Mitsubishi Heavy Duty 155 ปีแห่งการสรรสร้างนวัตกรรม ตอกย้ำผู้นำด้วย Mission Net Zero ปี 2040

หลังจากได้อิ่มเอมกับอากาศเย็นสบายในฤดูหนาวที่กินเวลายาวนานเป็นพิเศษตั้งแต่ปลายปี 2024 ต่อเนื่องมาถึงต้นปี 2025 ในที่สุด กรมอุตุฯ ก็ประกาศว่า ประเทศไทยเข้าสู่ “ฤดูร้อน” อย่างเป็นทางการ

เมื่ออากาศร้อนมาไวกว่าที่คิด ตลาดเครื่องปรับอากาศก็คึกคักเช่นกัน

และเมื่อพูดถึงเครื่องปรับอากาศ เแบรนด์ที่นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มาพร้อมประสิทธิภาพและคุณภาพระดับสูง ตลอดจนดำเนินกลยุทธ์การสร้างแบรนด์และแผนการตลาดได้อย่างโดดเด่น คงหนีไม่พ้น Mitsubishi Heavy Duty” ที่ครองความเป็นอันดับหนึ่งในใจผู้บริโภคชาวยไทยมานาน

Marketeer พาทุกท่านไปร่วมถอดรหัสไขความลับศาสตร์นวัตกรรมระดับโลกที่พัฒนาอย่างต่อเนื่องมายาวนานถึง 155 ปี เพื่อให้พร้อมตอบสนองทุกความต้องการของผู้บริโภคในทุกยุคสมัย ผ่านการส่งต่อนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ครอบคลุมในทุก ๆ ไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างอย่างลงตัว ตลอดจนการขับเคลื่อนมุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2040 เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ด้วยเทคโนโลยีที่ใส่ใจโลก พร้อมสร้างอนาคตที่ยั่งยืนไปด้วยกัน

155 ปี นวัตกรรมระดับโลกของ “Mitsubishi Heavy Duty” 

Iwasaki Yataro ผู้ก่อตั้ง Mitsubishi Heavy Indrustries, Ltd

Mitsubishi เป็นแบรนด์ที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน โดยมีส่วนสำคัญต่อกองทัพเรืออันเกรียงไกรของจักรวรรดิญี่ปุ่น จุดเริ่มต้นบุกเบิกโดย “Iwasaki Yataro” เด็กหนุ่มที่มีโอกาสเข้าทำงานในอู่ต่อเรือของตระกูล Yamanouchi แห่ง Tosa Clan ซึ่งเป็นตระกูลเก่าแก่ของญี่ปุ่น และค่อย ๆ สะสมความรู้ด้านการต่อเรือพร้อมกับแรงบันดาลใจที่จะสร้างธุรกิจของตนเอง จนได้เริ่มก่อตั้งบริษัทแรก ในปี ค.ศ. 1870 ในนาม “Tsukumo Shokai” โดยประกอบธุรกิจเกี่ยวกับพาณิชยนาวี

จากนั้นลูกหลานได้สานต่อเทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญด้านมอเตอร์เรือ กระทั่งยกระดับธุรกิจสู่บริษัทผลิตมอเตอร์ไฟฟ้าสำหรับเรือบรรทุกสินค้าข้ามมหาสมุทรโดยเฉพาะ หรือพาณิชยนาวีครบวงจร ใน ปี ค.ศ. 1921 พร้อมตราสัญลักษณ์ใหม่ ที่ผสมผสานตราประจำตระกูลของ Iwasaki Yataro ผู้ก่อตั้ง Tsukumo Shokai (รูปเกาลัดสามชั้น) และตราประจำตระกูล Yamanouchi แห่ง Tosa Clan (ใบโอ๊กสามใบ) เป็นที่มาของโลโก้ “ใบพัดสามเพชร”

ทั้งหมดนี้ เป็นจุดกำเนิดของบริษัทผู้สร้างนวัตกรรมมอเตอร์คุณภาพระดับโลก ที่เรารู้จักกันดีในนาม “Mitsubishi Heavy Industries, Ltd.”

