แม้กระทั่งตู้กดเครื่องดื่มแบบญี่ปุ่น ก็มีอาหารง่าย ๆ อยู่ในนั้นด้วย
ที่สำคัญเป็นไปตามจังหวะอันควรอย่างยิ่ง เป็นไปตามแบบแผน ปักหลักพักที่หนึ่งที่ใดหลาย ๆ วัน เลือกที่ที่อยู่ในย่านเดินทางสะดวก มีทางเลือก ด้วยระบบขนส่งมวลชนใน Kyoto ดูยุ่งเหยิงพอควร จากนั้นแวะเวียน วนไปตามรัศมีโดยรอบอย่างช้า ๆ และใช้เวลาแต่ละที่ให้นานขึ้น
เวลาที่ผ่านไปอย่างช้า ๆ มองเห็นช่วงเวลาที่แตกต่าง ฉากซึ่งสลับและหมุนเวียนของผู้คน จากเนืองแน่นสู่เนืองแน่นกว่า อาจมีช่องว่างช่วงเวลาผู้คนลดลงอยู่ด้วย อยู่ในบรรยากาศเข้าคิวยาว ๆ ด้วย ก็ไม่เลว เพื่อเข้าร้านอาหาร-ร้านกาแฟ แม้กระทั่งซื้อของกินเล่นตามริมทาง
แผนการหนึ่งซึ่งเป็นทางเลือกที่ดี การเดินช้า ๆ ไปไกล ๆ อย่างที่ตั้งใจทำมา อยู่ที่นั่นทั้งวัน @Arashiyama เดินไปกว่า 2 หมื่นก้าว ราว 14 กิโลเมตร จากป่าไผ่จุดหมายยอดนิยม ฝ่าใจกลางเมือง แวะชมวิวบนสะพาน Togetsukyo เลาะริมน้ำที่มีนักท่องเที่ยวตลอดทาง พอขึ้นที่สูงสู่จุดชมวิว (ภาพ 4) ผู้คนบางลง ตามช่วงเวลาที่บ่ายคล้อยแล้ว ไม่ต้องเข้าคิวบันทึกภาพการเดินทาง ท่ามกลางฉากตระการตาใบไม้เปลี่ยนสีในมุมกว้างไกล

อีกครึ่งวัน @Fushimi Inari เบียดและฝ่าฝูงชนตามช่องประตู Torii ในช่วงต้นทาง ค่อย ๆ เดินทางขึ้นเขาอย่างช้า ๆ ระมัดระวัง ในบางจังหวะมีฝนโปรยปราย ใช้เวลาเกือบชั่วโมงเพื่อไปให้ถึงยอด Mt.Inari ความสูง 233 เมตร ภาพที่ปรากฏข้างบนนั้น เป็นปัจจุบัน เป็นความสัมพันธ์ระหว่าง Torii สัญลักษณ์อันคลาสสิก กับฉากเมืองสมัยใหม่ เชื่อว่าให้ภาพ Kyoto ที่แท้จริง (ภาพ 5 )

อีกแผนการหนึ่งในแบบฉบับ Slow travel คือนั่งนาน ๆ @ร้านกาแฟ เป็นที่น่าสังเกต ร้านกาแฟที่ดีที่น่าสนใจ มักอยู่ในที่ที่เป็นจุดหมายท่องเที่ยวสำคัญ แม้มีคนเต็มร้าน แต่ก็รอคิวไม่นาน เป็นไปได้ว่านักท่องเที่ยวทั่วไป ไม่น่าจะใช่ “คอกาแฟ และคงมีเวลาไม่มากนัก มี 2 แห่งที่ตั้งใจแวะ แห่งหนึ่งอยู่ทางเข้า ก่อนจะเดินไปถึง @ Kiyomizu-dera ว่ากันคัดสรรกาแฟอย่างพิถีพิถัน โดยบาริสต้ามีชื่อที่เป็นผู้ก่อตั้ง (ภาพ 6) อีกแห่งอยู่ทางลง @ Fushimi Inari ดูตั้งใจ จงใจ ออกแบบให้ชื่ออยู่ในวงกลมสีสดใส สีเดียวกับ Torii (ภาพ 7)


พอจะมองเห็นภาพบางมิติ ว่าด้วยความสัมพันธ์ใหม่ ๆ บางระดับ ระหว่างวัฒนธรรมดั้งเดิมที่เป็นเอกลักษณ์แห่งญี่ปุ่น กับวัฒนธรรมใหม่เป็นปรากฏการณ์ระดับโลก
ที่ว่ามา แค่บางฉากและบางตอน กับบางความคิด เกี่ยวกับเมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่นที่มีความสำคัญมิเสื่อมคลาย
–
