เป็นวัยรุ่นว่าเหนื่อยแล้ว แต่ถ้าเป็นวัยรุ่นที่ต้องสอบแอดมิชชั่นอย่างเด็กม.6 นี่สิเหนื่อยยิ่งกว่า เพราะชีวิตในรั้วมหาลัยคือรอยต่อที่สำคัญสู่การเป็นผู้ใหญ่ในอนาคต เด็กม.6 หลายคนจึงเกิดคำถามมากมายในหัวว่า จะเรียนอะไรดี คณะที่เลือกไปมีหลักสูตรการเรียนการสอนอย่างไร หรือคำถามยอดฮิตอย่างจบไปแล้วจะทำอาชีพอะไรได้บ้าง
หลายคนจึงเก็บเอาความสงสัยเหล่านี้ไปหาคำตอบจาก Google หรือไปปรึกษาจากพ่อแม่และคนใกล้ตัว ซึ่งสิ่งที่ได้ก็อาจไม่ถูกต้องเสมอไป แล้วแบบนี้น้องๆ ม.6 จะหาคำตอบให้กับอนาคตของตัวเองได้จากไหนละ

คำตอบก็คือจาก ‘ผู้มีประสบการณ์’ อย่างรุ่นพี่ยังไงละ! เพราะนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยรังสิตทุกคนถูกสอนด้วยประสบการณ์จริง ทั้งการใช้ชีวิตและการเรียนที่ให้ ‘ปฏิบัติจริง’ อยู่เสมอ เพื่อสร้างความเชี่ยวชาญและความชำนาญให้กับนักศึกษา เพราะเหตุนี้รุ่นพี่ที่ม.รังสิต จึงเป็นแหล่งข้อมูลที่ Insight ที่สุดสำหรับการตัดสินใจเลือกที่สำคัญของน้องๆ ม.6
ผ่านคลิปวิดีโอ Open House ออนไลน์ ที่ได้รวบรวมข้อสงสัยเรื่องเรียนต่อจากน้องๆ ม.6 ในหลายคณะ/สาขา ไม่ว่าจะเป็นคณะชื่อดังอย่างคณะทันตแพทยศาสตร์ การแพทย์แผนตะวันออก และนิเทศศาสตร์ เป็นต้น ถ้าอยากรู้ว่าเรียนแพทย์แผนตะวันออกแล้ว การฝังเข็มจะต้องฝังเข็มตัวเองหรือไม่? หรือถ้าเรียนแล้วจะได้เจอพี่ณเดชน์ไหม? ลองมาหาคำตอบจากคลิปวิดีโอด้านล่างนี้กัน
ด้วยความเป็นมหาวิทยาลัยเอกชน ม.รังสิตจึงมีความพร้อมในเรื่องของอุปกรณ์การเรียนการสอนเป็นอย่างมาก อย่างเช่นน้องอั้ม และน้องชมพู่ Dentaroid หรือหุ่นยนต์ที่ใช้สำหรับให้นักศึกษาทันตแพทย์ฝึกทำฟันเสมือนผู้ป่วย ที่สามารถจำลองสถานการณ์ฉุกเฉินทางทันตกรรมที่ไม่คาดฝันให้แก่นักศึกษาทันตแพทย์สามารถแก้ไขสถานการณ์ต่างๆ ได้

หรือการเรียนฝังเข็มของวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก ที่ต้องฝึกฝังเข็มตัวเองก่อน เพื่อที่จะได้เข้าใจถึง ความรู้สึกของคนไข้ ซึ่งถ้าได้ฝึกฝนบ่อยๆ จนเกิดความชำนาญก็จะทำให้ผู้ป่วยไม่เกิดความเจ็บปวดแต่อย่างใด
และนี่เป็นเพียงตัวอย่างของบางคณะ ที่สะท้อนให้เห็นว่ามหาวิทยาลัยรังสิตให้ความสำคัญในเรื่องของประสบการณ์พอๆ ควบคู่กับความรู้ในตำรา ซึ่งถ้าหากดูคลิปวีดิโอแล้วเกิดข้อสงสัยเพิ่มเติม น้องๆ ก็สามารถสอบถามในคอมเม้นท์ของเฟซบุ๊กมหาวิทยาลัยรังสิตได้ทันที จะมีพี่ ๆ ที่มีประสบการณ์จริงคอยตอบทุกข้อสงสัย
ถือเป็นการเปลี่ยนภาพลักษณ์ของมหาวิทยาลัยเอกชนได้เป็นอย่างดี เพราะต้องยอมรับว่าค่านิยมของคนไทยแต่ก่อน ทั้งตัวเด็กและผู้ปกครองมักจะอยากศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยรัฐบาล ส่วนเอกชนคือมหาวิทยาลัยสำหรับเด็กที่แอดฯ ไม่ติด แต่ที่จริงแล้วไม่ใช่อย่างนั้น เพราะสิ่งที่มหาวิทยาลัยรังสิตมีมากกว่าคือ ความหลากหลายของหลักสูตรที่ตรงกับความต้องการของวงการวิชาชีพ และหลักสูตรที่ประเทศยังขาดแคลน โดยเน้นอุปกรณ์การเรียนการสอนทันสมัยครบครัน ที่จะให้นักศึกษาทุกคนได้ฝึกฝนอย่างเชี่ยวชาญ และที่สำคัญคือ ที่นี่ ‘สอนประสบการณ์’ อย่างแท้จริง ซึ่งจะทำให้บัณฑิตทั้งหลายที่จบไปสามารถทำงานได้อย่างมืออาชีพ