ซึ่ง Mitsubishi Heavy Industries มีส่วนสำคัญอย่างมากในการสนับสนุนทั้งยุทธนาวีและอากาศยานให้กับกองทัพญี่ปุ่น ทั้งการผลิตเรือรบ ฐานเรือรบ ตลอดจนเครื่องบินรบ ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เรื่อยมา และยังมีบทบาทสำคัญอีกหลากหลายประการในการฟื้นฟูประเทศเมื่อสงครามจบสิ้น โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจซึ่งพัฒนาต่อยอดเป็นอุตสาหกรรมชั้นนำของญี่ปุ่น ด้วยสินค้าหลากหลายครอบคลุมทั้งภาคพื้นดิน ทะเล อากาศ และอวกาศ

ภายใต้หลักการดำเนินธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับ “ความจริงจังและจริงใจ” พร้อมให้เกียรติและเคารพผู้มีพระคุณ ซึ่งหลักการนี้ถูกนำมาใช้ปฏิบัติต่อลูกค้าซึ่งเปรียบเสมือนผู้มีพระคุณสูงสุด ดังนั้น จึงมุ่งมั่นจริงจังในการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ดีที่สุด มอบความจริงใจ ซื่อสัตย์ ด้วยการมอบผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าทุกท่าน ซึ่งทั้งหมดเป็นเสมือน DNA ที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น ที่ยังคงยึดมั่นและดำเนินมาอย่างยาวนานจนถึงปัจจุบัน

ด้วยต้นกำเนิดการเป็นไลน์อุตสาหกรรมหนัก ทั้งเรือรบ เครื่องบิน ทำให้ Mitsubishi Heavy Industries มีแต้มต่อที่จะสร้างผลิตภัณฑ์ทุกประเภทให้มีนวัตกรรมระดับสูง และหนึ่งในนั้นคือผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศหรือแอร์คอนดิชั่น ที่สร้างชื่อเสียงไปทั่วโลกกับแบรนด์ “Mitsubishi Heavy Duty”

ซึ่งผลิตภัณฑ์แอร์ของ Mitsubishi Heavy Duty ทุกรุ่น ต้องผ่านการทดสอบมากมายและต้องผ่านการ QC 100% ทุกเครื่องโดยหัวหน้าวิศวกรชาวญี่ปุ่น เพื่อมาตรฐานสูงสุดก่อนที่จะส่งสินค้าถึงมือลูกค้า

ขับเคลื่อนธุรกิจอย่างยั่งยืนสู่เป้าหมาย Net Zero ในปี 2040

Mitsubishi Heavy Industries” ประเทศญี่ปุ่น ถือเป็นบริษัทนวัตกรรมขนาดใหญ่ที่มีความเชี่ยวชาญเชิงลึกด้านนวัตกรรม ผ่านการดำเนินธุรกิจภายใต้แนวคิด “MOVE THE WORLD FORWARD” ที่ครอบคลุมธุรกิจอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ตั้งแต่ On land, At Sea, In the sky, In space และ Energy เช่น  ธุรกิจพลังงาน การขนส่ง โครงสร้างสาธารณูปโภค ธุรกิจอวกาศ ธุรกิจการป้องกันประเทศ และธุรกิจทางทะเล เป็นต้น ตลอดจนหลอมหลวมเทคโนโลยีล้ำสมัยมาต่อยอดสู่ธุรกิจที่อยู่อาศัยโดยการพัฒนาเครื่องใช้ไฟฟ้าที่พร้อมยกระดับคุณภาพและประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง จนครองใจผู้ใช้ทั่วโลกมาอย่างยาวนาน

ไม่เพียงแต่นำเสนอนวัตกรรมผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ยังใส่ใจต่อผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อสิ่งแวดล้อมในทุกมิติ โดย Mitsubishi Heavy Industries ได้ตั้งพันธกิจหลักขององค์กร Mission NET ZERO” ประกาศเจตนารมณ์ตั้งเป้าที่จะบรรลุการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์จากการดำเนินงานทั้งหมด ภายในปี 2040 และเพิ่มเป้าหมายใหม่เพื่อให้บรรลุ Net Zero จากห่วงโซ่คุณค่าทั้งหมดภายในปี 2040 (เร็วขึ้นกว่าเป้าหมายที่ทั่วโลกตั้งไว้ในปี 2050 ถึง 10 ปี

