เอสซีจี ทำไมยังเซ ปี 67 กำไรเพียง 6,342 ล้านบาท ลดวูบ76% (วิเคราะห์)
ถ้าดูเพียงแค่ตัวเลขกำไรที่เอสซีจี (บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน)) เคยทำได้ปีละหลายหมื่นล้านบาทมาอย่างต่อเนื่อง
แต่ในปี 2567 กลับเหลือเพียง 6,342 ล้านบาท ลดลงถึง 76% เมื่อเทียบกับปีก่อน ก็น่าใจหาย
น่าจะเป็นตัวเลขกำไรที่ต่ำที่สุดในรอบหลายทศวรรษของเอสซีจีทีเดียว
กำไรที่ลดหลัก ๆ มาจากผลประกอบการของโรงงานปิโตรเคมี LSP ที่ประเทศเวียดนาม และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมลดลง
แต่ท่ามกลางความผันผวน เอสซีจี ยังสามารถทำรายได้จากการขายที่ 511,172 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% จากปีก่อน จากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นของเอสซีจี เคมิคอลส์ และเอสซีจีพี
และเอสซีจีมั่นใจในสถานะทางการเงินยังมั่นคงและแข็งแกร่ง โดยมีเงินสดคงเหลือ ณ สิ้นปี 53,331 ล้านบาท
และยังสามารถเคาะปันผล 5 บาท/หุ้น คิดเป็น 95% ของกำไร % ของกำไร รวมเป็นเงิน 6,000 ล้านบาท
ส่วนปัจจัยอื่น ๆ ที่มาซ้ำเติมผลประกอบการมาจากสถานการณ์โลกผนึกรวมกับสถานการณ์ภายในประเทศที่แทบจะไม่มีอะไรสดใส
โลกยังมีความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ วัฏจักรปิโตรเคมี ที่เป็นธุรกิจหลักของเอสซีจียังคงชะลอตัวต่ำสุดในรอบ 20 ปี ในขณะที่ต้นทุนพลังงานที่ยังมีความผันผวน
ส่วนในประเทศการฟื้นตัวและการเติบโตทางเศรษฐกิจก็ยังค่อยเป็นค่อยไป การเบิกจ่ายงบประมาณรัฐที่ล่าช้าจากปีก่อน หนี้สินครัวเรือนยังอยู่ในระดับสูง รวมทั้งยังมีความท้าทายจากสินค้าจากประเทศจีนที่เข้ามาขยายตลาด
สำหรับโครงสร้างรายได้ SCG ปี 2567
รายได้หลัก ๆ ยังมาจากเอสซีจีซี ที่มีรายได้ 210,298 ล้านบาท (10%) แต่ขาดทุน 7,990 ล้านบาท (N/A)
เอสซีจีสมาร์ทลีฟวิงและเอสซีจีดิสทริบิวชั่นแอนด์รีเทลรายได้ 140,165 ล้านบาท (-8%) กำไร 1,087 ล้านบาท (19%)
เอสซีจีพี รายได้ 132,784 ล้านบาท (3%) กำไร 3,699 ล้านบาท (-30%)
เอสซีจีซีเมนต์แอนด์กรีนโซลูชันส์ รายได้ 81,891 ล้านบาท (-5%) กำไร 2,428 ล้านบาท (N/A)
เอสซีจี เดคคอร์ รายได้ 25,563 ล้านบาท (-10%) กำไร 810 ล้านบาท (40%)
ส่วนงานอื่นรายได้ 1,809 ล้านบาท (-52%) กำไร 7,593 ล้านบาท (-63%)
ปีนี้เอสซีจียังคงคาดการณ์รายจ่ายลงทุนและเงินลงทุนอยู่ที่ประมาณ 30,000-35,000 ล้านบาท แน่นอนเมื่อเป็นบริษัทระดับโลก การทำธุรกิจต้องยึดหลัก ESG ตอบโจทย์ทั้งในด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล
ในรายงานของตลาดหลักทรัพย์เอสซีจีระบุว่าจะเร่งดำเนินงานต่อเนื่องในเรื่องเพิ่มสัดส่วนสินค้ามูลค้าเพิ่มสูง ขยายปูนซีเมนต์คาร์บอนต่ำ Gen II และ Gen III
และเร่งขยายปูนซีเมนต์คาร์บอนต่ำไปยังตลาดอาเซียน และยังตั้งรายได้จากสินค้า Green Choice เป็นสัดส่วน 2 ใน 3 ของรายได้จากการขายทั้งหมดภายใน ปี 2573
ถ้าปีงูพิษสงไม่ร้ายนัก ราคาน้ำมันลดลงมีการกระตุ้นเศรษฐกิจจากประเทศจีน ซึ่งจะส่งผลดีต่อธุรกิจปิโตรเคมี
การเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐในประเทศไทยเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ส่งผลดีต่อธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับซีเมนต์และการก่อสร้าง
พร้อม ๆ กับการเติบโตในภูมิภาคที่จะเปิดโอกาสให้ เอสซีจี ได้เข้าไปขยายธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้างในอาเซียนต่อไป
รวมทั้งการลีนองค์กรภายในของเอสซีจีเองเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และแผนงานการขายสินทรัพย์ (Asset divestments) เป็นไปด้วยดี
ช้างตัวนี้อาจจะกลับมายืนตัวตรงได้เร็วขี้น แต่จะเริงระบำได้เหมือนเมื่อหลายปีก่อนหรือไม่ คงต้อง ใจเย็น ๆ
–
Website : Marketeeronline.co /