MAHAJAK & MACO กุญแจสำคัญสู่ผู้นำ
ที่ครองใจลูกค้าชาวไทยมาอย่างยาวนาน

สำหรับการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยนั้น Mitsubishi Heavy Industries ประเทศญี่ปุ่น ได้ร่วมกับ กลุ่มบริษัทมหาจักร ผู้นำเข้า-จัดจำหน่ายแบรนด์ชั้นนำทั่วโลกที่มีประสบการณ์มากกว่า 50 ปี ก่อตั้ง บริษัท มิตซูบิชิ เฮฟวี อินดัสตรี่ส์-มหาจักรแอร์คอนดิชั่นเนอร์ส จำกัด หรือ MACO ในบทบาทของผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ “Mitsubishi Heavy Duty” 

กุญแจความสำเร็จของ MACO นั้น มาจากการยึดหลัก 3C ในการดำเนินธุรกิจคือ

  1. CHANGE : เปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานของระบบและพิจารณาวิธีใหม่เพื่อพัฒนาให้ดีกว่าเดิม
  2. CHALLENGE : ยกระดับจิตวิญญาณแห่งความท้าทายเพื่อให้ประสบความสำเร็จ
  3. CONTINUE : ความต่อเนื่องจะแสดงถึงศักยภาพที่แท้จริงและการเปลี่ยนที่มาพร้อมกับจิตวิญญาณแห่งความท้าทายจะต้องดำเนินต่อไป

ปัจจุบัน MACO เป็นหนึ่งในผู้นำในอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องปรับอากาศของประเทศไทยที่สามารถผลิตได้มากกว่า 40,000,000 เครื่อง รวมถึงยังได้รับใบรับรอง Made In Thailand ( MiT) รวมถึงมาตรฐานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ISO 9001 ระบบมาตรฐานบริหารงานคุณภาพระดับสากล ISO 14001 มาตรฐานระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เกิดการพัฒนาสิ่งแวดล้อมควบคู่กับการพัฒนาธุรกิจ และ  ISO 45001 ระบบมาตรฐานการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัยของพนักงานและผู้ที่ทำงานภายใต้การควบคุมขององค์กร

ไม่เพียงแต่จัดจำหน่ายภายในประเทศแต่ยังเป็นฐานการผลิตที่สำคัญแห่งหนึ่งสำหรับการส่งออกผลิตภัณฑ์ไปยังอีกมากกว่า 65 ประเทศทั่วโลกอีกด้วย โดยได้รับความเชื่อถือและไว้วางใจจากลูกค้าในด้านคุณภาพมาตรฐาน การส่งมอบที่ตรงเวลา ราคาที่เหมาะสม และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ในส่วนของการผลิตที่ได้มาตรฐานนั้น วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตเครื่องปรับอากาศ Mitsubishi Heavy Duty รวมถึงเทคโนโลยีก็ยังมีมาตรฐานและได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของเทคโนโลยี Inverter แท้ทั้งระบบที่ประกอบด้วย 4 อย่างคือ

  1. DC PAM INVERTER แผงวงจรที่ควบคุมการทำงานของเครื่องให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและประหยัดพลังงาน
  2. DC MOTOR ควบคุมและเปลี่ยนแปลงความเร็วรอบหมุนของมอเตอร์ได้อย่างแม่นยำ
  3. ELECTRONIC EXPANSION VALVE  ควบคุมการไหลของสารทำความเย็นให้อยู่ในสภาวะที่เหมาะสม
  4. DC COMPRESSOR ปรับเปลี่ยนการทำงานของคอมเพรสเซอร์อย่างเหมาะสมทำให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น

ระบบ Inverter แท้ทั้งระบบนี้จะช่วยในเรื่องของการประหยัดพลังงาน และในด้านของความคงทน จะมีการเคลือบ Epoxy Coating และเคลือบสารพิเศษ Blue Fin ที่แผงคอยล์ร้อนตลอดถึงการเลือกใช้คอยล์ทองแดงแท้ 100% เพื่อเพิ่มความแข็งแรงทนต่อการกัดกร่อนในทุก ๆ สภาพอากาศ

นอกจากนี้ เครื่องปรับอากาศ Mitsubishi Heavy Duty ยังเน้นย้ำในการนำเสนอคุณค่าของแบรนด์ที่จะมุ่งเน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลางเพื่อสร้างประสบการณ์ของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์ ให้เกิดความพึงพอใจและเกิดความเชื่อมั่นในคุณภาพของสินค้าและการบริการอย่างสูงสุด พร้อมด้วยการต่อยอดการตลาดให้ตอบโจทย์กับผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น ทั้งในส่วนของการพัฒนาช่องทางการจัดจำหน่ายโดยมีการเพิ่มจุดจำหน่ายสินค้าอย่างเป็นทางการทั่วประเทศ เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงสินค้าได้มากและสะดวกยิ่งขึ้น รวมถึงพัฒนาในด้านของคุณภาพงานบริการหลังการขายให้ครอบคลุมพื้นที่การให้บริการทั่วประเทศ และยึดหลัก BCG Economy ที่จะมุ่งเน้นการพัฒนาแบรนด์สินค้าอย่างยั่งยืน โดยการสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพและทักษะของกลุ่มแรงงานในอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศของประเทศไทย ตลอดจนการให้ความสำคัญกับการลดความสูญเสียในการดำเนินธุรกิจของบริษัท เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป

ทั้งหมดนี้เองเป็นรากฐานสำคัญที่ทำให้เครื่องปรับอากาศ Mitsubishi Heavy Duty สามารถครองใจผู้ใช้งานในประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน

นวัตกรรมเครื่องปรับอากาศ ภายใต้ 3 คีย์เวิร์ดสำคัญ “เย็นเร็ว ทนทาน ประหยัดไฟ”

3 คีย์เวิร์ดสำคัญของการนำเสนอผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศ คือ “เย็นเร็ว ทนทาน ประหยัดไฟ”

  • เย็นเร็ว: เปิดปุ๊บ เย็นปั๊บ ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยอย่าง Jet flow ออกแบบช่องลมโดยใช้เทคโนโลยีเครื่องบินเจ็ต ส่งลมเย็นได้ไกล พร้อมโหมด Hi Power เร่งความเร็วให้ห้องเย็นตามที่กำหนดภายในเวลา 15 นาที เสริมด้วย 3D Auto กระจายลมอัตโนมัติถึง 8 รูปแบบ ให้อุณหภูมิเย็นเท่ากันทั่วทั้งห้อง
  • ทนทาน: อีกหนึ่งเหตุผลสำคัญของการเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศ คือ “ความคงทน” ซึ่ง Mitsubishi Heavy Duty ตอกย้ำความมั่นใจเรื่องความคงทนตลอดอายุการใช้งาน โดยกล้ารับประกันทุกชิ้นส่วนยาวนานถึง 5 ปีสมกับคำว่า Heavy Duty ที่ไม่ใช่เป็นเพียงแค่คำโฆษณา! อาทิ UV Protection Panel การปรับเกรดพลาสติกบน Panel เครื่องปรับอากาศ ทำให้ทนต่อแสงแดด ใช้งานไปนานหน้ากากไม่เปลี่ยนสี หรือแม้แต่การเลือกใช้คอยล์ทองแดง การเคลือบสารพิเศษ Anti Corrosion (หรือ Blue Fin) และการการันตีด้วยการรับประกันทุกชิ้นส่วน 5 ปีเต็ม ก็เป็นการการันตีความทนทานของเครื่องปรับอากาศ Mitsubishi Heavy Duty ได้เป็นอย่างดี
  • ประหยัดไฟ: ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงมากมายที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยให้ประหยัดค่าไฟฟ้า อาทิ ระบบ Real Inverter ผสานพลังความประหยัดกับเทคโนโลยี Inverter แท้ 100% และฟังก์ชันที่ช่วยด้านการประหยัดอีกมากมายในหลาย ๆ รุ่น ทำให้การใช้พลังงานแต่ละหน่วยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ กินไฟน้อยแม้เปิดต่อเนื่องยาวนานตลอดทั้งวัน

โดยมีไลน์โปรดักต์ครอบคลุมทั้ง เครื่องปรับอากาศ สำหรับที่พักอาศัย ในรูปแบบเครื่องปรับอากาศประเภทติดผนัง สำหรับทุกระดับที่พักอาศัย ทั้งแบบ Non-Inverter และ Inverter ตอบสนองต่อความต้องการทุกความเย็นสบายด้วยฟังก์ชันที่หลากหลาย ประหยัดไฟได้มากกว่าด้วยเทคโนโลยีอินเวอร์เตอร์แท้ทั้งระบบและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

เครื่องปรับอากาศ สำหรับอาคารพาณิชย์ขนาดเล็ก มีหลากหลายรูปแบบ อาทิ เครื่องปรับอากาศแบบ 4 ทิศทาง  เครื่องปรับอากาศแบบแขวนใต้ฝ้า และเครื่องปรับอากาศแบบต่อท่อลม ช่วยตอบสนองต่อทุกความต้องการและประหยัดไฟได้สูงสุด เครื่องปรับอากาศ สำหรับอาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ไฮไลท์ ได้แก่ Mitsubishi Heavy Industries KXZ VRF Series มอบประสิทธิภาพสูงในการทำความเย็นและความร้อนสำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์ทั้งหมด ให้ความยืดหยุ่นในการออกแบบระดับสูงสุดปรับปรุงประสิทธิภาพ รวมถึงฟังก์ชันการใช้งานที่เพิ่มขึ้น ระบบมีการปรับปรุงที่สำคัญมากมาย และไมโครไซต์นี้เน้นถึงประโยชน์และฟังก์ชันหลักของเทคโนโลยี VRF ล่าสุดของเรา

Mahajak Service Center 1516
บริการลูกค้าภายใต้หลัก “Omotenashi”

อย่างที่กล่าวไปว่า ภายใต้การดูแลของ “มหาจักร” การันตีคุณภาพได้เป็นอย่างดีถึงคุณภาพสินค้าและบริการที่ยอดเยี่ยม และเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้เครื่องปรับอากาศMitsubishi Heavy Dutyประสบความสำเร็จในไทยมาอย่างยาวนาน

ล่าสุดได้ยกระดับการบริการด้วยการเปิด Mahajak Service Center 1516 เพื่อเป็นศูนย์บริการให้กับลูกค้ากลุ่มสินค้าเครื่องปรับอากาศMitsubishi Heavy Duty(และสินค้าอื่น ๆ ในเครือมหาจักร) โดยพร้อมให้บริการภายใต้หลัก “Omotenashi” หรือการใส่ใจในทุกรายละเอียดและเหนือความคาดหวังของลูกค้า ครอบคลุมครบวงจร  ไม่ว่าจะเป็น ให้คำปรึกษาด้านเทคนิค แนะนำการลงทะเบียนรับประกันสินค้า สอบถามข้อมูลผลิตภัณฑ์ แจ้งรับบริการล้าง/ซ่อม เครื่องปรับอากาศ Mitsubishi Heavy Duty และบริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยสามารถติดต่อรับบริการจาก Mahajak Service Center ได้ที่เบอร์ 1516 ทุกวันวันจันทร์ – เสาร์ ตั้งแต่เวลา 8.30 – 18.00 น.

Mitsubishi Heavy Duty ยังคงตอบโจทย์ความคุ้มค่าให้กับลูกค้า ด้วยการมอบแคมเปญและโปรโมชั่นดี ๆ อีกมากมาย

สามารถติดตามรายละเอียดและความเคลื่อนไหวได้ที่ Facebook Fanpage: Mitsubishi Heavy Duty Thailand รายละเอียดสินค้าเพิ่มเติม : http://www.mitsuheavythai.com, http://www.mahajak.com/mitsuheavythai

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer